

จดหมาย | ประจำวันที่ 23-29 พฤษภาคม 2568
• 11 ปี แห่งความ “ขมขื่น”
การประกาศยึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วยสัตย์วาจาดุดัน แข็งกร้าว จริงจัง เมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557
เป็นบรรยากาศที่ขึงขัง เข้มข้น
น่าเชื่อถือว่า ราชการ งานบ้านเมืองจะทุเลาเบาบางจากการคอร์รัปชั่น
ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้จะได้รับการแก้ไขอย่างถูกจุดเป็นเอกภาพ
ระบบราชการ, กระทรวง ทบวง กรมที่ถ่วงความเจริญของชาติจะได้รับการปฏิรูป
เด็กๆ เยาวชน – ผู้คนด้อยโอกาสจะได้รับความเมตตาเอื้ออาทรจาก “ผู้ใหญ่” ในอำนาจให้ได้รับความชอบธรรมอย่างผู้คนในโลกอารยะ
เพราะหัวหน้าคณะปฏิวัติเป็นผู้บัญชาการทหารบกและเป็นนายกรัฐมนตรี หนุนเนื่องด้วยอดีต ผบ.ทบ.อีกสองท่านโดยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและเจ้ากระทรวงมหาดไทย
ด้วยว่าไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารยุคสมัยใดจะน่าเกรงขามเทียบเท่าได้ด้วยขุมพลังอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจากกองทัพ (แห่ง 3 ป.) ด้วยงบประมาณจากกระทรวงกลาโหม
ด้วยเกราะกันภัยประหนึ่งผนังทองแดงกำแพงเหล็กจากองค์กรอิสระและรัฐบาล คสช.
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ประชาชนชาวไทยก็จำต้องกล้ำกลืนฝืนทนรับชะตากรรม
เพราะสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ของรัฐบาล คสช.นั้น ไม่ใช่ผู้มากอบกู้ฟื้นฟูประเทศชาติบ้านเมือง
ทว่า ลุแก่อำนาจมาเผด็จการบ้านเมืองด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูง (มุ่งหวังกอบโกยทางลัด)
แล้ววางเกมจัดตั้งพรรคการเมืองสืบทอดอำนาจอย่างไร้ความละอายสายตาผู้คนพลโลก
ประชาชนคนเสียภาษีต้องเจ็บปวดรวดร้าวที่งบประมาณแผ่นดินต้องสูญสิ้นมหาศาลไปกับค่าจ้างเขียนรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ
การจัดตั้งพรรคการเมืองที่ ส.ส.คำนึงถึงเงินค่าตัวมากกว่าเกียรติยศศักดิ์ศรี
การจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากด้วยวิธีปัดเศษ
การโหวตไว้วางใจนายกฯ ของ ส.ส.ที่ “กล้วย” มีคุณค่ามากกว่าจิตวิญญาณของผู้ทรงเกียรติ
11 ปีที่ผ่านไปพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพิษ “บาดทะยัก” ของการปฏิวัติรัฐประหารนั้นแพร่เชื้อโรคร้าย
กระจายเป็น “บาดทะพิษ” บั่นทอนเศรษฐกิจ กัดกร่อนชีวิตผู้คนให้ซึมเซา เจ็บไข้ พิกล ทุพพลภาพอยู่ดาษดื่นทั่วไปในสังคมประเทศชาติ
ด้วยเหตุดังนั้น “รัฐธรรมนูญ” จึงเป็นดั่งเช่น “รากแก้ว” (เผด็จการ คสช.) ที่ได้หยั่งรากลึกลงไปแล้วในผืนแผ่นดินไทย – ในแทบทุกพรรคการเมือง
พรรคการเมืองที่จะมาเป็นรัฐบาลต้องไม่แตะต้อง – แก้ไขรัฐธรรมนูญ
และเมื่อมาเป็นรัฐบาลแล้วต้องเป็นรัฐบาล (นอมินี) อยู่ภายใต้อาณัติกำหนดเกมโดย คสช.
หากมิเช่นนั้นแล้วพรรคจะประสบเหตุเภทภัยให้ต้องถูกยุบ, กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง
ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นและเป็นมาอย่างนานนับเนื่องกว่าทศวรรษ
โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์อยู่คนละขั้วกับกลุ่มอำมาตย์อำนาจเก่าฝั่งอนุรักษนิยม
อุปมา “รัฐธรรมนูญ” เผด็จการฉบับ คสช.เป็นแบบก่อสร้างอาคารบ้านตึก “รัฐบาล” เป็นเจ้าของโครงการ
ให้ “พรรคการเมือง” เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง “รัฐมนตรี” เป็นช่างก่อสร้าง
บรรดา ” ข้าราชการ” เป็นแรงงานก่อสร้าง และ ส.ส.เป็นผู้ตรวจสอบควบคุมงานก่อสร้าง…
สามัญชนคนธรรมดาจะไปพึ่งพาอาศัยใครที่ไหนให้ที่พักพิง
เพราะเงินทองที่เพียรหามาทั้งชีวิต ได้จ่ายเป็นค่าก่อสร้างไปหมดแล้ว
แต่ทว่า อาคารบ้านตึกที่ให้สร้างขึ้นมาโดยหวังได้อยู่อาศัยนั้น
โดนแผ่นดินไหวถล่มถลายลงมาเป็นเช่นตึก สตง.เสียแล้ว
สงกรานต์ บ้านป่าอักษร
ใช่แล้ว
แม้ ตึกไทยแลนด์ จะไม่ได้พังทลายลงต่อหน้า
เหมือนตึก สตง.
แต่พิษภัยของการรัฐประหาร
ทำให้ “ตึกไทยแลนด์” หลังนี้ สิ้นสภาพ
สิ้นสภาพ ในแทบทุกองคาพยพ
จนเราล้าหลังกว่าชาติอื่นๆ
โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน
ไทยแลนด์กลายเป็นประเทศแถวหลัง
อย่างน่าอดสู
• 2 เดือนที่ยังมีความ “ชุ่มชื่น”
แม้เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นในภาคกลางของเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 จะผ่านไปแล้วเกือบ 2 เดือน
แต่องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) และ Let’s Save The Strays, International LLC. ยังคงเร่งดำเนินการช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานยังเสียหายหนัก
ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อผู้คน ชุมชน และสัตว์อีกจำนวนมากยังรอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
“จนถึงขณะนี้ มีสัตว์กว่า 1,000 ตัวที่ได้รับการรักษาจากบาดแผลที่เกิดจากภัยพิบัติ กระดูกหัก โรคพาร์โว โรคไข้หัดสุนัข การติดเชื้อจากการกัดกัน และภาวะฉุกเฉินด้านระบบสืบพันธุ์ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น การติดเชื้อในมดลูกอย่างรุนแรง และภาวะแทรกซ้อนระหว่างการคลอดในสัตว์เพศเมียที่ไม่ได้ทำหมันและตั้งท้องโดยไม่คาดคิด”
“ปัจจุบัน เรากำลังให้อาหารสัตว์มากถึง 800 ตัวต่อวัน โดยแจกจ่ายอาหารจากสำนักงานเล็กๆ ของเราพร้อมกับผู้ให้อาหารข้างถนน ที่ช่วยนำอาหารไปให้สุนัขและแมวจรจัดจำนวนหลายพันตัวที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่หลังภัยพิบัติ ซึ่งยังคงเอาชีวิตรอดตามกองขยะ อาคารร้าง และวัด” เอมี ชอฟฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Let’s Save The Strays, International กล่าว
หนึ่งเดือนหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมัณฑะเลย์ สถานการณ์ยังคงยากลำบากจากปัญหาสาธารณูปโภคขาดแคลน ถนนเสียหาย และคลินิกสัตวแพทย์บางแห่งยังไม่สามารถทำงานได้เต็มที่
นอกจากการช่วยเหลือเร่งด่วนแล้ว องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกและ Let’s Save The Strays, International ยังมีแผนการช่วยเหลือระยะยาวในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า ได้แก่ :
– การสร้างคลินิกสัตวแพทย์ขึ้นใหม่เพื่อฟื้นฟูการรักษาขั้นสูง
– การเพิ่มการฉีดวัคซีนเร่งด่วนเพื่อป้องกันการระบาดของโรค
– การกลับมาดำเนินโครงการ TNVR (การทำหมันและฉีดวัคซีนสัตว์จรจัด) ซึ่งเป็นภารกิจหลักเพื่อควบคุมประชากรสัตว์และลดความทุกข์ทรมาน
“เราตระหนักดีว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติ มนุษย์และสัตว์ต่างต้องการความช่วยเหลือ การดูแลสัตว์ในช่วงเวลาวิกฤตไม่เพียงช่วยชีวิตสัตว์ แต่ยังบรรเทาความทุกข์ใจของผู้คนที่รักและห่วงใยสัตว์เหล่านั้น และจากบทเรียนในการช่วยเหลือสัตว์จากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเนปาลเมื่อปี 2558 เราเรียนรู้ว่าการวางแผนระยะยาวยิ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการช่วยเหลือเร่งด่วน” โรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าว
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก
(World Animal Protection)
ในความทุกข์ยากจากภัยพิบัติแผ่นดิน
มิใช่มีเพียงแต่คนเท่านั้น
หากแต่รวมถึงสัตว์ต่างๆ ด้วย
การได้รับทราบถึงการช่วยเหลือ
ที่เผื่อแผ่ไปถึงสัตว์ร่วมโลกด้วย
ย่อมทำให้เราชุ่มชื่นใจขึ้นด้วย •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022