เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

วิกฤตต้มยำกุ้งกลับด้าน เมื่อเอเชียทิ้ง ‘ดอลลาร์’

11.05.2025

เทศมองไทย

 

วิกฤตต้มยำกุ้งกลับด้าน

เมื่อเอเชียทิ้ง ‘ดอลลาร์’

 

รายงานข่าวของรอยเตอร์ เมื่อ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมาน่าสนใจอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันอยู่กับไทยเราด้วยเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะนี่คือปรากฏการณ์ใหม่เอี่ยมอ่องที่ไม่มีใครคาดคิดกันมาก่อนว่าจะได้เห็นกันกระจะแก่ตาเหมือนเช่นที่เป็นอยู่ในเวลานี้

รอยเตอร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “วิกฤตเอเชียกลับด้าน” แต่เพื่อความเข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ผมขอเรียกว่า “วิกฤตต้มยำกุ้งกลับด้าน” เพื่อเชื่อมโยงไปถึงอดีตเมื่อครั้งเกิดวิกฤตค่าเงินในไทยและอีกหลายประเทศในเอเชียในช่วงปี 1997 และ 1998 จะเข้าใจกันมากกว่าและง่ายขึ้นกว่าเดิม

รอยเตอร์ระบุว่า ปรากฏการณ์วิกฤตต้มยำกุ้งกลับด้านนี้ ปรากฏให้เห็นในรูปของการเทขายเงินสกุลดอลลาร์เป็นระลอกใหญ่ในหลายประเทศในเอเชีย ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็น “ขุมพลัง” แห่งการส่งออกสินค้าของโลก ซึ่งกำลัง “กังขา” กับแนวปฏิบัติที่ผ่านมาซึ่งสืบต่อกันมานานหลายต่อหลายทศวรรษ ว่าด้วยการนำส่วนเกินที่ได้จากการค้าไปลงทุนในสินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐอเมริกา

ตามรายงานบอกว่า การเทขายนี้เริ่มที่ไต้หวัน เมื่อมีการเทขายดอลลาร์ออกมาตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม ต่อด้วยระลอกใหญ่อีกระลอกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา แล้วส่งผลสะเทือนกระเพื่อมไปถึงประเทศอื่นๆ โดยรอบ

ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์, วอนเกาหลีใต้, ริงกิตมาเลเซีย, หยวนจีน และดอลลาร์ฮ่องกง พากันแข็งค่าขึ้นพรวดพราดเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

“ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนสำหรับเงินสกุลดอลลาร์ เพราะเป็นแนวโน้มที่ชี้ให้เห็นว่า กระแสเงินกำลังไหลเข้ามายังเอเชียในปริมาณมหาศาล และเสาหลักสำคัญที่เคยค้ำยันเงินดอลลาร์อยู่กำลังสั่นคลอน”

 

ผลที่เป็นรูปธรรมที่แสดงให้เห็นกับตาก็คือ ค่าเงินไต้หวันดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นวันละ 10 เปอร์เซ็นต์ ต่อเนื่องกันใน 2 วันทำการ ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวันดอลลาร์กับดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ในขณะที่สิงคโปร์ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงที่สุดในรอบกว่าสิบปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์

ส่วนริงกิต, หยวน, บาท และวอน ก็ถีบตัวแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงเช่นเดียวกัน

หลุยส์-วินเซนต์ เกฟ หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัย กาเวคัล รีเสิร์ซ บอกกับรอยเตอร์ว่า ถ้าพิจารณาจากปริมาณและความเร็วของความเคลื่อนไหวของกระแสเงินในครั้งนี้ ก็สามารถบอกได้ว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือ วิกฤตการณ์ทางการเงินแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในเอเชียในปี 1997 และ 1998 เพียงแต่กลับด้าน สวนทิศทางกันเท่านั้นเอง

เมื่อครั้งเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง กระแสเงินไหลออกจากไทย อินโดนีเซียและเกาหลีใต้ ในปริมาณมากและในระดับความเร็วที่สูงมากพอๆ กับในหนนี้

ผลจากการเกิดวิกฤตครั้งนั้น ทำให้บรรดาประเทศในเอเชียพากันสะสมเงินดอลลาร์เอาไว้ในคลังเป็นจำนวนมาก สำหรับใช้เป็น “กระสุน” ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุทำนองเดียวกันขึ้นอีก และนิยมนำเงินดอลลาร์ที่ได้ไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ปัญหาก็คือ จู่ๆ โดยปัจจุบันทันด่วน ทุกอย่างก็กลับตาลปัตรเป็นตรงกันข้าม

 

นักค้าเงินในไต้หวันยอมรับกับรอยเตอร์ว่า ลำบากมากในการซื้อขายเงินตราในขณะนี้เพราะมีเพียงแค่การเทขายดอลลาร์ออกมาฝ่ายเดียวเท่านั้น แถมยังมีการ “เล่าลือ” กันในแวดวงการซื้อขายด้วยว่า ธนาคารกลางหรือแบงก์ชาติของไต้หวัน ก็ “สนับสนุน” การเทขายครั้งนี้ด้วยอีกต่างหาก

ดีลเลอร์หลายๆ เจ้าในหลายๆ ประเทศในเอเชียก็บอกตรงกันว่า ปริมาณการเทขายในตลาดเอเชียก็หนาแน่นเช่นเดียวกัน

นักวิเคราะห์บอกกับรอยเตอร์ว่า ปรากฏการณ์ทิ้งดอลลาร์ เลิกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ชนวนเหตุน่าจะเป็นนโยบายภาษีแบบแข็งกร้าวของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เขย่าความเชื่อมั่นต่อตัวเงินสกุลดอลลาร์และถล่มการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไปแบบถอนรากถอนโคน

รายงานของโกลด์แมน แซกส์ วาณิชธนกิจชื่อดังเมื่อ 6 พฤษภาคม ระบุว่า นักลงทุนพากันทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่เคยทำ กล่าวคือ แทนที่จะทำชอร์ตเซลส์เก็งกำไรกับเงินหยวน กลับมาทำชอร์ตเซลส์กับค่าเงินดอลลาร์ โดยกะเก็งกันว่า ดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงไปอีก

ขณะที่อีกบางรายระบุว่า ทั้งหลายทั้งปวงนั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่า แรงหนุนต่อค่าเงินดอลลาร์กำลังเปลี่ยนแปลงในทางที่ลดต่ำลง หรือพูดง่ายๆ ว่า ดอลลาร์กำลังถูกทิ้ง

หลายคนตระหนักดีว่าอะไรเกิดขึ้นกับประเทศอย่างไทย อินโดนีเซีย หรือชาติเอเชียอื่นๆ เมื่อเกิดต้มยำกุ้งหลายสิบปีก่อน ครั้งนี้รอยเตอร์ไม่ได้บอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับสหรัฐอเมริกา

เราคงทำได้แค่จับตาดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมาเมื่อวิกฤตต้มยำกุ้งเกิดกลับด้านขึ้นมาเช่นนี้ครับ



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

“อนุทิน” ย้ำ หากถูกยึด มท. พร้อมเป็นฝ่ายค้าน – ประกาศก้อง ศักดิ์ศรีภูมิใจไทย ไม่ยอมให้ใครปู้ยี้ปู้ยำ
ประเทศที่ (ยัง) ก่อสร้างไม่เสร็จ อ่านประเทศไทยผ่านงบฯ ปี’69 และช่องทางรับทรัพย์ของผู้รับเหมาก่อสร้าง
ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ผลประโยชน์ของใครบ้าง?
ชิงเก้าอี้ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ผู้สมัคร 7 ราย ดีกรีไม่ธรรมดา ตัวจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!!
เอกชนห่วง ‘เขย่า ครม.’ กลางคัน งานสะดุด-ฉุดเชื่อมั่นนักลงทุน
ชีวิตทางเลือก | ธงทอง จันทรางศุ
Songs in The Key of Life : ก่อนเวลาจะผ่านไป
จาก No Man’s Land สู่ This Land is My Land
เด็กที่ชินกับรสขม VS ผู้ใหญ่ที่สิ้นหวังกับการเปลี่ยนแปลง
ปฏิทินกับประชาธิปไตย : เมื่อเสียงข้างมากปะทะกับสิทธิ์ข้างน้อย
ประเมินสถานการณ์ ไทย-กัมพูชาจาก RLI
ดาวกับดวง อังคารที่ 17 มิถุนายน 2568