

สํานักพิมพ์ 999 คอมิกส์ออกหนังสือรวมเรื่องสั้น 6 เรื่องของเลย์จิ มัตสึโมโต้ (1938-2023)
เขาถึงแก่กรรมวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ก่อนวันวาเลนไทน์หนึ่งวัน
หลายคนรู้จักเขาจากผลงานไซไฟคลาสสิคมากมายหลายเรื่อง
แต่ลืมไปว่าเขาเขียนเรื่องเซ็กซ์ (Sexaroid 1968) และเรื่องขำขันโรแมนติกเชิงปรัชญา (Otoko oidon 1971-1973) ก่อนที่จะเขียนเรือรบอวกาศยามาโตะ Space Battle Ship Yamato ดังระเบิดเมื่อปี 1974
ชวนอ่านเรื่องสั้นหกเรื่องต่อไปนี้
เรื่องแรกชื่อ รถไฟสายทางช้างเผือก (Night on the Galactic Railroad หรือ Milky Way Railroad) ชื่อเดียวกันกับวรรณกรรมคลาสสิคปี 1927 ของเคนจิ มิยาซาว่า (1896-1933) ถ้าถามว่าควรอ่านวรรณกรรมต้นฉบับก่อนไหมคำตอบคือควรมาก มิใช่เพียงเพราะเป็นวรรณกรรมที่เข้าถึงจิตวิญญาณและไม่เพียงช่วยให้เข้าถึงการ์ตูนสั้นเรื่องนี้ได้มากขึ้น แต่จะช่วยให้เข้าใจจุดเริ่มต้นของรถด่วนอวกาศ Galaxy Express 999 ผลงานคลาสสิคตลอดกาลของเลย์จิ มัตสึโมโต้ ด้วย
การ์ตูนเริ่มต้นด้วยเด็กชายเคนชอบมานั่งกินราเมงหลังเลิกงานตอนดึกๆ เขาจำเป็นต้องทำงานเพื่อหาเงินไปเรียนหนังสือ เขามีงานอดิเรกคือฝนเลนส์สำหรับกล้องโทรทรรศน์ เขาชอบไปนั่งดูดาวตอนดึกๆ บนเนินหญ้าแห่งหนึ่ง
ที่เนินหญ้าแห่งนั้นเขาได้เห็นทางช้างเผือกสุกสว่าง แต่บางคืนก็ไม่เห็นหากท้องฟ้าเป็นฝุ่นขุ่นมัว
บางคืนเขาจะได้พบหญิงสาวสวยงามโดยสารมากับรถไฟสายทางช้างเผือก เธออายุ 19 เป็นพี่สาวของเขาได้สบายๆ เหมือนพี่สาวชิมะ พนักงานสาวที่ร้านราเมง
ชิมะสังเกตเห็นว่าเขาถือหนังสือเล่มหนึ่งเป็นประจำ คือ รถไฟสายทางช้างเผือก ของเคนจิ มิยาซาว่า เรื่องของเด็กชายสองคนโจวานนี่และคัมพาเนลล่าเป็นเพื่อนรักกัน โจวานนี่เรียนดีแต่ยากจน มีภาระทำงานที่โรงงานเพื่อหาเงินดูแลแม่ คัมพาเนลล่าชวนโจวานนี่ไปเที่ยวเทศกาลดูทางช้างเผือก คืนนั้นเคนจิเลิกงานช้าจึงไปถึงเนินหญ้าที่นัดกันไว้ช้า เขาขอโทษคัมพาเนลล่าตัวเปียกปอนที่ผิดนัด แต่เพียงไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เห็นผู้คนแตกตื่นพบเด็กจมน้ำตาย
เจ้าของร้านราเมงบอกแก่ชิมะว่าสมัยนี้ไม่มีใครอ่านหนังสือแบบนี้กันแล้ว การ์ตูนสั้นเรื่องนี้จะพาดพิงชื่อโจวานนี่และคัมพาเนลล่ากับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น โดยมิได้ลงรายละเอียดภูมิหลังของเด็กชายสองคน ดังนั้น ไปหาอ่าน (การ์ตูนที่รักเคยแนะนำอะนิเมะดีๆ อีกสองเรื่องที่อ้างอิงหนังสือเล่มนี้)
ชิมะได้กลิ่นโรงงานจากตัวเคน เธอประทับใจในตัวเด็กชายที่ขยันเรียนและขยันทำงาน สร้างกล้องโทรทรรศน์ก็เป็น ชิมะถึงกับตามไปที่เนินหญ้าในคืนหนึ่ง ที่ซึ่งรถไฟสายทางช้างเผือกจอดอยู่ ที่แท้เคนกำลังรอใครบางคน การ์ตูนสั้นจบด้วยการจากลา ทิ้งอะไรต่อมิอะไรให้ค้างคาบนทางช้างเผือกฉะนั้น
เรื่องที่ 2 นีแอนเดอร์ทาล ปี 1969 (เขียนตัวสะกดตามสำนักพิมพ์)
ฮาชิ วาตารุ เป็นสายลับ เขาแทรกซึมองค์การอวกาศญี่ปุ่นในสถานะนักบินทดสอบ คู่หมั้นชื่อเรย์ ฮายามะประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกกำลังได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเป็นตายเท่ากัน เธอรอดชีวิตมาได้แต่นิสัยเปลี่ยนไป แรงดึงดูดทางเพศสูงขึ้น ความต้องการสูงขึ้น เธอพยายามตั้งครรภ์กับฮาชิท่าเดียว
อ่านแล้วชวนคิดถึง Sexaroid ผลงานก่อนหน้าปีเดียวของเลย์จิที่ออกแนววาบหวามปนตลกคล้ายๆ กัน เรื่องนี้แม้สั้นนิดเดียวกลับมีประเด็นชัดเจนและจริงจัง
เรย์ได้หัวใจของมนุษย์นีแอนเดอร์ทาลไป ดีเอ็นเอที่ได้ไปสร้างการเปลี่ยนแปลงในสมอง พวกนีแอนเดอร์ทาลวางแผนจะยึดโลกคืน
นีแอนเดอร์ทาลเป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์หนึ่งที่อยู่บนโลกเมื่อแสนปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกันกับโฮโมอีเร็คตัสซึ่งเป็นโฮมินอยด์พวกแรกที่ยืนได้ นีแอนเดอร์ทาลไม่เพียงยืนได้แต่ยังมีกรามและสมองที่ใหญ่ใส่ไว้ในกะโหลกศีรษะแบนยาว พวกเขาใช้เครื่องมือหยาบๆ ได้ สื่อสารด้วยภาษาอย่างหยาบได้ แต่คิดเชิงนามธรรมไม่ได้ พวกเขาเลียนแบบได้แต่เรียนรู้ไม่ได้
แล้วจู่ๆ พวกมนุษย์โครมันยองก็ปรากฏตัวขึ้นบนผิวโลกเมื่อสามถึงสี่หมื่นปีก่อนแล้วพวกนีแอนเดอร์ทาลก็หายไป ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มนุษย์โครมันยองมีกะโหลกศีรษะเหมือนพวกเราวันนี้ มีสมองเล็กลงแต่สมองส่วนหน้าใหญ่ขึ้นนั่นทำให้เรียนรู้ได้ คิดเชิงนามธรรมได้ พัฒนาการทางภาษาและเครื่องมือเครื่องใช้ในการล่าสัตว์หรือครัวเรือนอย่างก้าวกระโดด
หนังสือบางเล่มว่านีแอนเดอร์ทาลและโครมันยองไม่ผสมพันธุ์กัน (ชิมแปนซีที่สาม The Third Chimpanzee โดยจาเรด ไดมอนด์) แต่มีนวนิยายเรื่องหนึ่งเขียนเรื่องนีแอนเดอร์ทาลข่มขืนสตรีโครมันยองคนหนึ่งจนตั้งครรภ์ (ตำนานมนุษย์ถ้ำ The Clan of the Cave Bear โดยฌอง เอ็ม อวล) ด๊อกเตอร์กรามใหญ่ในการ์ตูนสั้นเรื่องนี้คาดหวังให้ฮาชิและเรย์ผสมพันธุ์กันบ่อยๆ
เรื่องที่ 3 นางพญามหาแม่มดที่สาม ปี 1974
ชายหนุ่มธรรมดาๆ ชื่อโมโตบุเนะ พบหญิงสาวเซ็กซี่ชื่อยาราเรต้า แปลว่าถูกตำเข้าแล้ว
สองคนนัวเนียกันหามรุ่งหามค่ำ ฉันยาราเรต้าเธอเธอยาราเรต้าฉัน ที่แท้หล่อนมาจากอวกาศที่ซึ่งเพศหญิงครองพิภพผู้ชายเป็นแค่น้ำเชื้อเก็บไว้ในแคปซูลเท่านั้น (ลักษณะน้ำเชื้อน่าขนลุก)
หลังจากยาราเรต้ากันจนหนำใจแล้วยาราเรต้าก็เดินทางกลับดาวของตัว เวลาผ่านไปเจ็ดพันปีแต่สำหรับโมโตบุเนะเพิ่งผ่านไปเจ็ดวัน ยาราเรต้าก็กลับมาถึงโลกพร้อมลูกชายโมโตบุเนะสามคน
นี่เป็นช่วงเวลาวิกฤตของจักรวาลที่เพศชายจะสูญสิ้นอำนาจโดยสิ้นเชิง
ลูกชายสามคนของเพศชายธรรมดาๆ อย่างโมโตบุเนะต้องเร่งแก้ไขแล้ว
เรื่องที่ 4 อภิมหาซารุมะตาเกะ ปี 1977
เล่าเรื่องเห็ดที่เติบโตขยายจำนวนปกคลุมทั่วเกาะญี่ปุ่นจนเกิดเป็นกรณีพิพาทกับต่างประเทศอันอาจจะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ (แม้ว่ากองกำลังป้องกันตนเองไม่เคยทำสงคราม)
รัฐบาลเสนอเงินรางวัลก้อนงามสำหรับผู้ที่กำจัดเห็ดเหล่านี้ได้
อาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งวิเคราะห์ข้อมูลการกระจายตัวของเห็ดแล้วพบว่ามันละเว้นบริเวณที่มีสตรีเพศอยู่มาก แต่มันไปรวมตัวหนาแน่นอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ชายผู้นั้นบุกดงดอกเห็ดน่าขนลุกชวนสะอิดสะเอียนเข้าไปจนพบชายหนุ่มธรรมดาๆ คนหนึ่งสวมกางเกงลิงตัวเดียวในบ้านที่ปูเสื่อทาตามิสี่ผืนครึ่ง และพบกองกางเกงลิงใช้แล้วไม่ซักจำนวนมากเป็นที่เพราะดอกเห็ดมหากาฬมากมาย
อย่าพลาดหักมุมตอนจบ
ก่อนจะไปอ่านเรื่องที่ 5 คุยเรื่องที่เรื่องที่สาม สี่ และห้านี้ก่อน สามเรื่องนี้สำหรับนักอ่านทั่วไปอาจจะไม่ทราบว่าตัวเอกของเรื่องควรจะเป็นคนเดียวกัน สังเกตได้จากรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกัน อยู่บ้านที่ปูด้วยเสื่อทาตามิแบบเหมือนกัน และสวมบ๊อกเซอร์ (กางเกงลิง) ลายเดียวกันเวลาอยู่บ้าน ทั้งสามคนใช้คนละชื่อในแต่ละเรื่อง แต่ที่จริงพวกเขาอาจจะเป็นคนเดียวกัน
เลย์จิเคยเขียนการ์ตูนขำขันโรแมนติกเชิงปรัชญาระหว่างปี 1971-1973 เรื่องนี้ทำให้เขาดังและโด่งดังยิ่งขึ้นไปอีกจากเรือรบอวกาศยามาโตะปี 1974 กับไซไฟอีกหลายเรื่องหลังจากนั้น การ์ตูนขำขันโรแมนติกเชิงปรัชญาเรื่องนั้นคือ Otoko oidon แปลว่า พ้มผู้ชายนะครับ (สำเนียงฟูกูโอกะ) มีตัวเอกเป็นเด็กหนุ่มใส่แว่นสกปรกขี้เกียจสันหลังยาวและเย่อหยิ่งชื่อโอยามะ โนบ๊ตตะ เขามาจากคิวชูเหมือนเลย์จิ ชอบกินราเมงเหมือนเลย์จิ (และเหมือนเด็กชายเคนในเรื่องแรก) บ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของอัตชีวประวัติของเขาเอง
หนังสือพ้มผู้ชายนะครับ บทที่ 1 ชื่อ 4? Tatami of My Youth คือเสื่อทาตามิสี่ผืนครึ่งในห้องของเขา ส่วนบทที่ 4 ชื่อ Sarumatake, A Man’s Regrets โอยามะเรียกเห็ดที่ขึ้นบนกางเกงลิงของเขาว่าซารุมะตาเกะ ซารุมะตะแปลว่ากางเกงลิง ตะเกะแปลว่าเห็ด
เรื่องที่ 5 ยามาบิโกะ no.13 เป็นเรื่องที่เลย์จิเขียนปี 1971 ปีเดียวกันกับที่เขียนพ้มผู้ชายนะครับ
เนื้อเรื่องออกแนวไซไฟทริลเลอร์ ตัวเอกคือโอยามะ โนบ๊ตตะใส่กางเกงลิงแบบเดียวกันอาศัยอยู่ในบ้านที่มีเสื่อทาตามิสี่ผืนครึ่งเหมือนกัน
บทที่ 3 ในหนังสือพ้มผู้ชายนะครับมีชื่อตอนว่า Requiem no.13
ขออภัยการ์ตูนที่รักยังไม่สามารถหาฉบับภาษาอังกฤษของเรื่องนี้อ่านได้
เรื่องที่ 6 ญี่ปุ่นล่มสลาย-อุโมงค์นรก ปี 2005 เป็นเรื่องเด่นพาเราวนกลับไปเรื่องแรกรถไฟสายทางช้างเผือกอีกรอบ ครั้งนี้เลย์จิเริ่มต้นตั้งแต่ปลายสงครามโลกครั้งที่สองวันที่ 15 สิงหาคม ปี 1945 เมื่อญี่ปุ่นลงนามยอมแพ้สงคราม เขากำลังนั่งรถไฟออกจากคิวชู ที่แท้มังงะคลาสสิคตลอดกาลรถด่วนอวกาศ Galaxy Express 999 เริ่มก่อตัวในค่ำคืนนั้นเอง
พ้มผู้ชายนะครับ โอยามะมีเพื่อนผู้หญิงสองคน อิโตะและอะคิยามะ
อิโตะเลื่อมใสโอยามะให้ยืมหนังสือ อาชญากรรมและการลงทัณฑ์ ของดอสโตเยฟสกี้ โอยามะกำลังตกงานไม่สนใจใยดีทิ้งหนังสือไว้บนพื้นเปรอะเปื้อนราเมงแล้วเดินเหยียบผ่านไปมา อิโตะทนความโสโครกไม่ไหวผละเขาไป
อะคิยามะประทับใจโอยามะทำงานด้วยเรียนด้วย (เหมือนเคนในเรื่องแรกและโจวานนี่ในรถไฟสายทางช้างเผือก) เมื่อโอยามะตกงานเพราะเอาแต่นอนสันหลังยาวทำให้ต้องพักการเรียน อะคิยามะรวบรวมเงินจากเพื่อนๆ มาช่วยเหลือ แต่พ้มผู้ชายนะครับหยิ่งเกินกว่าจะรับไว้อะคิยามะจึงผละไปอีกคนหนึ่ง
ท่านที่เคยอ่านอาชญากรรมและการลงทัณฑ์จะสัมผัสได้ถึงความคล้ายคลึงของตัวเอกคือราสโคลนิคอฟ (ซึ่งฆ่าคนไปสองคน) กับพ้มผู้ชายนะครับ เขาสองคนมาจากครอบครัวยากจน เดินทางมาเมืองใหญ่เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ไม่สามารถรับรักใครโดยง่ายเพราะความเย่อหยิ่ง ในขณะเดียวกันก็มีความคิดซับซ้อนเกินกว่าที่ตนเองจะเข้าใจได้ •
การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต


