
ทีมมะกัน-ทีมไทยแลนด์ | สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
ทีมมะกัน-ทีมไทยแลนด์
ประเมินสอดคล้องกันไม่ใช่เพียงในอเมริกา แต่เป็นทั่วโลก
ว่าการที่นายนายโดนัลด์ ทรัมป์ รอดตายจากการถูกลอบสังหารอย่างหวุดหวิด ส่งผลให้คะแนนนิยมพุ่งลิ่ว
จนน่ากำชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในปลายปีนี้ได้
แน่นอนว่า นายทรัมป์และทีมงานคงโหมประเด็นที่เอื้อประโยชน์นี้อย่างเต็มที่
ตั้งแต่เรื่องเล็กๆเป็นสีสัน อย่างแฟชั่นติดผ้าพันแผลที่ใบหู เลียนแบบนายทรัมป์
ไปถึงเรื่องใหญ่ๆในเชิงหลักการ อย่างประเด็นการยุติความขัดแย้งทางการเมืองด้วยวิธีรุนแรง
แต่กระนั้น ที่น่าสนใจ นั่นคือ ในท่ามกลางความโดดเด่นของนายทรัมป์แบบวันแมนโชว์
ทีมงานหาเสียงก็ไม่ละเลย ในเรื่อง”ทีมงาน”
อย่างที่ผ่านไปหมาดๆ คือการเปิดตัวนาย เจ.ดี. แวนซ์ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ จากรัฐโอไฮโอ เป็นรองประธานาธิบดี
โต๊ะต่างประเทศ มติชนออนไลน์ ให้ข้อมูล ว่านายแวนซ์มีอายุ เพียง 39 ปี
เขากล่าวแนะนำตัวว่าเป็นลูกหลานจากเมืองอุตสาหกรรมชายขอบมิดเดิลทาวน์ ในรัฐโอไฮโอ
“ผมเติบโตในเมืองเล็กๆ …เป็นเมืองชายขอบที่ถูกหมางเมินโดยชนชั้นปกครองของสหรัฐในวอชิงตัน”
“ในวัยเยาว์ของผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก”
แม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เคยเผชิญกับอุปสรรคด้านการเงิน และติดสารเสพติด
จึงทำให้เข้าใจความยากลำบากของประชาชนเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ โต๊ะข่าวต่างประเทศ มติชนออนไลน์ แปลข่าวตอนหนึ่งว่า
“นายแวนซ์ ได้โจมตี กลุ่มอำมาตย์อย่างนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐว่า ต้องรับผิดชอบในเรื่องนโยบายทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และสงครามในต่างประเทศที่ทำร้ายผู้คนในบ้านเมืองของเขา”
อีกทั้งยังเรียกร้องการกลับมาของประเทศที่ “เด็กชายจากชนชั้นแรงงานที่ห่างไกลจากอำนาจ สามารถที่จะยืนบนเวทีนี้ได้”
ในช่วงแรกที่นายแวนซ์เริ่มเล่นการเมืองนั้น เขาได้โจมตีทรัมป์ไว้อย่างมาก
แต่ในปัจจุบันเขากล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีทรัมป์นั้นเข้าใจได้ง่าย พรรครีพับลิกันจะไม่เอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนที่วอลล์สตรีท และจะมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของชนชั้นแรงงาน”
ชัดเจนว่า นาย เจ.ดี. แวนซ์ ถูกชูขึ้นมาในฐานะ “นักการเมืองหนุ่ม”
แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้เฒ่าอย่างโจ ไบเดน ที่กำลังเผชิญแรงกดดันให้ถอนตัวจากการลงชิงประธานาธิบดี เพราะกำลังมีปัญหาเรื่อง”สังขาร”
ขณะเดียวกัน ยังลดโทน”ขวาจัด”และ”ร่ำรวย”ของนายทรัมป์
ด้วยการขับเน้นไปยังการให้ความสำคัญกับคนชั้นล่าง ชนชั้นผู้ใช้แรงงานของนายแวนซ์
“ทรัมป์-แวนซ์”จึงถือเป็นทีมงานที่พยายามทำให้เกิดความ”สมดุล”
มิได้ แยกขั้ว ไปขั้วใดขั้วหนึ่ง โดยเฉพาะขั้วขวาจัดอย่างภาพที่นายทรัมป์มี
นั่นเป็นเรื่องการเมืองของอเมริกา
ซึ่งหากย้อนกลับมามองประเทศไทย บ้าง โดยเฉพาะเรื่องความเป็น”ทีม”
ในเดือนสิงหาคม ที่กำลังจะมาถึง นายทักษิณ ชินวัตร กำลังจะได้รับ”ใบบริสุทธ์”
ซึ่งจะทำให้มีบทบาทในทางการเมืองเต็มที่
ความเต็มที่นี้กำลังถูกจับตามองว่า จะกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว กับ รัฐบาล และเพื่อไทย เพียงใด
หากเป็นทีมเดียวกันได้ ก็น่าจะทำให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนิยมดีขึ้น
แต่กระนั้น มีคนจำนวนไม่น้อย พากันมองและห่วงว่า อาจจะเกิดภาพ “อาทิตย์”หลายดวงขึ้น
ต่างคนต่างแข่งกันทอแสง ทำให้การเมืองที่ควรจะน่าอบอุ่น
กลายเป็นร้อนแผดเผา ขึ้นมาเสียอย่างงั้น
หากเป็นเช่นนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องดีของทีม(เพื่อ)ไทยแลนด์ สักเท่าไหร่
——————–
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

