

ช่วงเวลาเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนอย่างนี้ เป็นฤดูฝนบ้านเรา และยังไม่ถึงเขตเวลาที่กำหนดว่าเป็นฤดูท่องเที่ยว ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวบ้านเราเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป เวลานี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับคนไทยอย่างผมจะท่องเที่ยวบ้านเรา เพราะค่าใช้จ่ายจะย่อมเยากว่าเวลาที่เป็นฤดูท่องเที่ยวที่ต้องไปแข่งขันแย่งที่อยู่ที่กินกับคนต่างประเทศ ถึงจะมีฝนตกนิดหน่อย ถ้าถือคติเสียว่า “อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน” ก็เก็บกระเป๋าไปเที่ยวได้
ลองว่าใจเราบอกว่าให้ไปเที่ยวเสียอย่าง เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ครับ
ช่วงวันหยุดยาวกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมจึงหอบผ้าหอบผ่อนไปเที่ยวจังหวัดตรัง
แน่นอนว่า อายุขนาดผมนี้จะบอกว่าไม่เคยไปจังหวัดตรังมาก่อนเลยย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
แต่เนื่องจากสาเหตุหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ผมต้องเว้นวรรคจากการไปเมืองตรังมาบ้าง
โอกาสนี้จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะกลับไปตรวจสอบดูว่า หมูย่างเมืองตรังยังอยู่ดีมีสุขหรือไฉน
ก่อนจะพูดถึงเรื่องอื่นต่อไป ขอบ่นเสียหน่อยครับว่า อาหารการกินของเมืองตรังนั้นหนักหน่วงมาก
เริ่มตั้งแต่มื้อเช้าเป็นติ่มซำราคาเป็นมิตรที่มีขายอยู่แทบทุกหัวถนน แถมด้วยหมูย่างเมืองตรังซึ่งมีรสชาติของตัวเองโดยเฉพาะ ไม่ซ้ำใคร
อิ่มแปล้จากมื้อเช้าไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง มื้อกลางวันก็ตามมาติดๆ ตอนบ่ายกินขนมตามร้านกาแฟพร้อมเครื่องดื่มถูกใจอีกหนึ่งยก
ทันใดนั้นมื้อเย็นแสนอร่อยก็มากอดคอทักทายเราเสียแล้ว
ยังครับ ยังไม่จบ ถ้าจะให้สมบูรณ์แบบก็ต้องต่อด้วยโรตีและขนมหวานนานาชนิด
ครบทุกรายการแล้วค่อยกลับไปนอนอืดที่โรงแรม
เล่ามาอย่างนี้แล้วอย่าเผลอคิดว่าผมเห็นแก่กินอย่างเดียวนะครับ เที่ยวผมก็ไปเที่ยว มีทั้งไปตามวัดวาอารามต่างๆ ลงทะเลไปตลอดวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไปท่องเที่ยวที่สวนพฤกษศาสตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่ที่ตั้งใจจะนำมาเล่าสู่กันฟังวันนี้เป็นรายการพิเศษ คือ การไปท่องเที่ยวที่ “ถ้ำเลเขากอบ” ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มีทั้งความสวยงามและการผจญภัยผสมรวมกันอยู่อย่างลงตัว
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อราว 30 ปีมาแล้ว มีผู้ค้นพบว่า ภูเขาลูกใหญ่ชื่อเขากอบ มีช่องว่างพอพายเรือลอดเข้าไปได้ ลักษณะภายในช่องว่างที่ว่านี้เป็นถ้ำดีๆ นี่เอง
แต่การเดินทางภายในนั้นต้องใช้เรือเป็นพาหนะเพราะเพดานถ้ำต่ำมาก ระยะทางที่อยู่ภายในถ้ำโดยมีภูเขาทั้งลูกอยู่บนหัวของเรายาวไม่ใช่เล่น แต่ในที่สุดเราก็ไปโผล่ออกที่ปลายถ้ำอีกข้างหนึ่ง ถึงตรงนั้นก็หายใจได้โล่งท้องแล้ว
มีการเปรียบเทียบประหนึ่งว่าเราพายเรือเข้าถ้ำไปตั้งแต่ตอนหางของมังกร ท่องเที่ยวเข้าไปในท้องมังกร แล้วก็ไปโผล่ออกสู่แสงสว่างอีกครั้งหนึ่งตรงหัวมังกร
พาหนะที่ใช้เดินทางนี้เป็นเรือท้องแบน มีคนพายเรือที่ทำหน้าที่เป็นไกด์ด้วยสองคน ประจำการอยู่หัวเรือคนหนึ่ง ท้ายเรือคนหนึ่ง
เรือแต่ละลำให้บริการนักท่องเที่ยวได้สี่คน โดยนั่งเรียงเป็นคู่ คู่แรกกับคู่หลังไม่นั่งติดกันนะครับ ต้องเว้นพื้นที่ไว้สำหรับคู่แรกนอนหงายล้มตัวลงไป จะได้ไม่ไปประดิษฐานอยู่บนร่างกายของคู่ที่สอง
ส่วนคู่ที่สองเวลานอนหงายไปแล้วก็มีพื้นที่ว่างอยู่ข้างหลังไม่ตกหรือยื่นไปจากลำเรือเช่นเดียวกัน
ตั้งแต่เริ่มแรกที่ลอดเข้าถ้ำไป และเราทุกคนนอนหงายอย่างที่ว่า เหลือแต่คุณคนที่เป็นพนักงานพายเรือและเป็นไกด์ตรงหัวเรือท้ายเรือยังนั่งอยู่เป็นปกติ แต่หมอบต่ำบ้างตามสถานการณ์ บางเวลาเพดานถ้ำแทบจะจิ้มพุงผมเลยครับ แขม่วท้องเสียแทบแย่
แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของคุณไกด์ทำให้ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล เป็นการผจญภัยที่ได้ลุ้นเล็กน้อยและเป็นประสบการณ์ที่สนุกสมใจครับ
ประเด็นมีอยู่ว่าการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ ไม่ได้มีบริษัทใดมาเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ ไม่มีใครเป็นขาใหญ่หรือนักเลงเจ้าพ่อรับสัมปทานไปบริหารแล้วกินหัวคิว
หากแต่ว่า การบริหารระบบทั้งหมดนี้ดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบ ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ตรงปากทางเข้าถ้ำนี่เอง
การบริหารที่ว่านี้เริ่มตั้งแต่ อบต.เขากอบ เป็นคนลงทุนจัดหาเรือมาให้บริการ
ปลูกสร้างอาคารจำหน่ายตั๋วและทำท่าเทียบเรือ มีความสะดวกปลอดภัยในการขึ้นลง
จากจุดที่เป็นท่าเทียบเรือไปถึงปากทางเข้าถ้ำ ภูมิประเทศเป็นลำธารยาวประมาณ 200 เมตร
นอกจากป่าไม้ที่อยู่ตามธรรมชาติแล้ว อบต.ดังกล่าวได้เป็นธุระหาต้นไม้มาปลูกประดับความสวยงามเพิ่มขึ้น และเป็นการปลูกที่คนดูแบบผมไม่รู้สึกว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมหรือขวางหูขวางตาแต่อย่างใด
ในส่วนของคนพายเรือที่ทำหน้าที่ไกด์ประจำเรือแต่ละลำ มีการฝึกซ้อมกติกาการทำหน้าที่ชัดเจน รายได้การให้บริการที่ อบต.เป็นคนจัดเก็บในราคาเหมาลำละ 300 บาท
ไต่ถามแล้วได้ความว่าคนพายเรือแต่ละคนได้ส่วนแบ่งคนละ 100 บาท ส่วนเงินที่เหลืออีก 100 บาทนั้นตกเป็นของ อบต. สำหรับใช้จ่ายในการดูแลบำรุงสถานที่และระบบต่างๆ ให้สามารถทำงานได้เป็นปกติ
ถ้ายังเหลือจากนั้นก็เป็นผลประโยชน์ส่วนรวม ที่จะนำไปใช้ทะนุบำรุงชุมชนของเขาต่อไป
ฟังหางเสียงจากคุณคนพายเรือลำของผมดูแล้ว ฟังดูมีทั้งความสุขและความภาคภูมิใจระคนกันอยู่
แน่นอนว่าความสุขนั้นได้มาจากการได้รับรายได้จากการประกอบอาชีพนี้ แต่ก็มีข้อแม้นะครับว่า หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากพอสมควรและสม่ำเสมอ ข้อนี้เราต้องช่วยกันครับ
แต่อีกข้อหนึ่งที่ว่าความภาคภูมิใจนั้นหรือคืออะไร
จับความได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจว่าการท่องเที่ยวที่นี่เป็นกิจการของชุมชนด้วยกันเอง ของดีที่มีอยู่ตามธรรมชาติที่ได้มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างฐานะที่เป็นกองกลาง ไม่ได้เป็นสมบัติของใครคนใดคนหนึ่ง
อบต.ก็มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในท้องถิ่นในตำบล มีอะไรก็สามารถพูดจาหารือกันได้ ไม่ต้องอ้อมค้อมผ่านระบบราชการยาวไกล
เห็นไหมครับว่าในสเกล scale ขนาดเล็กเช่นนี้ คำว่าระบอบประชาธิปไตยก็ดี คำว่ากระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นก็ดี ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า สามารถทำงานได้ในประเทศไทย
ผมเองตระหนักในความจริงว่า คำทั้งสองคำที่กล่าวมาข้างต้น ต้องใช้เวลาและใช้ความเข้าใจ ความร่วมมือจากคนหมู่มาก ข้อสำคัญคืออย่าให้มีใครมาล้มกระดานเสียกลางคันก็แล้วกัน
โชคดีที่ตำบลเขากอบไม่เคยมีใครเสียสติลุกขึ้นทำปฏิวัติรัฐประหาร
อบต.ที่ไหนก็ตามถ้ามีการทุจริตประพฤติมิชอบ ก็ต้องจัดการกันตามกฎหมาย จะต้องติดคุกติดตะรางก็ว่ากันไป
แม้ไม่ใช่เรื่องทุจริต แต่ถ้าความเห็นของคนหมู่มากอยากเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร คนหมู่มากนั่นเองก็สามารถเปลี่ยนทีมบริหารได้โดยใช้บัตรเลือกตั้งเป็นเครื่องมือ
ระหว่างหนทางที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง การใช้สิทธิใช้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ หรือการตรวจสอบตามครรลองที่ไม่ขัดต่อกฎหมายก็เป็นความชอบธรรมที่ปฏิบัติได้
วิถีประชาธิปไตยเป็นเช่นนี้ครับ เล่นกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการยึดอำนาจ ไม่มีการคว่ำกระดาน เขียนกติกาโกงคนเล่นที่ไม่ใช่พวกเรา เป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมและไม่ได้ร่วมแค่วันเดียวเท่านั้น แต่ร่วมกันทุกวัน ร่วมกันตลอดชีวิต
ใครก็ตามที่คิดหรือพยายามดองเค็มระบอบประชาธิปไตยของเมืองไทยให้เป็นลูกกรอกอยู่ชั่วนาตาปี ต้องเปิดตาเปิดใจให้กว้าง และอย่าไปคิดแบบเข้าข้างตัวเองเป็นอันขาดว่า เมืองไทยของเราไม่เหมือนคนอื่น เราจะย่ำเท้าอยู่อย่างนี้ใครจะทำไมฮึ
คนไทยมีงวง มีงาหรือมีหงอนผิดกว่ามนุษย์โลกหรือครับ จึงต้องใช้กติกาผิดมนุษย์อยู่คนเดียว
ถ้าสงสัยว่า การบริหารจัดการของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ทำได้จริงหรือไม่ เดี๋ยวเรานัดไปเที่ยวที่ถ้ำเลเขากอบกันดีไหมครับ
อยู่ในที่มืดตอนมุดเข้าถ้ำสักสิบห้านาที พอโผล่ออกมาตรงปลายทาง ตาจะสว่างดีนักแล
ในวันที่เขียนหนังสืออยู่นี้ นึกชื่อหลายคนออกทีเดียวว่า น่าชวนไปเที่ยวด้วยกันชะมัด
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022