

หนังการ์ตูนความยาวสองนาที Me and My Shadow ฝีมือของ Sylvain Chomet ปะหน้าก่อนจะเริ่มต้นหนัง Joker: Folie à Deux มีเรื่องน่าสนใจชวนคุย ทั้งส่วนที่เป็นความสมบูรณ์ของตัวการ์ตูนเองและส่วนที่จะช่วยขยายความหนังทั้งเรื่องซึ่งมีความยาวมากกว่าสองชั่วโมง
หนังการ์ตูนเปิดด้วยทำนองคุ้นหูลูนนี่ตูนของวอร์เนอร์บราเธอร์ส ก่อนที่จะเข้าเรื่องเมื่อโจ๊กเกอร์เดินทางมาถึงหน้าโรงละครแฟรงคลินเธียเตอร์ มีแฟนคลับรอต้อนรับเขาล้นหลาม เขาเดินไปตามพรมแดงโดยมีเงาพาดไปด้านหลัง สักครู่หนึ่งเขาเดินต่อไม่ได้ เมื่อหันกลับไปดูจึงพบว่าเงากำลังยืนรับเสียงปรบมือจากแฟนคลับแบบเดียวกัน
โจ๊กเกอร์ต้องออกแรงดึงเงาให้เข้าที่และติดตามเขาต่อไป
เงาแปลมาจากคำว่า ชาโดว์ (shadow) คำนี้ในจิตวิเคราะห์หมายถึงส่วนของจิตใต้สำนึกที่ไม่ไปด้วยกันกับ อีโกไอดีล (ego-ideal) คือบุคลิกภาพที่อีโกอยากจะเป็น ขึ้นชื่อว่าเป็นจิตใต้สำนึกเสียแล้วย่อมหาทางผุดขึ้นมาข้างบนให้คนเห็นอยู่เรื่อยๆ
ดังนั้น อีโกจึงต้องใช้แรงกดมันลงอยู่ร่ำไป การกดนี้ใช้แรงและเสียแรงไปมากทำให้อีโกไม่สามารถไปรังสรรค์งานอื่นหรือใช้ชีวิตได้ตามที่ตนเองต้องการ
เมื่อไปถึงห้องแต่งตัว ชาโดว์ออกฤทธิ์มากขึ้นฉวยโอกาสตอนโจ๊กเกอร์เผลอจับเขาขังตู้เสื้อผ้าแล้วเป็นตัวชาโดว์เองที่ใส่เสื้อผ้าของโจ๊กเกอร์ออกไปแสดงบนเวที
แต่ระหว่างนั้นชาโดว์ก็รุกรานหญิงสาวคนหนึ่งและตีพนักงานสามคนจนน่วม
เมื่อชาโดว์ร้องเพลงแสนไพเราะไปได้สักครู่หนึ่ง (เพลงในหนังทั้งเรื่องไพเราะมากทุกเพลง) โจ๊กเกอร์ตัวจริงหลุดจากตู้เสื้อผ้าออกมาบนเวทีในชุดชั้นใน พยายามแย่งไมโครโฟนคืนจากชาโดว์จนชุดชั้นในที่ใส่อยู่ขาดรุ่งริ่งน่าขายหน้า
ตำรวจสามคนมาถึงเห็นหญิงสาวและพนักงานสามคนนอนบาดเจ็บจึงปราดเข้าไปบริเวณเวทีจับโจ๊กเกอร์ที่กำลังถือไมโครโฟนอยู่มารุมฟาดด้วยกระบองจนเลือดท่วมจอ
แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีหลังจากชาโดว์คืนเสื้อผ้าและไมโครโฟนให้แก่โจ๊กเกอร์ไปก่อนแล้ว
ที่ถูกฟาดจนนอนจมกองเลือดจึงเป็นโจ๊กเกอร์ตัวจริง
จิตใต้สำนึกทำงานแบบนี้ทุกที (โผล่) มายามเราเผลอ สร้างความเสียหายแล้ว (หลบ) หายไป อย่างไรก็ตาม นี่เป็นกลไกการทำงานปกติของจิตใจคนทั่วไป พวกเราเผชิญเรื่องแบบนี้ทุกคน ขาดสติพลั้งเผลอเมื่อไรได้ทำตามที่จิตใต้สำนึกอยากทำจนเป็นเรื่องเมื่อนั้น การ์ตูนแค่เอาผู้ร้ายอย่างโจ๊กเกอร์มาแสดงให้ดู
แต่การ์ตูนสองนาทีนี้สื่อความอีกเรื่องหนึ่งอยู่ตลอดเวลาด้วย
อธิบาย เงาเกิดขึ้นเพราะมันถูก โปรเจ็กต์ (project) ไปที่พื้นผิวหนึ่ง พื้นผิวนั้นพลันมีชาโดว์ขึ้นมา คำว่า โปรเจ็กต์หรือโปรเจกชั่น (project, projection) เป็นศัพท์ทางจิตวิเคราะห์อีกคำหนึ่ง หมายถึงกลไกทางจิตชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยใช้โยน แรงขับหรือแรงผลักดัน (drive, instinct) ของตนเองไปที่คนอื่น คำไทยว่าโทษปี่โทษกลอง
หากจะยกตัวอย่างจากการ์ตูนสั้นเรื่องนี้ตัวโจ๊กเกอร์เองนั่นแหละที่มี ความปรารถนา (desire) ที่จะรุกรานหญิงสาวและทำร้ายพนักงานสามคน พูดง่ายๆ ว่าเขามีทั้ง แรงผลักดันทางเพศและสัญชาตญาณการฆ่า (sexual drive & death instinct) ล้นเกินทั้งสองประการ แต่ไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นเช่นนั้นจึงโปรเจ็กต์คือโยนกลองไปที่ชาโดว์เป็นผู้กระทำ
พอถึงตรงนี้เราจึงสามารถตั้งคำถามได้ว่าโจ๊กเกอร์คนที่ถูกตำรวจสามนายรุมตีจนเลือดโชกนั้นมีความผิดฐานรุกรานหญิงสาวและทำร้ายพนักงานสามคนหรือไม่ หรือว่าที่จริงมิใช่เขาที่ทำเป็นชาโดว์ต่างหากที่ทำ?
จะเห็นว่านี่คือคำถามสำหรับหนังที่จะดูกันอีกกว่าสองชั่วโมงถัดไปว่าใครเป็นฆาตกรฆ่าห้าศพกันแน่?
เป็นโจ๊กเกอร์หรืออาเธอร์ เฟลค ภายใต้ข้อเท็จจริงที่ว่าอาเธอร์ เฟลคเป็นคนลงมือสังหารห้าศพเห็นๆ อยู่ แต่อาเธอร์ทำไปเพราะเขาป่วยทางจิตแล้วใช้กลไกทางจิตที่ชื่อว่าโปรเจกชั่นนี้โปรเจ็กต์ไปที่โจ๊กเกอร์โดยไม่สามารถหักห้ามหรือช่วยเหลือตนเองได้เลย ส่วนคำถามว่าทำไมอาเธอร์ป่วยได้ขนาดนี้ไปหาดูกันต่อได้ในหนังว่าเขาเติบโตมาอย่างไร โจ๊กเกอร์พบอะไรมาบ้างในภาคหนึ่งและพบอะไรบ้างในภาคนี้
จึงว่าการ์ตูนสองนาทีจบสมบูรณ์ในตัวบอกเล่าหนังเกือบทั้งเรื่องไปก่อนแล้ว
ที่ว่าแค่เกือบทั้งเรื่องเพราะหนังขยับไปเล่าอีกเรื่องหนึ่ง อันเป็นหัวใจของภาคสองนั่นคือ โฟลี่ เอ เดอ (Folie à deux)
โฟลี่ เอ เดอ เป็นความผิดปกติทางจิตเวชชนิดหนึ่ง หมายถึงโรคหลงผิดของผู้ป่วยมากกว่าหนึ่งคนที่มีเนื้อหาของการหลงผิดร่วมกัน ศัพท์บัญญัติปัจจุบันเปลี่ยนเป็น shared delusional disorder ในกรณีที่เกิดกับคนป่วยมากกว่าสองคนหรือหมู่คนจำนวนมากหรือเกิดขึ้นทั้งชุมชนมีคำศัพท์เรียกว่า Folie à trois (Henderson DK & Gillespie RD, 1936)
เห็นได้ไม่ยากในหนังว่านางเอกของเรื่องคือ ฮาร์ลี่ ควินน์ เป็นผู้ป่วยร่วมหลงผิดของโจ๊กเกอร์ หล่อนมีประวัติวัยเด็กทางลบและมีความใฝ่ฝันคล้ายคลึงกันอันจะเห็นได้จากบทเพลงและการเต้นรำของคนทั้งสองตลอดทั้งเรื่อง
จนกระทั่งเมื่อถึงตอนจบในนาทีที่โจ๊กเกอร์ยอมรับต่อสาธารณะว่าเขาคืออาเธอร์ เฟลค มิได้มีโจ๊กเกอร์จริงๆ ฮาร์ลี่ ควินน์ ก็หลุดจากอาการหลงผิดร่วม
โดยทั่วไปกรณีโฟลี่ เอ เดอนี้จะมีผู้ป่วยคนหนึ่งที่มีบุคลิก โดดเด่นและเหนี่ยวนำ (dominate & induce) ผู้ป่วยคนอื่นอยู่แล้ว
ที่เห็นในหนังโจ๊กเกอร์ไม่เพียงเหนี่ยวนำฮาร์ลี่ ควินน์ ได้ เขาเหนี่ยวนำฝูงชนขนาดใหญ่ได้ด้วยคือแฟนคลับที่เห็นทั้งในศาลและนอกศาล มากกว่านั้นคือไม่มากก็น้อยชีวิตรันทดของเขาที่หนังฉายให้ดูตั้งแต่ภาคแรกจนถึงบางส่วนของภาคสองนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขาถูกผู้คุมเรือนจำสามคนเอาไปซ้อมหลังกลับจากการพิจารณาคดีในคราวหนึ่ง คนดูจำนวนหนึ่งก็ถูกเหนี่ยวนำไปชั่วขณะและเอาใจช่วยให้เขาถูกตัดสินว่าฆ่าคนตายไปห้าคนเพราะวิกลจริตสมควรละเว้นโทษ มากกว่านี้คือ “ล้างแค้นเถอะ”
จะเห็นว่าเรื่อง shared psychosis นี้มีอยู่จริงๆ
คำศัพท์เก่าแก่อีกคำหนึ่งคือ shared psychosis เมื่อแปลคำว่า psychosis เพียงแค่ว่า หลุดจากความเป็นจริง (out of reality) ซึ่งอาจจะเป็นเพียงชั่วขณะ เมื่อสติคืนมาอีกครั้งก็รู้ตัวได้ว่าตนเองหลงผิดไปครู่หนึ่ง
ทั้งหมดที่เล่ามานี้พึงสังเกตว่าโจ๊กเกอร์ซึ่งเป็น ผู้เหนี่ยวนำ (inducer) ไม่ได้เจตนาหรือรู้ตัวใดๆ เลยว่าตนเองมีพลังอำนาจเหนือคนอื่นๆ ถึงเพียงนั้น
เพราะเขามิใช่คนทำ ชาโดว์ต่างหากที่ทำ •
การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต


