เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

“ปรับ ครม.” จัดแถวใหม่ | ลึกแต่ไม่ลับ

01.05.2025

ลึกแต่ไม่ลับ | จรัญ พงษ์จีน

 

“ปรับ ครม.” จัดแถวใหม่

 

“ปรับ ครม.2” ต่อให้ “นายกฯ-พ่อนายกฯ” ทั้ง “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” และ “ทักษิณ ชินวัตร” อมพระระดับเบญจภาคีมายืนยันว่า ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีในตอนนี้ แต่ดูเงื่อนไขให้ครบทุกองคาพยพแล้ว “ไม่มีใครเชื่อ”

จะช้าหรือเร็วต้องลงมือยกเครื่อง สถานีแรกเซียนทุกสำนักฟันธงตรงกันว่า “ปรับเล็ก” ซึ่งคาดหมายกันว่า “นายกฯ อิ๊งค์” มาจัดแถวใหม่หลังการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรกแล้วเสร็จ ในวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้

ใครจะถูกเขี่ยออกจากสนามแม่เหล็กในล็อตแรกทุกคนรู้แก่ใจดี เจ้าตัวเองก็ทราบชะตากรรมตัวเอง แต่ขอหลีกเลี้ยวการเอ่ยนามเพื่อถนอมน้ำใจ เอาเป็นว่า “นิด้าโพล” ตอกย้ำฮวงจุ้ยได้ใกล้เคียงมากที่สุด

ยึด “นิด้าโพล” ที่ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เมษายน เป็นลายแทง “กระทรวง-รัฐมนตรีที่ต้องปรับ” แบบโดยเร็ว ในส่วนของ “เพื่อไทย” ลำดับที่ 1 ลำดับที่ 3 และ 4 พ่วงด้วย “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถูกต้องตามความน่าจะเป็นมากที่สุด

เท่ากับว่า ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำ จะปรับปรุงคณะรัฐมนตรี สูตร “ปรับเล็ก” ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม หลัง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านวาระแรก โดยเฉพาะ “หนึ่งในสี่” เข้าใจได้ครับว่า นอกจากการบริหารผลงานไม่เข้าตาสักเม็ด ทุกอย่างผิดพลาดหมด ส่งสัญญาณอันตรายต่อการพังทลาย ตกอยู่ในสภาพขาลงเต็มรูปแบบแล้ว ยังถูกยัดเยียดปัญหาอื่นๆ ให้อีก ไม่อยากเขียน เจ็บมือ

ขณะเดียวกันกับ “สูตรปรับใหญ่” แม้ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” เลือกที่จะอดทน เลือกที่จะรอคอย ตอบเสียงดังฟังชัด “ตอนนี้ยังไม่คิดปรับอะไรค่ะ” เช่นเดียวกับ “พ่อนายกฯ” ที่ชื่อ “ทักษิณ” ก็การันตีอีกแรงว่า “แล้วแต่นายกฯ เพียงแค่ทุกคนเอาเรื่องของการเมืองและการบริหารโดยเฉพาะงานบางอย่างที่ไม่ค่อยออก ซึ่งหากมีการติดขัดอะไรต้องคุยกับนายกฯ”

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่การปรับคณะรัฐมนตรีจะปรับในส่วนของพรรคเพื่อไทยก่อน “พ่อนายกฯ” กล่าวว่า “ไหนๆ จะปรับก็ต้องทีเดียว” ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะมีการปรับโดยผลักดันพรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน “ทักษิณ” รีบปฏิเสธเสียงเข้มว่า “ไม่มี ไม่เคยคิดว่าจะให้ใครออกไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีความคิดตรงนั้น”

สอดรับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับที่ก่อนหน้านี้ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ-รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เจตนาและจงใจ หมายดับไฟข่าวลือ ที่ไม่ค่อยเป็นสับปะรดขลุ่ยกับพรรคสีน้ำเงิน โดยบอกว่า “ช่วงสงกรานต์นายทักษิณชวนไปกินข้าวด้วยกับเพื่อนชาวต่างชาติที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่มีเรื่องการเมือง มีแต่คุยเรื่องส่วนตัวเท่านั้น”

ความเป็นจริงในขณะนี้ จึงสรุปได้ว่า รัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะ “สูตรปรับใหญ่เอาภูมิใจไทยออก”

 

แต่ดังที่บอก ต่อให้ “นายกฯ กับพ่อนายกฯ” อมพระกี่วัด เกจิไหนมาพูด ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะความขัดแย้งระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” ช่วงที่ผ่านมาแม้ภายนอกออกจะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน แต่มีหลายปัญหาสะท้อนผ่านว่ามีความขัดแย้งกันหนักมากมายหลายปมเงื่อน เริ่มตั้งแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อไทยอ้างว่าเป็นนโยบายรัฐบาล แต่ถูกภูมิใจไทยกวนปีก การประชุมสภาล่มกลางอ่าวมาตลอด ตอนนี้ยังคืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล อีหรอบเดียวกันกับการทำประชามติ 2 พรรคเห็นต่างในหลักเกณฑ์กันทำประชามติ อีกพรรคชั้นเดียว อีกค่ายสองชั้น

เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ. ที่รู้แพ้รู้ชนะกันไปเรียบร้อยแล้ว ในหลายจังหวัด “เสื้อแดง” สู้กันยิบตากับ “สีน้ำเงิน” และที่ยกระดับความข้ดแย้งได้มากที่สุดคือ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” พรรคเพื่อไทยเดินหน้าเต็มสูบ ขณะที่ภูมิใจไทยแสดงจุดยืนขวางเต็มลำ ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายประกอบสถานบันเทิงครบวงจร ในทุกรูปแบบ

ตราบใดที่ยังยึดการเมืองเหนือการทำงานในฐานะพรรคร่วม เหนือความเป็นมิตรที่ดี ความขัดแย้งกระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทย ไม่มีวันยุติและสิ้นสุด

“ทักษิณ” ไม่ได้กินแกลบ และไม่ใช่นักการเมืองพันธุ์หนองโพ ต่อพันธุกรรม ถ่ายทอดลักษณะที่เหมือนกันในหลายๆ อย่างจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ดังนั้น ตอนนี้แม้จะถูกบีบถูกขวางทุกรูปแบบ ดังที่บอกว่า “นายกฯ อิ๊งค์กับพ่อ” เลือกที่จะอดทน เลือกที่จะรอคอย “แต่…โปรดอดใจรอสักครู่นะครับ”

“นายใหญ่-กับลูกสาวนายใหญ่” พร้อมจะทะลวงลำไส้ เขี่ยพรรคภูมิใจไทยออก โดยเมื่อคำนวณสูตรผสมรัฐบาล “แพทองธาร 1” มีฐานที่มั่นจำนวน 319 เสียง แยกเป็นเพื่อไทย 141 ภูมิใจไทย 68 รวมไทยสร้างชาติ 36 ประชาธิปัตย์ 25 กล้าธรรม 241 ชาติไทยพัฒนา 10 ประชาชาติ 9 ชาติพัฒนา 3 รวมพลัง 2

หากตัดสายสะดือพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เหลือ 251 เสียงจะปริ่มน้ำ ปิ่มจะขาดใจตาย สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน มี ส.ส.เต็มคณะอยู่ที่ 493 คน ครึ่งหนึ่งเท่ากับ 247 คน

ใช้กำลังภายในของ “ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่บารมีกำลังผ่อง ดึงหรือดูดพรรคพลังประชารัฐมายกพรรค 20 คน เสียงเพิ่มเป็น 261 พรรคขนาดเล็กที่ชื่อไทยสร้างไทย กลุ่ม 4 เสียง ข้ามสะพานมาครึ่งทางแล้ว พร้อมร่วมเต็มประดาแด เป็น 265 กับพรรคกล้าธรรมที่ได้มาจากเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช มาอีก 1 เสียง เป็น 266 เสียง เกินกึ่งหนึ่ง 16 เสียง แต่จะขี้จะเยี่ยวลำบากหน่อยในช่วงแรกๆ

ทนความลำบาก สามัคคีอดทนกันไม่นาน ส.ส.พรรคก้าวไกลที่โยกมาสังกัดพรรคประชาชน ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 112 ชะตากรรมใกล้เข้ามามากแล้ว หากโดนเช็กบิล จาก 44 คน ถูกตัดสิทธิ 10 ปี 8 คน ไม่ได้อยู่ในสภาชุดปัจจุบัน 11 คน เหลือตายหมู่อีก 25 คน หาก ส.ส.ค่ายสีส้มถูกเป่าดับตามพรรคอนาคตใหม่ ก้าวไกล ถึงตอนนั้น ตัวหารครึ่งหนึ่งจะลดลงอีก

เมื่อครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชนหายไป ฐานเสียง 266 ของรัฐบาล ก็หายใจสะดวกสบายขึ้น



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

หวยออกที่อิ๊งค์
ช็อก! ทรัมป์เล่นแรงเก็บภาษีไทย 36% ชี้ผลเสียหายมากกว่าตัวเลข “ส่งออก” “พิชัย” แบกภารกิจชาติ “สู้ต่อ-สู้ไม่ถอย”
‘เศรษฐกิจไทย’ ตกหลุมอากาศ เจอ Perfect Storm 3 ลูกซัด การเมือง-ภาษีทรัมป์-ท่องเที่ยวทรุด
พรรคน้ำเงินกับพลังตัวซีเคร็ต
จริงหรือที่ว่าเด็กรุ่นใหม่
การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกญี่ปุ่น (参院選挙) ปี 2025
‘ไม่มีประชาธิปไตยในความรัก’ : รำลึกถึงกูกิ วา ทิอองโก (Ngũgĩ wa Thiong’o)
ผมจะทำอะไรกับประกันสังคม หากมีอำนาจเป็นรัฐบาลสักสามเดือน
MatiTalk ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่เคยสิ้นหวัง ไม่ต้องห่วงเพื่อไทยจะพัง อำนาจรัฐที่มาจากประชาชนต้องมาก่อน
เปิดประตูสู่ซีอานกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ดาวกับดวงวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม 2568
‘ฮุน มาเนต’ เล็งเดินหน้าใช้กฎหมาย ‘บังคับเกณฑ์ทหาร’ เริ่มปี 2026 ชี้เพื่อเสริมสร้างกำลังทหารของประเทศ เพิ่มระยะเวลาการฝึกภาคบังคับ เป็น 24 เดือน