เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

Maew (แม้ว) made destination

17.01.2025

“เมกะโปรเจ็กต์” ที่ถูกพูดอย่างมากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกกันหรูหราว่า “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” (จริงๆ ก็คือกาสิโนถูกกฎหมาย)

หลังรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร มีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจเมื่อ 13 มกราคม

ตกเย็นวันเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นบิดาของนายกฯ คนปัจจุบัน ขึ้นพูดบนเวทีดินเนอร์ทอล์ก หัวข้อเสวนา “Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market” ประกาศเดินหน้าโปรเจ็กต์ยักษ์ เรือธงใหม่รัฐบาลเพื่อไทย ให้กำเนิด เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

จะมีการลงทุน 5 แสนล้าน ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์กระเตื้องขึ้น ยืนยันฟันธง จะสำเร็จในช่วงรัฐบาลแพทองธาร หรืออีก 2 ปีนับจากนี้

ที่เป็นที่พูดถึงมาก เพราะเนื้อในของเรื่องนี้ดูจะยังไม่ตกผลึกในสังคม รายละเอียดต่างๆ ในข้อกฎหมายยังไม่มีการชี้แจงรายละเอียดมากนัก ทั้งที่เป็นเรื่องที่อยู่ในระดับ “อ่อนไหวสูง” เพราะกระทบต่อสังคม

เมื่อคนมองไม่เห็นระบบที่จะมาป้องกันชัดเจน และยิ่งเมื่อ 2 พ่อลูกชินวัตร เป็นผู้ประสานเสียงนำเดินหน้าทำคลอดเมกะโปรเจ็กต์นี้ การตั้งคำถามด้วยเสียง “อันดัง” จึงตามมาติดๆ

 

อันที่จริงเรื่องกาสิโนเสรีถูกกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องใหม่เพิ่งเคยถูกพูดถึงในสังคม มันถูกพูดถึงมาหลายทศวรรษในหลายรัฐบาล เริ่มจากวงวิชาการมหาวิทยาลัย มีรายงานวิจัย บทความวิชาการเขียนขึ้นมากมายช่วงทศวรรษ 2540

ตัวนายทักษิณเองก็เคยเสนอแนวคิดนี้ตั้งแต่ยุครัฐบาลไทยรักไทย เพียงแต่ครั้งนั้นกระแสต้านในประเด็นจริยธรรมยังสูง คนมองไม่เห็นความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ซ้ำนายทักษิณยังถูกยึดอำนาจก่อน

มาในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีการนำเสนอแนวคิดนี้แต่ยังคงถูกแช่แข็งจากปัญหาการเมือง ไม่ถูกนำมาถกเถียงจริงจังให้เป็นกฎหมาย แล้วก็ถูกยึดอำนาจซ้ำอีก

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในยุครัฐบาลทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

หลังประเทศไทยบอบช้ำอย่างหนักจากวิกฤตไวรัสโควิด แนวคิดกาสิโนถูกกฎหมาย-เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงถูกหยิบขึ้นมาพูดคุยกันในสภา จนที่ประชุมส่วนใหญ่ไฟเขียวให้ตั้งกรรมาธิการศึกษา

มาเป็นรูปร่างก็ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน หลังสภามีมติเห็นชอบให้มีการตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อแก้ปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ โดยมี “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง เป็นประธาน

ในมุมของนายทักษิณ ก็ยังมั่นคงต่อแนวคิด โดยในการขึ้นพูดสาธารณะครั้งแรกหลังกลับเข้าประเทศไทยในปี 2566 นายทักษิณก็ตอกย้ำนำเสนอเรื่องนี้

กระทั่งสัปดาห์นี้เองที่กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ดูจะมีอนาคตเป็นจริงมากที่สุดตั้งแต่เคยมีมา

ไม่ว่าจะเป็นแพทองธาร ไม่ว่าจะเป็นทักษิณ พูดเป็นเสียงเดียวกัน “ยกสิงคโปร์เป็นต้นแบบ” สร้าง Man-Made Destination

กรณีของไทย ภายใต้นักการเมืองที่ทรงอิทธิพลอยู่ขณะนี้ จะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า นี่คือ “Maew-Made Destination” ก็คงไม่ผิดนัก

 

มาถึงวันนี้ต้องยอมรับว่า โอกาสที่กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือกฎหมายกาสิโน จะออกมาเป็นกฎหมายตัวจริง บังคับใช้จริง มีอยู่สูงมาก

เนื่องจาก ส.ส.พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านส่วนใหญ่ ดูจะเห็นไปในทางเดียวกัน

แม้แต่พรรคประชาชน (พรรคก้าวไกลในอดีต) ก็เคยหาเสียงด้วยนโยบายนี้ เพียงแต่อาจจะแตกต่างกันในรายละเอียด

หากจะมีความขัดแย้งกัน ก็คงจะมีการถกเถียงหารือกันในชั้นกรรมาธิการ หรือในที่ประชุมสภา รวมถึงการหารือนอกวงประชุม

ต้องยอมรับว่า เพราะ “ความซบเซาระดับสูง” ในทางเศรษฐกิจของประเทศไทย กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยเร่งให้กฎหมายนี้เกิดขึ้นจริง

ประเทศเราขาดเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงที่ยังไม่รู้คนจะหาเงินเข้ากระเป๋าจากไหน ปัญหาดิสรัปชั่นทางเศรษฐกิจ รายจ่ายภาครัฐมหาศาล ส่งผลต่อการจัดเก็บภาษีเข้าประเทศ

เครื่องไม้เครื่องมือของรัฐบาลที่จะใช้กระตุ้น แทบไม่เหลือ นโยบายเรือธงหลายอย่างของรัฐบาลยังไร้อนาคต ที่ทำไปก็ยังไม่เห็นผลรูปธรรมราวกับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

เมื่อทางอื่นมันเหนื่อยมาก ไม่แปลกเลยหากรัฐบาลเพื่อไทย และนายทักษิณจะหยิบเอาเรื่องกาสิโนและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มาเป็นเรือธง หวังเดินหน้าต่อจริงจัง

 

เมื่อไปสำรวจท่าทีของฝ่ายต่างๆ ก็น่าสนใจ

พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลปีก่อน เคยให้ยังบลัด “ภูมิใจไทย” ตั้งโต๊ะแถลงข่าว คัดค้านจริงจัง คราวนี้มีท่าทีอ่อนลงเยอะ

ขณะที่พรรคแนวอนุรักษนิยมเข้มกว่าหน่อยอย่างรวมไทยสร้างชาติ กลับเห็นท่าทีที่อ่อนลงเช่นกัน ดูจาก อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี มือกฎหมายของพรรคที่ออกมายืนยันว่าเห็นด้วยกับกฎหมายนี้มานานแล้ว ควรเอาการพนันมาไว้บนดิน แต่ต้องพิจารณาเรื่องจำกัดต่างๆ ใหม่ ต้องโฟกัสให้ถูกจุด โดยรวมถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี

ขณะท่าทีจากภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ที่พบผ่านพื้นที่สื่อสารสาธารณะ มีตั้งแต่ตั้งคำถาม ตักเตือน ไปจนถึงคัดค้าน

 

เริ่มตั้งแต่ปี 2566 ที่รัฐบาลเศรษฐารับทราบรายงานการศึกษาของสภา ก่อนส่งต่อไปให้กระทรวงการคลัง ครั้งนั้น 99 นักวิชาการทั่วประเทศก็ออกแถลงการณ์ค้าน โดยกังวลว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมให้มีบ่อนกาสิโนเสรี คนจะยิ่งเข้าถึงกาสิโนได้ง่าย เป็นที่รู้กันว่าประเทศไทยมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย อาจจะเสี่ยงต่อการฟอกเงิน ธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ รวมถึงการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มขึ้น จึงควรทำการศึกษาให้ครบถ้วนทุกมิติก่อนที่จะหวังพัฒนาประเทศด้วยอบายมุข

ขณะที่ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน อย่างนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ก็ออกมาตักเตือนเรื่องผลกระทบทางสังคม

“วัตถุประสงค์จริงๆ ที่บอกว่าเป็น Man-Made Destination ใช้เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่กลับเอาเรื่องนี้มาครอบเพื่อจะผลักดันบ่อนกาสิโน อันนี้เป็นประเด็นที่เราตั้งข้อสงสัย สิ่งที่เราอยากได้ความชัดเจนก็คือ เรื่องมาตรการที่จะป้องกันปัญหาสังคมและความโปร่งใสในการให้สัมปทาน” นายณัฐพงษ์ระบุ

 

แม้รัฐบาลมี “เป้าหมายที่ดี” ในการเดินหน้าเรือธงใหม่อย่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หวังจะนำเงินเข้าประเทศให้มากกว่านี้ แต่ต้องยอมรับว่า หากจะเดินหน้าเรื่องนี้ เรื่องหลักๆ ที่ยังคงเป็นคำถามในสังคม อาทิ

1. กระบวนการทั้งหมดต้องโปร่งใส ต้องกางรายละเอียดโครงการออกมาให้คนวิจารณ์ ถกเถียงข้อดี-ข้อเสียให้ตกผลึก ตั้งแต่มิติทางกฎหมาย

2. ต้องวางระบบป้องกันมิจฉาชีพ ไม่ให้ผู้ไม่หวังดีหลบเลี่ยง ใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน เพราะเป็นที่รู้กันว่าธุรกิจสีเทาประเทศเราและใกล้เคียงมีอยู่มากจนได้ชื่อว่าเป็นแหล่งสแกมเมอร์ พนันออนไลน์ หลอกลวงออนไลน์ระดับโลก

3. ต้องวางระบบป้องกันผลกระทบทางสังคม ป้องกันคนเปราะบางไม่ให้เข้าถึงได้ง่าย

4. ต้องมีกลไกที่ชัดเจนในการกระจายผลประโยชน์สู่คนส่วนใหญ่ มากกว่าแค่กระจุกกับกลุ่มทุน โดยดูบทเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านก็ล้วนมีกาสิโน แต่ผลประโยชน์กลับตกอยู่กับคนหยิบมือเดียว

หากไม่มีระบบป้องกันที่ดีรองรับ “จุดจบของไทย” อาจจะไม่เหมือนสิงคโปร์แบบที่นายทักษิณและนายกฯ แพทองธารฝัน แต่อาจเป็นแบบเมืองกาสิโนในกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่เละเทะอยู่ทุกวันนี้

 

ทั้งหมดจึงเป็นโจทย์สำคัญให้นายทักษิณและรัฐบาลเพื่อไทย หากต้องเดินหน้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต้องทำอย่าง “ระวัง” ต้องยก “การ์ดระดับสูง”

อย่าลืมว่านายทักษิณและรัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้นั่งอยู่สวยๆ ในเก้าอี้อำนาจ เดินบนทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ

กลับกัน นายทักษิณและรัฐบาลเพื่อไทยกำลังนั่งทับ “ระเบิดเวลาการเมือง” และเดินอยู่ใน “ดงกับระเบิด” ต่างหาก

เดินหน้านโยบายผิด ก็เหมือนตัดสายระเบิดผิด

ขบวนการขับไล่ที่ขู่ฮึ่มๆ อยู่เวลานี้ ก็พร้อมใช้อ้างเหตุลงถนน ระเบิดพลัง ขับไล่ เหมือนกัน



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

ศ.สุชาติ เสนอให้รัฐบาลไปยื่นสหรัฐ​ว่าเอาเงื่อนไขแบบเวียดนาม​ คือสหรัฐ​เก็บภาษี​ 20% ไทยเก็บภาษีทุกชนิด​ 0%
เข้าพรรษากับทรัมป์ ! | สุรชาติ บำรุงสุข
ไม่เกี่ยวกับ ‘ฮุน เซน’
ในระบอบป่วยติดเตียง รัฐบาลเป็ดง่อย
ใช่-ไม่ใช่
Ryan Gander นักท้าทายผู้ชมให้คลี่คลายปริศนาซับซ้อนทางศิลปะ
ผู้ว่าแบงก์ชาติ (คนใน)
คุยกับทูต | โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค ครบรอบ 249 ปี วันประกาศอิสรภาพสหรัฐ (จบ)
จีนหนุนสยาม ยึดอยุธยาเพื่อจีน
อาณาเขตของความอร่อย
ข้าชื่อซารุโทบิ : โลกสองใบที่ไม่มีวันบรรจบ
ลืมจำ…ลืมจริง?