

การคะยั้นคะยอ เร่งเร้าให้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ร้องเพลงออกในรายการ”กรรมกรข่าว นอกจอ”โดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และ”น้องไบรท์” เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และยอมรับได้
แต่ความพยายามคาดคั้น คะยั้นคะยอ เร่งเร้าให้ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล เต้นในแต่ละท่าของ ROCKSTAR
ถือว่าเป็นข้อเรียกร้องที่มากเกินไป และอาจก่อให้เป็นปัญหา
ไม่เพียงเป็นปัญหาหากมองจากด้านของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล แต่ยิ่งมองจากด้านของ นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ก็ยิ่งทำให้ รู้ว่าไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น
ปัจจัยอะไรทำให้ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กล้าเสนอต่อ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ในลักษณะคาดคั้นถึงเพียงนั้น
ส่งผลให้”สถานการณ์”ของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล แทบไม่ต่างไปจากที่ก่อนหน้านี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เคยประสบ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เคยประสบ
หรือว่าข้อเรียกร้องของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จะยกระดับและพัฒนาเป็น”ข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธได้”ในท่วงทำนองเดียวกันกับเมื่อออกจาก ดอน คอร์ลิโอเน่
จำเป็นต้องศึกษาท่าที น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล
ต้องยอมรับว่าเมื่อเผชิญกับข้อเสนอในเชิงคาดคั้น เร่งเร้าจาก นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อย่างหนัก น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ใช้ท่าทีที่มีลักษณะประนีประนอม
เมื่อรู้ว่าท่วงทำนองการเต้นแบบ “ลาลิซ่า”เป็นเรื่องยาก ก็ผ่อนปรนให้เป็นการเต้นแบบ”หมีเนย”และพลันที่เต้นออกมาก็น่ารัก น่ายินดี
กระนั้น ดูเหมือนว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จะยังไม่เพียง พอ ยังเรียกร้องอีกว่าต้องเอาท่วงทำนองการเต้นแบบ”ลาลิซ่า”ให้จงได้
แฟนานุแฟนของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ไม่ว่าจะอยู่ในบริบท”คุมไหม ใจร้อน” ไม่ว่าจะอยู่ในบริบท”พี่ไหม ใจร้อน”ย่อมอยู่ในสถานการณ์อึดอัด
เป็นสถานการณ์”หัวร่อมิได้ ร่ำไห้มิออก” นั่นก็คือ ไม่รู้จะช่วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล อย่างไรให้รอดพ้นจากข้อเรียกร้องนี้ได้
นับวันปัญหาการร้องเพลงจะกลายเป็นประเด็นอันร้อนแรงและแหลมคมเป็นลำดับในทางการเมือง
ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหากมาในรายการก็จะต้องร้องเพลง
ไม่ว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช ล้วนประสบมาแล้ว ไม่ว่า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ล้วนประสบมาแล้ว ไม่ว่า นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ล้วนประสบมาแล้ว
มีก็แต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เท่านั้นที่เปี่ยมด้วยความสุข เปี่ยมด้วยความมั่นใจ ณ เบื้องหน้า “กรรมกรข่าว นอกจอ”