

มีแววกลับมาแล้ว กับยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย
วัดจากยอดจำหน่ายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวม 55,798 คัน ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 21,054 คัน ลดลง 5.8% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 34,744 คัน เพิ่มขึ้น 2.9% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 18,355 คัน ลดลง 6.6%
ที่น่าสนใจไม่พ้นตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 23,123 คัน คิดเป็นสัดส่วน 41.4% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 23.1% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
รถยนต์ HEV ทำยอดขายได้ 13,196 คัน เติบโตขึ้น 3.6% และยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 8,598 คัน เพิ่มขึ้น 66.9%
ส่วนเดือนเมษายน แม้ตัวเลขยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่หากวัดจากงานมอเตอร์โชว์ ที่จัดช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน กวาดยอดขายไปอร่อยเหาะ มากกว่าปีที่แล้วถึง 44%
โดย “โตโยต้า” ยังครองแชมป์เช่นเดิม เป็นยอดจองภายในงานกว่า 9,600 คัน
และหากนับตัวเลขทั่วประเทศในช่วงจัดงาน โตโยต้าได้ยอดสูงกว่า 21,000 คัน
จึงแน่ใจได้ว่าเดือนเมษายน ยอดขายในภาพรวมคงกระเตื้องขึ้นไม่มากก็น้อย
ที่น่าสนใจในค่ายโตโยต้า รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “ยาริส ครอส” (YARIS CROSS) เอสยูวีขนาดเล็ก หรือ B-SUV ขุมพลังไฮบริด
เพราะแม้จะเปิดตัวมาพักใหญ่ แต่แรงดีไม่มีตก
“ยานยนต์ สุดสัปดาห์” จึงขอนำรายละเอียดรถรุ่นนี้มานำเสนอ ว่าจุดเด่นอะไรทำให้ขายดิบขายดียาวนานขนาดนี้
แต่จะมาเดี่ยวๆ ก็อาจไม่เหมาะเท่าไหร่ จึงนำรุ่นเทียบเคียงมาเสนอด้วย เป็นรถจากเกาหลี “ฮุนได เครต้า อัลฟ่า” (Creta ALPHA)
อันที่จริงมีอีกหลายรุ่นในเซ็กเมนต์เดียวกัน แต่ดูแล้ว “เครต้า อัลฟ่า” เป็นรุ่นใหม่สุดในกลุ่มคู่แข่ง
อีกทั้งราคาเครต้า อัลฟ่า ที่มีให้เลือกรุ่นเดียว ใกล้เคียงกับรุ่นท็อปของยาริส ครอส มากๆ
ยาริส ครอส ออกแบบภายนอกแบบ “SOLID x DYNAMIC” กระจังหน้าใหม่ โดยมีกลิ่นอายของรุ่นพี่ๆ ในตระกูล “ครอส”
ไฟหน้าและไฟท้าย Full LED ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อม Follow-Me-Home
ไฟ Daytime Running Light ไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟ Welcome Lamp ที่กระจกมองข้าง
กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ
ซุ้มล้อสีดำและชายล่างประตูสีดำเช่นกัน เพิ่มความบึกบึนมากขึ้น
สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3
เสาอากาศแบบครีบฉลาม
ประตูท้ายระบบ Kick-Activated ไม่ต้องใช้มือ เพียงสอดเท้าเข้าใต้ท้องรถสามารถเปิด-ปิดได้
ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน ขนาด 17-18 นิ้ว ดิสเบรก 4 ล้อ
ภายในโทนสีเทาดำ ตกแต่งภายในด้วยวัสดุบุนุ่ม
พวงมาลัยทรงสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น จอ MID แบบ Digital 7 นิ้ว
ตรงกลางเป็นหน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย
ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 มีช่องปรับอากาศตอนหลัง
เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง วัสดุหุ้มเบาะนั่ง พร้อมเทคโนโลยี “QUOLE MODULE” ช่วยลดการสะสมความร้อน
มีระบบ Push Start & Smart Entry
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารปรับได้ 14 เฉดสี
หลังคาแบบ Panoramic แบบ Fixed Type พร้อมม่านปรับไฟฟ้า
เครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i ความจุ 1,496 ซีซี
ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 580 โวลต์
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) แรงดันไฟฟ้า 177.6โวลต์ ความจุไฟฟ้า 4.3 แอมแปร์-ชั่วโมง
กำลังรวมสูงสุด 111 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตัน-เมตร
ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ E-CVT
ประหยัดน้ำมัน 26.3 กิโลเมตร/ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker)
ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลังทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธี
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง
กล้องมองภาพรอบคัน Panoramic View Monitor
ระบบตรวจวัดลมยางอัตโนมัติ ฯลฯ
“โตโยต้า ยาริส ครอส” มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
HEV SMART 789,000 บาท
HEV PREMIUM 849,000 บาท
HEV PREMIUM LUXURY 899,000 บาท
ส่วนฮุนได เครต้า อัลฟ่า เปิดตัวเมื่อปี 2024 ต่อยอดมาจากรุ่นพิเศษ “Black Edition”
กระจังหน้าทรง Parametric Jewel โครเมียมรมดำ
ไฟหน้า LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daytime Running Light
ไฟท้าย LED แบบ Horizon
กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า
หลังคา Panoramic Sunroof พร้อมราวหลังคา
เสาอากาศแบบ Shark Fin
ล้อ Black Diamond Cut ขนาด 17 นิ้ว
ชุดแต่งสเกิร์ตรอบคันสีดำด้าน
คิ้วขอบล้อสีดำ
โลโก้ “Alpha”
ภายในใช้สีดำ ตกแต่งด้วยสี Piano Black และเมทัลลิก
พวงมาลัยทรงสปอร์ต 3 ก้าน ตกแต่งด้วยตะเข็บสีแดง พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์
หน้าปัดดิจิทัล Full LCD ขนาด 10.25 นิ้ว
จอกลางแบบสัมผัส 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และAndroid Auto
ลำโพง Bose 8 ตัว
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา ช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง
ไฟสร้างบรรยากาศเปลี่ยนสีได้
หลังคาซันรูฟพาโนรามิกไฟฟ้า
เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยสีแดง
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที
เกียร์อัตโนมัติ CVT
โหมดการขับขี่ 4 แบบ Eco, Comfort, Sport และ Smart พร้อมปุ่มปรับการขับขี่เฉพาะสภาพถนนหิมะ ทรายหรือโคลน
ระบบรองรับด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง
ความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่ Hyundai smart sense
เด่นๆ อาทิ ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา
ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยหลัง
เตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง ฯลฯ
“ฮุนได เครต้า อัลฟ่า” ราคา 929,000 บาท •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022