

การคิดเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ความคุ้มค่า คุ้มราคาอย่างละเอียดลออก่อนควักเงินออกจากกระเป๋า ต้องยกนิ้วให้คนญี่ปุ่น เขาทำกันจนเป็นนิสัยในชีวิตประจำวัน การใช้จ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค การลงบัญชีรายรับ-รายจ่ายประจำเดือน แบ่งแยกการใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าที่พัก ค่าน้ำ-ไฟ ค่าอาหาร ค่าท่องเที่ยว ฯลฯ ไปจนถึงส่วนที่เก็บออมเพื่อวัยเกษียณ
หลักสำคัญคือ ประหยัดเงินมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในวันนี้เพื่อวันหน้าที่ไม่แน่นอน
ระยะนี้ เกิดเทรนด์คนโสดญี่ปุ่นนิยมหาโรงแรมอยู่แบบระยะยาว(ホテル暮らし)กันมากขึ้น
ส่วนหนึ่งมาจากแนวความคิดแบบมินิมอล(ミニマリズム)พยายามมีของใช้ให้น้อยที่สุด เฉพาะของจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
คนโสดตัวคนเดียวไม่มีครอบครัวเป็นภาระ อยู่ที่ไหนก็ง่าย ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องการพื้นที่กว้างขวางสำหรับคนในครอบครัว
จึงเกิดมีประเด็นให้คิดว่า แทนที่จะเช่าบ้าน เช่าอพาร์ตเมนต์ หรือผ่อนบ้านของตัวเอง ซึ่งล้วนต้องใช้เงินไม่น้อย สู้ไปอยู่โรงแรมแทนจะดีกว่า
ประหยัดกว่าไหม?
ถ้าเลือกได้ก็อยากอยู่โรงแรมใกล้ที่ทำงาน เนื่องจากชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นต้องใช้เวลาวันละหลายชั่วโมงอยู่ในรถไฟที่แออัดเป็นปลากระป๋อง เดินทางจากที่พักซึ่งมักจะอยู่ชานเมืองเข้ามาทำงานในเมือง เลิกงานมืดค่ำต้องนั่งรถไฟหลายต่อ ออกจากสถานีรถไฟแล้ว บางคนต้องเดินหรือขี่จักรยานที่จอดไว้ที่สถานีต่อไปจนถึงบ้าน
ภาพพนักงานออฟฟิศโงกหลับคออ่อนคอพับอยู่ในรถไฟ จึงเป็นภาพชินตาเป็นปกติ หากได้อยู่ใกล้ที่ทำงานจะประหยัดเวลาเดินทางไปได้หลายชั่วโมง
นอกจากนี้ รูปแบบของการทำงานที่เปลี่ยนไป ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ การอยู่โรงแรมนอกเมือง หรือต่างจังหวัดก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่เคยมีใครคิดมาก่อน
อีกทั้งตอบโจทย์ของหนุ่มสาวขี้เบื่อ ไม่อยากอยู่ที่เดียวนานๆ สามารถย้ายโรงแรมไปตามใจชอบได้อีก
ทีนี้ลองคำนวณค่าใช้จ่ายของการอยู่โรงแรมระยะยาว แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับระดับของโรงแรม มีทั้งแพงและถูก โรงแรมใกล้ที่ทำงานมักเป็นแหล่งชุมชน ราคาต่อคืนแพงไม่น้อย
โรงแรมใกล้สถานีรถไฟไม่ได้มีแต่โรงแรมเพื่อนักท่องเที่ยวซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง ยังมีโรงแรมสำหรับนักธุรกิจที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ต้องการเพียงพักค้างคืน ตอนเช้าต้องรีบไปติดต่อธุรกิจ กว่าจะกลับมาก็ถึงเวลานอนแล้ว เป็นบิสิเนสโฮเต็ล ขนาดห้องไม่ใหญ่ แต่มีอุปกรณ์ครบ
โรงแรมบางแห่งจึงเริ่มมีโปรแกรมรายเดือนในราคาน่าสนใจ เช่น เฉลี่ยคืนละ 3,000 เยน (720 บาท)
ตามรายงานการสำรวจ “ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนที่อยู่คนเดียว” ของกระทรวงกิจการสาธารณะ?????ปี 2023 ครัวเรือนคนเดียวมีค่าใช้จ่ายด้านอาหารเฉลี่ยเดือนละ 42,049 เยน (10,091 บาท) อยู่โรงแรมทำอาหารเองไม่ได้ มื้อเช้าและเที่ยงพึ่งร้านสะดวกซื้อได้ มื้อเย็นกินตามร้านอาหาร เฉลี่ยวันละ 2,000 เยน (480 บาท) อยู่โรงแรมทั้งเดือนค่าอาหารจึงแพงกว่าเล็กน้อย
ส่วนเรื่องซักผ้า อยู่โรงแรมใช้บริการเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ และค่าอบผ้า สัปดาห์ละ 2 ครั้ง รวม 3,200 เยน (768 บาท)
เมื่อรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ของการพักที่บิสิเนส โฮเต็ล แบบประหยัดสุดๆ ประมาณเดือนละ 1.8 แสนเยน (43,200 บาท)
มาดูข้อดีข้อเสียของการอยู่โรงแรม ตามวิธีคิดแบบคนญี่ปุ่น
ข้อแรก คือ ความสะดวก โรงแรมอยู่ใกล้สถานีรถไฟ จะไปไหนก็สะดวก ยิ่งถ้าอยู่ใกล้ที่ทำงานก็ไม่เครียดกับการเดินทางที่เสียเวลาสูญเปล่า เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่สนใจได้ นอกจากนี้ ยังย้ายโรงแรมได้ง่ายๆ ไม่เหมือนการย้ายบ้านหรือห้องเช่าซึ่งต้องอยู่ให้ครบตามสัญญา อีกทั้งต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ตอนทำสัญญาเข้าอยู่ ทั้งค่ามัดจำ เงินกินเปล่า ค่าขนย้าย เป็นต้น ต้องรักษาสภาพเดิมให้ดีที่สุด มิฉะนั้นจะถูกปรับเงินยิบย่อยอีก
เรื่องการทำความสะอาด ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะมีพนักงานโรงแรมมาบริการทุกวัน ที่นอนหมอนมุ้งสะอาดเอี่ยมยามกลับมาถึงตอนค่ำ ไม่ต้องตื่นเช้าเพื่อเอาขยะไปทิ้งให้ทันเวลา ไม่ต้องคัดแยกขยะกระดาษ ขวด กระป๋องไว้ในห้อง จะทิ้งอะไรก็ตามสบาย เดี๋ยวพนักงานจัดให้ ข้อนี้ถูกใจคนขี้รำคาญ
น้ำ ไฟ แอร์ ฮีตเตอร์ อ่างอาบน้ำอุ่น ใช้ได้เต็มที่ตามสะดวก มีบริการ Wi-Fi ฟรี ถ้าเช่าห้องอยู่เองมีค่าใช้จ่ายเหล่านี้และต้องประหยัดเต็มที่
ความสะดวกสบายอีกอย่างหนึ่ง คือ พนักงานคอยบริการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่น แนะนำการท่องเที่ยว เจ็บป่วยฉุกเฉิน รับ-ส่งพัสดุ เป็นต้น บางแห่งมีห้องยิม เซาน่า ใช้ฟรีสำหรับผู้พัก ไม่ต้องไปสมัครสมาชิกของที่อื่น ประหยัดเงินได้อีก
ข้อเสีย…มีแน่นอน ถ้าเลือกระดับโรงแรมดีๆ ค่าห้องทั้งเดือนแพงกว่าเช่าห้องอยู่แน่นอน แม้จะประหยัดได้จากส่วนของค่าสาธารณูปโภคต่างๆ จึงต้องค้นหาโรงแรมที่มีโปรโมชั่น และคำนวณค่าใช้จ่ายของตัวเองให้ดี
การอยู่โรงแรมทำให้ไม่ได้ทำอาหารเอง ต้องกินตามร้าน กินเพลินค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็สูงตามไปด้วย การกินอาหารนอกบ้านบ่อยเกินไป อาจทำให้มีปัญหาด้านสุขภาพได้ เรื่องนี้สำคัญสำหรับคนญี่ปุ่นมาก ต้องมีเวลาทำอาหารสะอาด มีประโยชน์ต่อร่างกายตามหลักโภชนาการ
ห้องพักของโรงแรมราคาประหยัด ไม่กว้าง ไม่มีพื้นที่เก็บของมากนัก ญี่ปุ่นมี 4 ฤดู เสื้อผ้าเปลี่ยนไปตามฤดูกาล พ้นฤดูหนาวแล้วจะเอาเสื้อโค้ต ผ้าพันคอ ถุงมือ ไปเก็บไว้ที่ไหน จะทิ้งเลยหรือจะเช่าโกดังเก็บของ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแน่นอน
สำหรับคนที่ชอบชวนเพื่อนมาสังสรรค์เฮฮาที่ห้อง อยู่โรงแรมทำไม่ได้แล้ว บรรยากาศก็ไม่ใช่ ห้องก็แคบเกินไป จะคุยกันนานหน่อยต้องไปที่ล็อบบี้ โรงแรมขนาดประหยัดล็อบบี้ก็เล็กตามไปด้วย
เมื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการอยู่โรงแรมระยะยาวแล้ว ลองเข้าพักระยะสั้นดูก่อนว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองหรือไม่
สิบปากว่า ไม่เท่าลองอยู่เอง …
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022