เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

หลังเกิดเหตุไฟไหม้

30.09.2024

คงพอจำกันได้ว่า เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม เกิดเพลิงไหม้ที่ตรอกโพธิ์ เยาวราช หลังเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยกรุงเทพมหานครออกประกาศเกณฑ์การช่วยเหลือ อาทิ ค่าจัดการศพ ไม่เกิน 29,700 บาท ค่ารักษาพยาบาล ไม่เกิน 2,000 บาท ค่าอาหาร มื้อละไม่เกิน 50 บาท

ในตอนนั้น ยังมีผู้สื่อข่าวไร้เดียงสาคนหนึ่ง อุตสาห์ไปสำรวจและรายงานว่า บริเวณดังกล่าว มีสายไฟและสายสื่อสารมากมายระโยงระยาง เหมือนอยากจะสรุปว่า เป็นสาเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้

แม้ว่าข่าวร้ายนี้ ตัวเลขแฮชแท็กวันนั้นขึ้นไปสูงสุด และมีข่าวในทุกสื่อต่อเนื่องอีกสองสามวัน แต่มาถึงวันนี้ ข่าวนั้นก็เงียบหายไปแล้ว

 

มองบ้านมองเมืองฉบับนี้ เลยจะพาไปมองข่าวไฟไหม้ในเยาวราช ที่เกิดขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีก่อน อาศัยข้อมูลในรายงานวิจัย เรื่องอัคคีภัยกับการแปรรูปเมือง กรุงเทพมหานคร ที่ได้ศึกษาเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในเยาวราช รวมทั้งการดำเนินงานต่างๆ หลังเกิดเหตุ

ในประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2449 มีข่าวเพลิงไหม้เกิดขึ้นต่อเนื่องกันถึงห้าครั้งในพระนคร คือวันที่ 6 เมษายน เวลาสามยาม ที่ห้องแถวหน้าวัดสัมพันธวงศ์ วันที่ 7 เมษายน เวลาสามโมง ที่หน้าร้านอยู่ฮวดหลี ในสำเพ็ง วันที่ 12 เมษายน เวลาค่ำ ที่โรงแถว รวม 84 ห้อง ริมถนนสามเสน วันที่ 13 มกราคม เวลาห้าทุ่ม ที่ตึกแถวสองชั้น ในตรอกวัดตึกเก่า และวันที่ 14 มกราคม เวลาสองทุ่ม ที่โรงเลื่อย ริมคลองโอ่งอ่าง

หรือในเดือนธันวาคม พ.ศ.2462 มีข่าวเพลิงไหม้สี่ครั้ง ที่บ้านพระยาราษธนาพิพัฒน์ ตลาดพูล ตึกแถวในตรอกพระพิเรน สามยอด ที่ร้านขายหนังสือเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนมหาชัย และที่ตลาดบ้านถวาย

เท่ากับว่า เหตุเพลิงไหม้ในตอนนั้น เกิดขึ้นบ่อยครั้งกว่าในตอนนี้ แต่ที่น่าสนใจคือ การดำเนินงานหลังเกิดเหตุยังต่างกัน

อย่างเช่น มีประกาศกระทรวงนครบาล ว่า ด้วยเหตุเพลิงไหม้ที่ถนนเจริญกรุง ที่มีร้านค้าบ้านเรือนหลังคามุงจาก และฝาไม้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีพระราชดำริว่า โรงเรือนเหล่านี้ล้วนเป็นเชื้อเพลิง อีกทั้งยังสกปรก ไม่เจริญตาแก่ผู้สัญจรไปมา จึงโปรดเกล้าฯ ออกประกาศ ห้ามไม่ให้ผู้ปลูกสร้างด้วยไม้ หรือไม้ไผ่ ในตำบลเพิ่งเกิดเพลิงไหม้

หลังเหตุเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2449 ในอำเภอสำเพ็ง ที่บ้านเรือนตั้งเบียดเสียดกัน ทางเข้าออกคับแคบคดเคี้ยว พนักงานจะสูบน้ำเข้าดับเพลิงไม่ได้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมศุขาภิบาล ตัดถนนกว้าง 5 วา หรือ 10 เมตร ตั้งแต่ถนนราชวงศ์ ไปออกคลองโรงกระทะ

หรือหลังเพลิงไหม้ ที่ตำบลตลาดน้อย วันที่ 26 ธันวาคม และวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2466 มีประกาศให้ขยายถนนเยาวราช และถนนตลาดน้อย

ถนนหลายสายในเยาวราช จึงมาจากเหตุเพลิงไหม้ อาทิ ถนนราชวงศ์ จากถนนเจริญกรุง ผ่านถนนเยาวราช ไปสิ้นสุดท่าน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาจากเหตุเพลิงไหม้ตรอกกงสีลังเมื่อปี 2435

ถนนทรงวาด เริ่มจากถนนราชวงศ์ ตรงใกล้กับท่าน้ำราชวงศ์ ไปสิ้นสุดที่ถนนเจริญกรุง ใกล้กับตลาดน้อย และถนนอนุวงศ์ เริ่มจากถนนจักรวรรดิ สิ้นสุดถนนราชวงศ์

ส่วนถนนวานิชหนึ่ง เริ่มจากถนนจักรวรรดิ ผ่านถนนราชวงศ์ ไปถึงถนนโยธา หลังจากเกิดเพลิงไหม้หลายครั้งระหว่างปี 2449-2450 ถนนทรงสวัสดิ์ เริ่มจากถนนเจริญกรุง ผ่านเยาวราช ถึงถนนทรงวาด ถนนวานิช 1 และถนนโยธา ตัดขึ้นหลังเหตุ พ.ศ.2449

ยังมี ถนนพาดสาย จากถนนเยาวพานิช ถึงถนนทรงสวัสดิ์ ที่มาจากเหตุไฟไหม้ศาลเจ้าอาเนี้ยเก็ง พ.ศ.2451

 

ในรายงานวิจัย จึงสรุปว่า ระบบการจราจรที่คล่องตัว บริเวณย่านการค้าไชน่าทาวน์ในวันนี้ มาจากการตัดถนนมากมาย หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้แต่ละครั้ง

รวมทั้งสภาพภูมิทัศน์ที่กำลังไวรัลอยู่ในตอนนี้ ก็มาจากการประกาศเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ แนวอาคาร ทางหนีไฟ เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ในเวลาต่อมา

คงเป็นเพราะคนรุ่นเก่ารับรู้และเข้าใจปัญหาบ้านเมือง จึงอาศัยวิกฤตเพลิงไหม้ เป็นโอกาสสร้างบ้านเมือง ให้คนอยู่อย่างปลอดภัย และมีความสวยงามเป็นที่รู้จักทั่วโลก •

 

มองบ้านมองเมือง | ปริญญา ตรีน้อยใส

 

 

 

 

 



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

รมว.กต.ขอคนไทยรวมน้ำหนึ่งใจเดียวกัน-พาประเทศเดินหน้าไม่ติดกับสุญญากาศ ยืนยันพร้อมรักษาอธิปไตยชาติ
ปธ.กมธ.ต่างประเทศ ประณามพฤติกรรมผู้นำกัมพูชา ทำลายมิตรภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ
ส่องความเห็นนักวิชาการเตือน “แพทองธาร” อย่ายุบสภา หวั่นเปิดทางรัฐประหาร – ชี้การเจรจาลับหากช่วยหลีกเลี่ยงสงคราม ชี้สังคมไทยควรตั้งสติ-อย่าตกเป็นเครื่องมือสร้างวิกฤต
กต.เชิญทูตเขมร รับหนังสือประท้วงปมกัมพูชาปล่อยคลิปเสียงนายกฯ ผ่านสื่อ – ซัด! ไร้มารยาททางการทูต – ผิดมารยาทระหว่างรัฐ – ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจ 2 ประเทศ – ย้ำไม่ว่านายกฯ จะเป็นใครต้องให้เกียรติ
“ณัฐพงษ์” ชี้วิกฤตผู้นำ “แพทองธาร” ไม่อาจเป็นที่ไว้วางใจได้ต่อไป เรียกร้องนายกฯ รับผิดชอบทางการเมือง ยุบสภาคืนอำนาจประชาชน
CJ MORE เปิดเส้นทางเชื่อมร้อยชุมชน หนุนคนตัวเล็ก สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน
กรมการปกครองต้อนรับ กมธ.ปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานด้านกฎหมาย
Thai-style Neoclassical Revival กับความทรงจำที่เพิ่งสร้าง บนถนนราชดำเนิน (3)
การปกครองเปลี่ยน-แฟชั่นปรับ : แฟชั่นสมัยคณะราษฎร-สงคราม (9)
มหากาพย์ ปราบ ‘คางคกอ้อย’ (2)
“ลูกแบด ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภา” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯเลือกใหม่
พรรคไทยสร้างไทย แถลงการณ์ จี้ นายกฯ แสดงความรับผิดชอบด้วยการ “ลาออก”