
เปิดวงถก ‘นายพลเล็ก’ ก.ตร. บรรยากาศดีไร้มลพิษอารมณ์ เหตุตีกลับ ‘บิ๊กเต่า’ นั่งที่เดิม

7 ชั่วโมงใช้เวลาพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบช. รองจเรตำรวจ และ ผบก. ประจำปี 2567 หรือเรียกว่า “นายพลเล็ก”
การประชุมครั้งนี้เริ่มเวลา 13.00 น. วันที่ 10 มกราคม มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เดินทางมานั่งหัวโต๊ะนาน 3 ชั่วโมงแล้วเดินทางกลับ
จากนั้นที่ประชุมพิจารณากันต่อจนถึง 20.00 น.
ในที่สุดคลอดบัญชี 228 ราย รวมทั้งบัญชีที่ได้รับการยกเว้นอีก 29 ราย เป็น 257 ราย
บรรยากาศในห้องประชุมศรียานนท์ ถือว่าดีมาก การทำหน้าที่แต่ละคนนั้นใช้คำว่า “น่ารัก” ได้เลย
สองพี่ใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็น “มวยหลัก” คือ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ และ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ
โดยทั้งสองคนนั้นในฐานะเป็นผู้อาวุโสแวดวงสีกากีได้ทำการบ้านมาอย่างดี หาข้อมูลมาอย่างละเอียด
พล.ต.อ.เอกเป็นผู้คุมกฎ มีคัมภีร์ พ.ร.บ.ตำรวจ, กฎ ก.ตร. และรัฐธรรมนูญอยู่ในมือ คอยกำกับให้อยู่ในกรอบยึดอาวุโส
ขณะที่ พล.ต.อ.วินัยมีคลังข้อมูลเชิงลึกความประพฤตินายตำรวจที่โดนร้องเรียน เปิดบ่อน เอี่ยวธุรกิจสีเทา ทำหน้าที่เหมือนเอชอาร์
หรืออีกนัยหนึ่ง ผู้รักษาภาพลักษณ์องค์กร คอยสกัดไม่ให้ตำรวจสีเทา หรือคนที่ไม่ดีในสายตาประชาชน ได้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ส่วนอีกคนหนึ่งซึ่งเป็น ก.ตร.คนล่าสุด นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ จากสายปกครอง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ใช้ความเป็นนักรัฐศาสตร์ และนักบริหารช่วยกลั่นกรองให้เหมาะสม

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์
ทั้งนี้ ในบัญชี 228 ราย จำแนกได้ ดังนี้
กลุ่มแรก ระดับรอง ผบช.ที่สไลด์ในระดับเดียวกัน มี 18 ราย
กลุ่มสอง ผบก.อัพเก้าอี้เป็นรอง ผบช. จำนวน 45 ราย
กลุ่มสาม ผบก.ขยับหมุนเวียนกัน มี 77 ราย
และกลุ่มสี่ รอง ผบก.ได้เลื่อนขึ้นเป็น ผบก. จำนวน 88 ราย
สำหรับการพิจารณาบัญชีแต่ละลำดับ ถ้าที่ประชุมเห็นตรงกันรายชื่อผ่านไปเรื่อยๆ
แต่ถ้ารายชื่อใดมีข้อโต้แย้ง เสียงแตก เห็นว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
“บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หรือ “บอร์ดเล็ก” ต้องนำกลับไปทบทวนใหม่
เบ็ดเสร็จมีประมาณ 10 เก้าอี้ ที่ตีกลับ แต่พอ “บอร์ดเล็ก” ขยับแล้วไปกระทบชิ่งตำแหน่งอื่นไปเรื่อยๆ บานเป็น 36 เก้าอี้
หลังจากนั้นต้องนำกลับมาให้ที่ประชุม ก.ตร.ให้ความเห็นชอบอีกครั้ง

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง
สําหรับ “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ที่ตอนแรกในบัญชี บช.ก. ชงมาขยับเก้าอี้ไปอยู่รอง ผบช.น.
เหตุผลประกอบการโยกย้ายคือ ต้องการคนเก่ง มีความรู้ ความสามารถเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมเมืองกรุง
แต่ขณะเดียวกันความเห็นคนข้างนอกอาจมองว่า บุคลิกความเป็นคนโผงผาง มีความมุทะลุ ดุดัน ไม่ฟังใคร
ที่สำคัญใกล้ชิดกับ “นักร้อง” บางคนที่ชอบสร้างภาพเป็นพ่อพระช่วยเหยื่ออาชญากรรม จนออกหน้าเกินไปหรือไม่
ปรากฏว่าที่ประชุม ก.ตร.ค้านกันเสียงขรม ต่างถามกันว่า “รอง ผบช.ก.” รายนี้ผิดอะไร
เพราะแม้ตำแหน่งเท่ากัน แต่ บช.น.รับผิดชอบเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ส่วน บช.ก.รับผิดชอบทั้งประเทศ
เสียง ก.ตร.ส่วนใหญ่ต่างยอมรับว่า “บิ๊กเต่า” มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ ถึงขนาดยกให้เป็น “อินฟลูเอนเซอร์” สีกากี คนหนึ่ง
สร้างผลงานให้ตำรวจสอบสวนกลางมีชื่อเสียง เสริมภาพลักษณ์องค์กรตำรวจ
ต่างกังขากันว่า “ผู้นำหน่วย” ไม่ประสงค์จะต่ออายุเก้าอี้ให้ “บิ๊กเต่า” หรือมีการเมืองภายในองค์กรที่ระดับเดียวกันต้องการสกัดดาวรุ่ง เพราะถ้า “บิ๊กเต่า” ยังอยู่ต่อ อาจเป็นเป็นก้างขวางคอหรือไม่
ในที่สุดที่ประชุมให้ทบทวน ทำให้ “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” ได้อยู่เก้าอี้เดิมต่อ
งานนี้ทำให้ “บิ๊กเต่า” ยิ้มกว้างมาก เพราะเจ้าตัวบอกว่า “ผมไม่สมัครใจไป ควรให้อยู่ที่เดิม”
ส่วนใน CIB อีกคนที่ได้ขึ้นเป็นรอง ผบช.ก.คือ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้การกองปราบฯ ที่ประชุม ก.ตร.ไร้คำถามใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมีผลงานเป็นที่ยอมรับ
ทำให้ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) ที่ในบัญชีเดิมได้ขยับเป็นรอง ผบช.ก. ต้องไปขึ้นที่รอง ผบช.ตชด.แทน
ขณะเดียว พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) ต้องไปเป็นรองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (รอง ผบช.สกพ.)
นายตำรวจที่น่าจับตามอง คือ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ล่าสุด มีผลงานดิไอคอนกรุ๊ป ขยับมาเป็นผู้การกองปราบฯ
แล้ว พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม ขึ้นเป็น ผบก.ปคบ.แทน
ในส่วน บช.น. อินฟลูเอนเซอร์ อีกคน คือ “ผู้การจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ที่อยู่ในเกณฑ์ความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์
เมื่อ “ผู้การจ๋อ” ชงมาจาก “บัญชีนครบาล” และอยู่ในใจ “บิ๊กต่าย” อยู่แล้ว ที่ประชุมเคาะทันที
นอกจากนี้ ที่ประชุม ก.ตร.ยังชื่นชมการทำบัญชี บช.ภ.7 ที่มี พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต เป็น ผบช.
เหมือนกางกฎหมายทำบัญชี การแต่งตั้งโยกย้ายได้เป๊ะมาก มีการเชิญผู้บังคับการมาประชุม ได้ให้ผู้ที่มีคุณสมบัติครบ อาวุโสถึงมาแสดงวิสัยทัศน์ แล้วคงคะแนน
ดังนั้น ขมวดปมได้ว่า “บัญชีนายพลเล็ก” ปีนี้ได้รับการยอมรับภาพรวมออกมาดี เป็นไปตามกฎหมาย และระบบคุณธรรม
หลังจากนี้อีก 30 วันถึงคิว “รอง ผบก.-สารวัตร-ผู้บังคับหมู่” ซึ่งเป็นอำนาจของผู้บัญชาการ
ติดตามต่อไปว่าจะเป็นไปตามกฎหมายใหม่หรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ถ้าใครไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้ายสามารถร้องเรียนคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตํารวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022