เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

Songs in the Key of Life : Father Figure ฉันยังอยู่

07.05.2025

บทความพิเศษ | ภาสกร ประมูลวงศ์

 

Songs in the Key of Life : Father Figure

ฉันยังอยู่

 

ผมอยู่ที่นั่นตอนนั้นถึงกล้าพูดได้เต็มปาก ช่วงเดือนธันวาคมปี 1987 ขณะทุกอย่างกำลังหมุนช้าๆ ไปตามกาลเวลา

ทว่า ทันทีที่ Father Figure ซิงเกิลลำดับที่สี่ของจอร์จ ไมเคิล (จาก Solo Album แรกนาม Faith) ลงแผง เมื่อนั้นเกาะอังกฤษก็เล็กเกินไปแล้วสำหรับเขา

ในรถแท็กซี่ ร้านรวง คาเฟ่เท่ๆ หรือตรอกซอกซอย คุณไม่มีทางหนีจากเพลงนี้พ้น มันมาพร้อมๆ กับข่าวลือหนาหูว่าจอร์จเป็นเกย์ (ก่อนเปิดเผยความจริงในเวลาต่อมา)

ดังนั้น ในแง่ของการตีความมันจึงดูขัดแย้งกับภาพใน MV ขอใช้คำว่า “แตกต่างลิบลับ”

จอร์จ ไมเคิล (George Michael) บุตรชายคนเดียวในบรรดาพี่น้องสามคนจากครอบครัวผู้อพยพชาวกรีก พ่อทำงานในร้านอาหาร ส่วนแม่เป็นนักเต้น

อาชีพนักดนตรีเริ่มต้นเมื่อชีวิตโคจรมาพบกับเพื่อน (เคย) รักนาม แอนดรูว์ ริดจ์ลีย์ (Andrew Ridgeley)

ปี 1981 ทั้งสองก่อตั้งวงนาม Wham! โดยแอนดรูว์แทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ด้านดนตรีเลย

อย่างเดียวที่เขาได้ทำและเป็นสิ่งที่เยี่ยมที่สุด นั่นคือการเปลี่ยนจอร์จ ไมเคิล จากเด็กอ้วนแต่งตัวเชยๆ เป็นป๊อปสตาร์ผู้ที่คนอังกฤษให้การตอบรับและรักอย่างหมดหัวใจ

แอนดรูว์แปลงร่างเด็กเดินตั๋วในโรงหนังให้กลายเป็นคนเขียนเพลงที่โลกครั่นคร้าม

คืนนั้น บนรถเมล์เที่ยวดึกจอร์จนั่งอยู่เพียงลำพังข้างหน้าต่าง มือข้างซ้ายประคองสมุดโน้ตคู่ใจ มือข้างขวากำปากกาหลวมๆ

เขาเขียนเพลง Careless Whisper โดยหวังว่ามันจะช่วยเปลี่ยนชีวิต กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของห้าปีเต็มๆ ที่เวียนว่ายในวงการ

Wham! มีผลงานสามอัลบั้ม Fantastic (1981) Make It Big (1984) และ Music from The Edge of Heaven (1986) ฝากเพลงฮิตให้คนทั่วโลกร้องตาม

โดยนับตั้งแต่ปี 1987 จอร์จบินเดี่ยวข้ามฟากไปประกาศศักดาถึงเมืองลุงแซมก่อนดังระเบิดไปทั่วโลก พัฒนาความคิดลามถึงแนวทางดนตรี+วิธีการเขียนเพลง

จนได้รับการขนานนามให้เป็น Political Pop

Faith (1987) วางแผงจัดว่าเงียบๆ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน แต่กลับดังถึงขนาดขึ้นอันดับหนึ่งทั้งฝั่งอเมริกาและอังกฤษ

ตอนนั้นแม้เขาไม่ได้ตั้งโต๊ะประกาศว่า Wham! แตกแต่แฟนเพลงก็รับรู้ไปแล้วโดยพฤตินัย

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากปากคำหลังคอนเสิร์ต Live Aid

“ด้วยสถานภาพเดิมๆ ผมสามารถทำเพลงแล้วไปออกรายการ Top Of The Pops ได้ตลอดชีวิตสบายๆ แต่เมื่อเห็นไมเคิล แจ๊กสัน (Michael Jackson) กับ ปรินซ์ (Prince) บนเวที ตอนนั้นแหละที่ผมเริ่มคิดถึงคำว่า Solo Artist ผมเชื่อว่าตัวเองสามารถไปถึงจุดนั้นได้ มันก็แค่นั้น” จอร์จกล่าวถึงวินาทีที่เขาตัดสินใจฉายเดี่ยวเต็มตัว

เกือบขวบปีที่เขาฟูมฟักอัลบั้มแรกโดยปล่อยซิงเกิล I Want Your Sex ออกมาชิมลางก่อนซึ่งได้รับการตอบรับแบบกลางๆ

โน่นแหละครับ ซิงเกิลที่สี่ Father Figure ชื่อของจอร์จ ไมเคิล ถึงจะโด่งดังคับเกาะ

“มันคือเพลงรักหมองหม่นสุดกู่ที่เปิดพรมแดนใหม่ให้กับกลุ่มคนชายขอบสังคม” ซู แดนโด้ (Sue Dando) เขียนรีวิวไว้กับนิตยสาร Smash Hit

“มันดูแตกต่างจาก A Different Corner (1986) ตรงความตั้งใจของการส่งสารไปยังคนฟังถึงความรักในรูปแบบของการดูแลซึ่งกันและกัน ชนิดไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน”

มากกว่านั้นนิตยสาร Billboard ยังเป็นสื่อลำดับต้นๆ ที่เขียนถึงเนื้อแท้ตัวตนของจอร์จ ไมเคิล โดยเปรียบเทียบความเทาจัดในระดับ Smokey Ballard

“มันล้ำไปอีกขั้น เป็นลำดับชั้นของความรักที่มากกว่า Careless Whisper (1981) เขาพาคนฟังลัดขั้นตอนไปยังความลึกซึ้งในมุมมองที่ไม่มีเรื่องเพศรส มันคือความสัมพันธ์ล้ำลึกไม่เหมือนกับอะไรที่เคยเขียน การยกประโยคเปรียบเทียบ ‘ร่างทรงของบิดา’ ดูจะเป็นคำอธิบายที่ดีมาก เท่าที่คนๆ นึงพึงจะสื่อสารออกมา”

ถ้าเธอร้อง ฉันจะปลอบ ตอบคำถาม

จะขอตาม มิหักเห เสน่หา

เหมือนดั่งพ่อ ผู้ดูแล แก่ธิดา

ใครจะว่า บ้า-งมงาย ไม่เห็นแคร์

จะขอเป็น เช่นนักบวช หากรวดร้าว

หลากเรื่องราว ผ่านเข้ามา อย่าแยแส

เป็นดั่งเกราะ คุ้มกันภัย ใครตอแย

เธอเพียงแค่ มุ่งหน้าไป ตามใจปอง

จะหัวเราะ หรือร้องไห้ อย่าได้หวั่น

ไปด้วยกัน ทางอีกไกล ในเราสอง

ขอแค่เพียง ได้ชิดใกล้ ใช่ครอบครอง

หากเธอตรอง หน่อยคงดี มีน้ำใจ

อเวจี หรือสวรรค์ ฉันยังอยู่

คอยเฝ้าดู ขอรู้เห็น เป็นไฉน

แม้โลกแตก แลมอดดับ ลาลับไป

จะขอเป็น คนสุดท้าย ได้รักเธอ

ด้วยสถานภาพของความเป็นศิลปิน ถือเป็นเรื่องปกติที่ MV จะนำเสนอในมุมที่แฟนเพลงกลุ่มแมสต้องการ

จอร์จในบทบาทของคนขับรถที่รับส่งนางแบบชื่อก้อง (รับบทโดยทาเนีย โคลดริดจ์ คนสวย) เล่าเรื่องด้วยภาพรักมอนทาจปัจจุบันสลับอดีต ถ้านึกไม่ออกลองคิดภาพร็อบบี้ วิลเลียม หรือ จัสติน ทิมเบอร์เลค นั่นแหละครับใช่เลย

หากแต่เพลงนี้เมื่อยู่ในความคิดของเพศทางเลือก มันกลับให้แง่มุมที่แตกต่าง

“เขาเคยร้องเพลงบัลลาดลึกล้ำคู่กับอาริท่า แฟรงกลิน (Aretha Franklin) โดยยังคงความเป็นตัวเอง หากคุณคิดว่านั่นคือความฟลุกลองหา AS ที่ดูเอ็ตกับแมรี่ เจ ไบลจ์ (Mary J Blige) หรือ If I Told You That กับวิตนีย์ ฮิวสตัน มาลองฟังกันดู คุณจะเห็นความเป็นเกย์ที่โคตรจะสากล”

แบร์รี่ วอลเตอร์ส (Barry Walters) เขียนทิ้งไว้แบบนั้นกับ NPR สื่อออนไลน์ในเซ็กชั่น The Record เหมือนเขาต้องการจะกระทืบตัวตนในแบบ Wham! ลงถังขยะชนิดสิ้นซากหมดเรื่องหมดราว

ไม่เท่านั้นครับ ความเป็นเกย์ของจอร์จ ไมเคิล ยังดูลึกล้ำกว่าเซอร์เอลตัน จอห์น ตรงที่เขาไม่ต้องการกลุ่มแฟนเฉพาะด้านแบบจริงๆ จังๆ

เขาก็แค่มีเรื่องเล่าที่ปกติธรรมดา หากแต่เมื่อมันถ่ายทอดสู่สาธารณชนเรากลับรู้สึกเหมือนได้ฟังมาร์วิน เกย์ หรือ สตีวี่ วอนเดอร์

และ Father Figure ก็ได้ทำหน้าที่เหมือนคราดเหล็กคมๆ ที่กรุยเส้นทางใหม่ให้เขาก้าวไปข้างหน้า

อีกตัวอย่างที่ชัดเจนคือการคัฟเวอร์ I Can’t Make You Love Me ที่ก่นออกมาแบบเหมือนมีเศษเลือดติดออกมาด้วย

และใช่ ภาพความหลังของ Father Figure อาจจะไม่มีอะไรมากไปกว่าแค่การโยนหินถามทาง การวัดดวงที่ได้ผลลัพธ์เกินคาด หรือการพูดถึงความสัมพันธ์ทางเลือกแบบไม่เจาะจงไปยังคนกลุ่มใดเป็นพิเศษ แต่ดันมีคนชื่นชมและให้ท้าย

ทว่า หลังขวบปี 1998 กับเหตุการณ์อื้อฉาวที่ Beverly Hills’ Will Rogers Memorial Park จอร์จกลับขับภาพ Political Pop ออกมาชัดเจนมากยิ่งขึ้นผ่านเพลง Shoot The Dog ที่สะท้อนความคิดเห็นในประเด็นอิรักกับจุดยืนของโทนี่ แบลร์และจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เป็นฉากๆ

หรือการนำเพลงของดอน แม็กลีน มาทำใหม่ The Grave คือการประกาศจุดยืนทางความคิดในเรื่องสงคราม

ปี 2008 เขาทำลายความเงียบในช่วงเดือนธันวาคมด้วย December Song (I Dream of Christmas) ที่จิกกัดแวดวงสื่อสารมวลชนอย่างจมเขี้ยวแถมทำให้เรากลับไปคิดถึงเพลงอย่าง Last Christmas อย่างช่วยไม่ได้

ระหว่างนั้นก็มีนักร้องอย่างแซม สมิธ อดัม แลมเบิร์ต หรือ ทรอย ซิแวน ทำหน้าที่ Gay Icon ไปพลางๆ

แต่ก็นั่นแหละครับ ไม่มีใครทำได้แบบจอร์จ ไมเคิล

สำหรับผู้ที่เกิดทันและเติบโตเทียบรุ่น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่มีใครสามารถเขียนเพลงและสื่อสารได้ในแบบเขาอีกแล้ว

Bronski Beat หรือ Soft Cell หรือ Erasure อาจจะมีเพลงฮิตตามยุคสมัยและแสดงตัวตนออกมาชนิดไม่ต้องแคร์ผู้คน

ทว่า กับศิลปินผู้ที่ใช้ชีวิตด้วยการเดินไต่เส้นแห่งจารีตแห่งการตื่นขึ้นมาหายใจเข้าออกและทำงาน แน่นอน นั่นคือสิ่งที่เข้าใจได้โดยยากถึงยากมาก Jesus to a Child หรือ You have been loved อาจฟังดูเป็นการจิกกัดสังคม/การเมืองที่พอเข้าใจได้ ทว่า น้อยคนนักที่จะเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เขาไม่สนใจเลย นั่นเพราะเสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2016 สิริรวมอายุได้ 53 ปี แถมไม่มีการสร้างภาพยนตร์อัตชีวิตใดๆ

“ผมใช้ชีวิตครึ่งแรกไปกับความเชื่อพื้นฐานทางสังคมเหมือนชาวบ้านทั่วๆ ไป ผมมาสัมผัสชีวิตความเป็นเกย์จริงๆ จังๆ ตอนอายุได้ 27 (ปี 1990) ผมสับสนบอกไม่ถูกว่ะ” จอร์จ ไมเคิล หล่นคำพูดนี้กับ CNN ในปี 1998

“ผมเขียนเพลง Father Figure ด้วยความรู้สึกที่ผมมีกับผู้หญิงคนหนึ่งแบบไม่มีความต้องการส่วนตัวใดๆ เลย ผมแค่อยากเป็นเพื่อนคู่ชีวิต รับรู้เรื่องราวทุกข์สุข จนกระทั่งมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย ตรงนั้นแหละครับคือความเจ็บปวด”

เขาสรุปสั้นๆ ทว่าขณะเดียวกันแฟนเพลงเดนตายผู้ใกล้ชิดกลับมีความคิดเห็นอีกแบบว่า เป็นไปได้ไหมที่ Father Figure ถูกเขียนขึ้นเพราะจอร์จเองไม่มี “ต้นแบบร่างทรงของพ่อ”?

บิดาของเขาเป็นผู้อพยพที่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว

เขาจึงเติบโตโดยขาดฐานรากอันจีรังและมั่นคง จิตใต้สำนึกจึงสั่งให้เขียนถึงสิ่งที่เขาไม่มีให้กับคนที่อาจไม่ต้องการ

ถ้าเป็นคุณ…คุณจะคิดยังไง?



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

“อนุทิน” ย้ำ หากถูกยึด มท. พร้อมเป็นฝ่ายค้าน – ประกาศก้อง ศักดิ์ศรีภูมิใจไทย ไม่ยอมให้ใครปู้ยี้ปู้ยำ
ประเทศที่ (ยัง) ก่อสร้างไม่เสร็จ อ่านประเทศไทยผ่านงบฯ ปี’69 และช่องทางรับทรัพย์ของผู้รับเหมาก่อสร้าง
ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ผลประโยชน์ของใครบ้าง?
ชิงเก้าอี้ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ผู้สมัคร 7 ราย ดีกรีไม่ธรรมดา ตัวจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!!
เอกชนห่วง ‘เขย่า ครม.’ กลางคัน งานสะดุด-ฉุดเชื่อมั่นนักลงทุน
ชีวิตทางเลือก | ธงทอง จันทรางศุ
Songs in The Key of Life : ก่อนเวลาจะผ่านไป
จาก No Man’s Land สู่ This Land is My Land
เด็กที่ชินกับรสขม VS ผู้ใหญ่ที่สิ้นหวังกับการเปลี่ยนแปลง
ปฏิทินกับประชาธิปไตย : เมื่อเสียงข้างมากปะทะกับสิทธิ์ข้างน้อย
ประเมินสถานการณ์ ไทย-กัมพูชาจาก RLI
ดาวกับดวง อังคารที่ 17 มิถุนายน 2568