เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

อาเซียนเบอร์ 2 ลองเยี่ยมอาเซียนเบอร์ 1 | พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

14.05.2025

บทความพิเศษ | พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

 

อาเซียนเบอร์ 2

ลองเยี่ยมอาเซียนเบอร์ 1

 

ในช่วงเวลาที่อาเซียนกำลังถูกทดสอบจากแรงปะทะของระเบียบโลกที่สั่นคลอน-สงครามภาษี การเปลี่ยนขั้วอำนาจ และความไร้เสถียรภาพของกลไกระหว่างประเทศ

ผมมีโอกาสเดินทางไปอินโดนีเซีย เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของอาเซียน พบกับสองบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยอินโดนีเซีย

อดีตประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน (SBY) และ ดร.มาร์ตี นาตาเลกาวา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ

บทสนทนานั้นไม่ได้เป็นแค่การย้อนรำลึกถึงอดีต แต่เป็นกระจกที่ทำให้ผมมองเห็นประเทศไทยชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะคำถามสำคัญว่า :

ทำไมประเทศที่ก็เคยปัญหาที่คล้ายๆ ไทย พร้อมปัจจัยที่อาจจะท้าทายมากกว่าเราด้วยซ้ำ กลับลุกได้ไว และเดินหน้าไปได้ไกลกว่าเรา?

ปัญหาสองระดับของไทย

: บนโต๊ะ-ใต้โต๊ะ

ประเทศไทยวันนี้เผชิญกับปัญหาสองระดับที่ต้องรีบแก้ไขเร่งด่วนเฉพาะหน้า :

– บนโต๊ะ – (trade negotiation on the table) วิกฤตการค้าระหว่างประเทศ เช่น สงครามภาษีที่ไทยต้องเผชิญจากการส่งออกไปสหรัฐ และแนวโน้มกีดกันการค้าในหลายอุตสาหกรรม

– ใต้โต๊ะ – (corruption under the table) ระบบราชการรวมศูนย์ อำนาจดุลพินิจสูง และโครงสร้างผูกขาดที่ก่อให้เกิดคอร์รัปชั่นซ้ำซาก

ปัญหาใต้โต๊ะนี้ทำให้ไทยไม่มี “หลังบ้าน” ที่มั่นคงพอ

ไม่มี domestic capability ที่จะเป็นฐานในการวางแผนเจรจาระดับโลก global challenges หรือปรับตัวเชิงยุทธศาสตร์อย่างทันท่วงที

เมื่อมาเยือนอินโดนีเซีย ผมได้บทเรียนจากการพูดคุยกับอดีตผู้นำของเขาดังต่อไปนี้ครับ

President SBY

: นายพลที่ปลดอำนาจตนเอง

อินโดนีเซียเคยผ่านยุคมืดของระบอบซูฮาร์โตที่รวมศูนย์อำนาจเบ็ดเสร็จถึง 32 ปี หลังวิกฤตต้มยำกุ้งปี 1997 ประเทศนี้เกือบจะกลายเป็นรัฐล้มเหลว แต่กลับฟื้นได้เพราะผู้นำที่กล้าสลายอำนาจเก่าเพื่อสร้างระบบใหม่

ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน (SBY) เป็นนายพลผู้เลือกจะ “ลดอำนาจตนเอง” เพื่อสร้างประชาธิปไตยที่มั่นคง เขาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลายประการ :

– ยุติระบบ Dwifungsi ABRI ตัดบทบาททหารออกจากการเมือง

– กระจายอำนาจ (Decentralisasi) ไปยังท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ

– เสริมความเป็นอิสระให้ศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการปราบปรามคอร์รัปชั่น (KPK)

– วางรากฐานเศรษฐกิจมหภาคใน “ทศวรรษทอง” (Masa Keemasan) ที่ GDP โตเฉลี่ย >5% ต่อปี แม้เผชิญวิกฤตการเงินโลกในปี 2008

เหนือสิ่งอื่นใด SBY แสดงให้เห็นว่า ความมั่นคงของสถาบัน คือพื้นฐานที่ทำให้การต่างประเทศมีทิศทางและความน่าเชื่อถือ

ดร.มาร์ตี

: การต่างประเทศที่มีสมรรถภาพ

ไม่ใช่แค่จุดยืน

ดร.มาร์ตี นาตาเลกาวา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ผู้เป็นสัญลักษณ์ของการทูตแบบมีอุดมการณ์ เป็นเขยของประเทศไทย-โดยสมรสกับบุตรสาวของอาจารย์ศักดิชัย บำรุงพงศ์ นักเขียนระดับตำนาน เจ้าของนามปากกา “เสนีย์ เสาวพงศ์” ผู้เขียน ปีศาจ และ สายสีมา นิยายที่เป็นที่รู้จักของผู้อ่านสายก้าวหน้า และเป็นชื่อที่คุ้นเคยของผู้อ่านสำนักพิมพ์มติชนมายาวนาน

ในเวทีโลก อินโดนีเซียไม่ได้เลือกข้างในมหาอำนาจ แต่เลือก “สร้างสมรรถภาพของตัวเอง” ดร.มาร์ตีเรียกสิ่งนี้ว่า Neutrality as Capability – ความเป็นกลางไม่ใช่ท่าที หากแต่คือขีดความสามารถที่ต้องออกแบบและฝึกฝน

นโยบายนี้ทำให้อินโดนีเซีย :

– เดินสายเชื่อม G20, BRICS และ East Asia Summit ได้อย่างกลมกลืน

– เจรจาการค้ากับสหรัฐ ได้เร็วกว่าประเทศที่ตกเป็นเป้าโดยตรง

– ใช้ยุทธศาสตร์ “เพิ่มการนำเข้า-ลดแรงต้าน” จากวอชิงตัน ควบคู่กับการสร้างพันธมิตรด้านแร่นิกเกิลในโครงการ EV

ตัวเลขไม่โกหก

: อินโดนีเซียมีภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจที่เหนือกว่าไทย

ข้อมูลปี 2024 ชี้ชัดว่า อินโดนีเซียมีฐานะการคลังและเศรษฐกิจที่พร้อมรับแรงกระแทกได้มากกว่าไทย :

ตัวชี้วัด อินโดนีเซีย ไทย

Trade-to-GDP ~41% ~129%

Public Debt-to-GDP ~40% ~62%

GDP Growth (2024) 4.8-5.0% 1.8-2.5%

GDP Size ~$1.4 trillion ~$505 billion

Trade Surplus with U.S. ~$19 billion >$43 billion

สรุปว่าอินโดนีเซียไม่เพียงแต่ใหญ่กว่าไทยถึง 3 เท่า แต่ยังเติบโตเร็วกว่า และมีพื้นที่การคลังมากกว่า ทำให้สามารถเคลื่อนไหวทางนโยบาย และเจรจาทางการค้าได้ไวกว่า ทั้งๆ ที่เขาเดือดร้อนน่าจะน้อยกว่าเรา

ถามกลับมาที่ไทย

: แล้วเราพร้อมแค่ไหน?

เราไม่มีผู้นำที่ยอมลดอำนาจของตนเองเพื่อให้ระบบเติบโต

เราไม่มีนโยบายต่างประเทศที่ใช้ “สมรรถภาพ” มากกว่าท่าที

และเราไม่มีภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจที่จะเจรจาอย่างมั่นใจในโลกที่เต็มไปด้วยแรงเสียดทาน

ขณะที่อินโดนีเซียเรียนรู้จากอดีต สร้างสถาบัน และปลดล็อกการรวมศูนย์

ไทยยังติดอยู่ใน “ทุนนิยมแบบสีเขียวขี้ม้า” khaki capitalism และระบบราชการที่ใช้การไม่ได้ในเวทีโลก



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

พระพิมพ์กลีบบัว เนื้อดินเผา วัตถุมงคลเก่าแก่ของวัดลิงขบ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เสก
ร้อนสุดขั้ว ‘สะท้านโลก’
อสังหาฯ ปรับแผนเปลี่ยนกลยุทธตลาด
‘โจบ’ บนเส้นทางเดียวกับ ‘จู๊ด’ แต่อยากยิ่งใหญ่ในแบบของตัวเอง
ชัยชนะของ AIS-GULF-JAS คนไทยเฮพร้อมดูบอลไทยลีกฟรี!
ยำรวมมิตร (กินกับข้าวต้ม)
เจาะลึกสถานการณ์ค่าย ‘NETA’ กับอนาคตตลาดรถ EV เมืองไทย
ดาวกับดวงวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568
จดหมาย
กลาก สังคัง ฮ่องกงฟุต มะเขือขื่นตอบโจทย์ได้
เดินตามดาว | ศรินทิรา
ขอแสดงความนับถือ