บุกจับ ‘แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์’ ไลฟ์ขายทองไม่ตรงปก ดารา-คนดังโร่แจงวุ่น! รวบอีกรายแม่ใบหนาด

ยุคที่การค้าขายออนไลน์เฟื่องฟูสุดขีด สินค้าตัวไหนอยากขายดีต้องขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่ “ทองคำ” สินค้ามูลค่าสูง ก็ถูกนำมาขายผ่านช่องทางไลฟ์สด

เช่นกรณีของ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือแม่ตั๊ก และนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือป๋าเบียร์ สามีภรรยา เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมและห้างเพชรทองเคทูเอ็น ที่สร้างแรงจูงใจด้วยราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด จนทำยอดขายนับล้านบาทต่อหนึ่งไลฟ์ สร้างรายได้มหาศาล จนต้องโพสต์ภาพความรวยของตนให้สังคมได้รับรู้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เป็นประจำ

แต่เมื่อลูกค้าบางส่วนนำทองที่ซื้อมาไปขายต่อเพื่อหวังทำกำไรจากส่วนต่างราคา ความจริงก็ปรากฏ!!

เรื่องราวของแม่ตั๊ก เริ่มเป็นกระแสขึ้นเมื่อมีผู้โพสต์คลิปลง TikTok ว่าได้ซื้อดอกกุหลาบทองคำ จี้ไอ้ไข่ทองคำ และลูกประคำทองคำ มาจากร้านขายทองออนไลน์ชื่อดังในราคา 1,993 บาท หวังจะนำมาขายต่อ แต่ปรากฏว่าทางร้านที่ตั้งใจนำไปขายไม่รับซื้อ เนื่องจากเป็นทองไม่มียี่ห้อ ไม่ได้เปอร์เซ็นต์ และไม่มีใบรับรอง

พอคลิปถูกแชร์ต่อๆ ไป ก็กลายเป็นประเด็นดราม่า วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ว่าร้านทองดังกล่าวขายทองปลอมหรือไม่ ขณะเดียวกันก็เริ่มมีผู้เสียหายจากการซื้อทองผ่านออนไลน์จากร้านทองดังกล่าวออกมาแสดงตัวมากขึ้น

หลายคนบอกว่า ซื้อทองคำออนไลน์จากร้านดังกล่าว แต่เวลานำไปขายต่อกลับไม่มีร้านทองรับซื้อ หรือถ้ารับซื้อก็ตีราคาต่ำกว่าราคาที่ซื้อไปหลายเท่าตัว

อาทิ บางคนซื้อปี่เซียะทองคำ ที่เข้าใจว่าน้ำหนัก 1 บาท พร้อมของแถม รวมราคา 33,000 บาท แต่กลับได้น้ำหนักทองแค่ 6.4 กรัม นำไปขายที่โรงรับจำนำได้แค่ 9 พันบาท

บางคนนำทองที่ซื้อมามูลค่ารวมประมาณ 85,000 บาท ไปขายโรงรับจำนำได้แค่ประมาณ 30,000 บาท เป็นต้น

พอเรื่องราวเริ่มบานปลาย แม่ตั๊กและป๋าเบียร์ก็ไปชี้แจงผ่านรายการโหนกระแสของพิธีกรดัง หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย และ “แม่ตั๊ก” ไลฟ์สดชี้แจงกับคนที่เข้ามาคอมเมนต์ขณะนั้นว่า “ไม่ต้องเอาไปปั่นว่า ร้านทองตั๊กขายกลับไม่ได้ ส่งคืนมาค่ะ ขายคืนได้ค่ะ ไม่ต้องเอาไปปั่น ไม่ต้องเอาไปดรามงดราม่า เป็นอะไร ไปดูคนที่ชอบและใช้ชีวิตของคุณให้มีความสุข ซื้อ 600-700 บาท ไปขายคืนได้ 200-300 บาท ถ้าคิดว่าไม่คุ้ม เราไม่ซื้อ เงินมันอยู่ในกระเป๋าเรา เราไม่ต้องจ่ายมันออกไป เราไปซื้อร้านที่คิดว่ามันคุ้ม จบ…”

คำชี้แจงของแม่ตั๊กทำให้เกิดกระแสลูกค้าที่ซื้อทองจากร้านดังกล่าวแห่ไปขายคืนทองคำที่ซื้อมาจำนวนมาก แต่ก็มีข้อแม้ในการซื้อคืน โดยปี่เซียะทองคำ มูลค่าประมาณ 30,000 บาท จะได้ราคารับซื้อเต็มจำนวน แต่ต้องคืนพร้อมของแถม ส่วนกรณีทองคำรายการอื่น จะรับซื้อตามน้ำหนักและราคาทองในวันนั้นๆ ซึ่งราคาที่ซื้อคืนต่ำกว่าราคาขายหลายเท่า รวมทั้งยังต้องเซ็นเอกสารว่าจะไม่ไปออกรายการ หรือดำเนินคดีกับร้านทองอีกด้วย

ขณะเดียวกัน มีลูกค้าบางส่วนเข้าร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พร้อมแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) โดย พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. สั่งการให้เร่งสอบสวนข้อมูลในทันที

โดยนำทองที่ผู้เสียหายซื้อมาไปตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ทอง รวมทั้งนำคลิปวิดีโอการไลฟ์ขายสินค้าของทั้งแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ มาพิจารณาว่ามีส่วนใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่

เหยื่อแจ้งจับแม่ตั๊ก

งานนี้ตำรวจไม่รอออกหมายเรียกให้เสียเวลา เพราะพอพิจารณาจากไลฟ์ขายของก็พบความผิดชัดเจนจึงรวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับทั้งคู่ใน 4 ข้อหา ประกอบด้วย

ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น

ต่อมาวันที่ 30 กันยายน พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม สว.กก.1 บก.ปคบ. นำหมายจับและหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 72 ถนนรามอินทราซอย 65 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. พร้อมจับกุมแม่ตั๊ก และป๋าเบียร์ ภายในบ้านพัก เพื่อนำตัวไปสอบสวน ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

ส่วนกำลังอีกชุด พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.กก.1 บก.ปคบ. นำกำลังเข้าตรวจค้นห้างทองเคทูเอ็น โกลด์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 717/111 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ทำเอาทั้งแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ถึงกับหน้าซีด ด้วยไม่คิดว่าจะถูกบุกจับถึงบ้าน

พล.ต.ต.วิทยาเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใดๆ คดีนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ดังนั้น พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว

1 ตุลาคม ตำรวจนำตัวทั้งคู่ไปส่งฝากขังที่ศาลอาญาพร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังได้ โดยไม่ให้ประกันตัว ด้วยเหตุผลว่าเป็นคดีที่มีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก และการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ หากปล่อยไปอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้

ทั้งคู่จึงถูกนำตัวส่งเรือนจำในทันที

ลูกค้ารอคิวขายทองคืน

ส่วนทรัพย์สินแม่ตั๊ก ที่เคยปรากฏในโลกออนไลน์ที่นำมาถ่ายคลิปวิดีโอนั้น พบว่ามีทั้งนาฬิกาหรู ราคาเรือนละ 19 ล้าน, 12 ล้าน, 10 ล้าน และ 2.6 ล้าน รวมแล้วประมาณ 40 ล้านบาท

นอกจากนี้ มีรถหรูทั้งหมด 9 คัน มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ยี่ห้อปอร์เช่ เลกซัส มัสแตง แม็คคลาเรน เฟอร์รารี่ ฯลฯ รวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนม Hermes ใบละ 10 ล้าน, หลุยส์ วิตตอง, กระเป๋าทองคำ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ที่ดิน อีกมากมาย

ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวปรากฏว่าได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากบ้านย่านรามอินทรา ซึ่งเป็นรถหรูรวมมูลค่ากว่า 10 ล้าน อีกทั้งยังมีรถหรูอีก 40 ล้าน ที่ได้ขนย้ายขึ้นไปไว้ที่จังหวัดทางเหนือ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดมาได้ มีทั้งรถซูเปอร์คาร์แม็คคลาเรน ลัมโบกินี เฟอร์รารี่ ปอร์เช่ เลกซัส มัสแตง รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ รวมแล้ว 11 คัน ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ประกอบด้วย บ้านจำนวน 9 หลัง และโฉนดที่ดินอีก 16 แปลง

คดีนี้ไม่เฉพาะแม่ตั๊กกับป๋าเบียร์ที่ถูกแจ้งข้อหาไปแล้วเท่านั้น แต่ยังมีบรรดาลูกน้องคนสนิทอีก 3 คนที่ตำรวจออกหมายเรียกให้มาพบ เพื่อสอบสวนว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ รวมทั้งยังมีเหล่าบรรดาดารา นักร้อง คนดังอีกจำนวนมาก ที่ถูกจ้างให้ไปร่วมไลฟ์กับแม่ตั๊ก อาทิ

นารา เครปกะเทย, ลิลลี่ เหงียน, แน็ก ชาลี และกามิน, หนูรัตน์-ครูไพบูลย์, ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์, ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร, หมอลำแพรวพราว แสงทอง, เจ๊แมน เตี๋ยวกะเทย, แก้มบุ๋ม ปรียาดา สิทธาไชย, เปิ้ล ไอริณ, ใบเตย สุธีวัน, เจนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น, ชาล็อต ออสติน, จ๊ะ นงผณี มหาดไทย, พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช, โม อมีนา, บอล เชิญยิ้ม, แพท ณปภา ฯลฯ ล้วนอยู่ในข่ายถูกเรียกมาสอบปากคำ ว่ามีส่วนร่วมด้วยหรือไม่

ทำเอาหลายรายรีบเข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมยืนยันไม่เกี่ยวข้อง แค่รับจ้างไปช่วยไลฟ์ขายอาหารเสริมเท่านั้น ส่วนเรื่องขายทองไม่เกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด

รถซูเปอร์คารลัมโบกินีและปอร์เช่ที่ถูกตร.ตามยึดมาได้

คดีแม่ตั๊กยังไม่ทันจบ ก็มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความกับ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการกองบัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รรท.ผบช.สอท.)

นายพรมธาดา ใบหนาด หรือ แม่ใบหนาด

ให้ดำเนินคดีกับนายพรมธาดา ใบหนาด หรือแม่ใบหนาด ที่มีพฤติกรรมหลอกขายทองราคาถูก เชิญคนดังร่วมงานวันเกิด จดทะเบียนบริษัทห้างทอง สร้างความน่าเชื่อถือ โดยมีผู้เสียหายกว่า 500 คน มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 85 ล้านบาท

โดยมักจะไลฟ์จัดโปรโมชั่นขายทองในราคาถูกผ่านทางแอพพลิเคชั่น TikTok เริ่มจาก 1 กรัม ราคา 1,500 บาท ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปที่ขายในราคาเกือบ 3,000 บาท โดยอ้างว่ารับจากโรงงานมาโดยตรง แต่ปรากฏว่าเมื่อลูกค้าซื้อทองปริมาณมากขึ้น กลับไม่ได้รับสินค้า นอกจากนี้ ยังสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการจัดงานวันเกิด เชิญบุคคลที่มีชื่อเสียง ดารา นักแสดง ไปร่วมงานอีกด้วย

ต่อมา พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมนายพรมธาดาได้ที่ อ.คูคต จ.ปทุมธานี ก่อนควบคุมตัวมาดำเนินคดี

ทั้ง 2 คดีนี้ไม่ต่างกับน้ำลดตอผุด เริ่มมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าพฤติกรรมหลอกลวงทางออนไลน์แบบนี้ยังมีอีกเป็นจำนวนมากในสังคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเดินหน้าตรวจสอบอย่างเข้มข้นจริงจัง

ดีกว่ารอให้เกิดความเสียหายเสียก่อนแล้วค่อยมาไล่จับกุม

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022