เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

‘ทักษิณ’ งานเดียวครบ ‘ประเด็น’ สยบข่าวลือ ‘หนี’ แสดงวิชั่นปราบ ‘เสพติด’ ช่วย รบ. โชว์กอด ‘อนุทิน’ ยังปึ้ก ภท.

30.05.2025

บทความในประเทศ

 

‘ทักษิณ’ งานเดียวครบ ‘ประเด็น’

สยบข่าวลือ ‘หนี’

แสดงวิชั่นปราบ ‘เสพติด’ ช่วย รบ.

โชว์กอด ‘อนุทิน’ ยังปึ้ก ภท.

 

เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นร้อนทางการเมืองที่ทุกสายตาพุ่งเป้าและโฟกัสเป็นพิเศษ ย่อมหนีไม่พ้นการออกมาเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากเงียบหายไปนานกว่า 1 เดือน นับตั้งแต่การลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรี

ซึ่งนับว่าเป็นการปรากฏตัวครั้งแรก ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่แพร่สะพัดออกมาหนาหูว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ ได้หลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมและนัดไต่สวน กรณีการพักรักษาตัว ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้

โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับเชิญให้มาขึ้นเวทีปาฐกถาพิเศษ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)

อดีตนายกฯ ทักษิณ เดินทางมาด้วยรถยนต์โรลส์-รอยซ์ สีกรมท่า ทะเบียน ฐฐ 267 โบกมือทักทายสื่อพร้อมพูดว่า

“ยังอยู่ดีกินดี ไม่ได้ไปไหน”

 

สําหรับเวทีปาฐกถาพิเศษ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เริ่มต้นบรรยายว่า ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามปัจจุบันและอนาคต ทำลายลูกหลาน ต่างคนต่างทำงาน ขาดการบูรณาการที่มีทิศทางที่ชัดเจน จึงอยากใช้ประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง

โดยเนื้อหาสาระสำคัญ อดีตนายกฯ ทักษิณบอกว่า สมัยก่อนพ่อค้ารายใหญ่อยู่ในประเทศไทย การผลิตอยู่ต่างประเทศครึ่งหนึ่ง ไทยครึ่งหนึ่ง แต่วันนี้การผลิตแทบจะ 100% อยู่ที่ว้าแดง ยาเสพติดเข้าประเทศไทยตรงๆ มาทางเรือ ด้วยคอนเทนเนอร์ ศุลกากรวันนี้มีตู้เข้ามา 6 ล้านตู้ เครื่องเอ็กซเรย์มีไม่พอ เอ็กซเรย์ไม่หมด เปิดตู้บ้าง ไม่เปิดตู้บ้าง ตั้งใจไม่เปิดตู้ก็มี ไม่รู้ กาเฟอีนลงเรือที่เขมร มาที่แหลมฉบัง วันนี้ที่เราแย่สู้ประเทศอื่นไม่ได้ ถอยลง เพราะระบบราชการเราถูกวางไว้ต่างคนต่างทำ ขาดเจ้าภาพและวัดเคพีไอ ต้องกลับมาเข้ามาสู่ยุคการบริหารแบบการบริหารองค์กร ที่ผ่านมาไม่ได้บริหาร แต่ทำธุรกรรม คือทำให้เสร็จไปวันๆ ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีเป้าหมาย

นายทักษิณระบุต่อว่า ถึงเวลาที่จะต้องขอความร่วมมืออย่างจริงจังกับประเทศเพื่อนบ้าน แหล่งผลิตถ้าเมียนมาบอกว่าจัดการไม่ได้ คงต้องขอจัดการเอง เพราะเป็นศัตรูของเรา อยู่ในพื้นที่ไหน ถ้าจัดการไม่ได้ เราต้องขออนุญาต วิธีจัดการของเราก็มีวิธีที่สากลรับได้ และต้องจัดการเรื่องแหล่งผลิต

คิดว่าอีกไม่กี่เดือน 1-2 เดือนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องไปพบปะกับเพื่อนบ้านทั้งหมด เพื่อผนึกกำลังกันให้ว้าแดงเลิกผลิตยาเสพติด ถ้าคุณยังผลิต คุณคือศัตรูของประเทศไทย ไม่ควรมีความปรานีกับศัตรู เป็นสิ่งที่ตนคิดว่ารัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนต้องเกิดขึ้น การลำเลียงผ่านชายแดนไทยไปทางลาวผ่านแม่น้ำโขง การจับเป็นปลายทาง แต่เราต้องดักจับทุกรูปแบบ

ที่สำคัญต้องจบที่หมู่บ้าน และชุมชนต้องสีขาวให้ได้

 

อดีตนายกฯ ระบุด้วยว่า ขณะที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งมีทุกพื้นที่ โดยมี 3 ส่วน หนึ่งคือกำลังของ กอ.รมน. ส่วนที่สองคือกำลังของการช่วยราชการ และส่วนที่สามคือตามตำแหน่งงาน ซึ่งมีงบประมาณอยู่ปีละ 7,000 กว่าล้าน เอาไปใช้งานภาคใต้ 3,000 กว่าล้าน อีก 4,000 กว่าล้านใช้ทั่วไป มองว่าเที่ยวนี้จะเป็นการพิสูจน์ เพราะมีคนบอกให้ยุบ กอ.รมน.ทิ้ง แต่ยังไม่เชื่อว่าจะยุบหรือไม่ยุบดี

ดังนั้น กอ.รมน.จะเป็นคนคิดเอง ว่าควรจะยุบหรือไม่ และพื้นที่ภาคใต้และงานยาเสพติด กอ.รมน.จะต้องมีบทบาทอย่างเข้มแข็งเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นคนก็จะฟ้องอีกว่าช่วยยุบเถอะ เพราะเสียดาย 7,000 กว่าล้าน

“วันนี้คิดว่า ผบ.ตร. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้องออกไปกินข้าวกันบ่อยขึ้น เพื่อวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและตำรวจทำงานร่วมกัน ซึ่งหากตรงไหนไม่ถูกกันให้เปลี่ยนที่อยู่ เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างสามัคคี”

นายทักษิณยังหยิบยกการซีลชายแดนที่ต้องขอความร่วมมือจากทหารและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการสกัดช่องทางขนส่งยาเสพติดทางธรรมชาติ ชี้ว่าชายแดนเป็นปัญหาหนึ่งของการค้ายา ค้าอาวุธ ปัญหาค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ ขนสินค้าจากเพื่อนบ้าน เรื่องของชายแดนต้องขอตำรวจชายแดน ทหาร และกรมศุลกากรต้องเอาจริงเอาจัง อย่าเข้าสุภาษิต “เข้าเกียร์ว่าง…ได้ตังค์ใช้” และฝากไปยังหัวหน้าส่วนราชการทุกคนขอให้จริงจังกับการแก้ไขปัญหา

นายทักษิณย้ำว่า การปราบปรามยาเสพติดครั้งนี้ ต้องไม่ใช่ไฟไหม้ฟางแต่จะต้องทำต่อเนื่อง อย่าให้มีพ่อค้ายาเสพติดเหลืออยู่ในชุมชน ให้ประกาศใครยุ่งกับยาเสพติด อย่าไปญาติดีด้วย จะต้องมีการสกัดทุกทาง วันนี้ถ้าใครยุ่งกับยาเสพติดคือศัตรูของประเทศไทย ขณะที่วันนี้ว้าแดงรวยมากและมีเครื่องมือทุกอย่าง ที่เราจับได้เยอะเพราะเราเข้มแข็งขึ้น และที่เขามีการผลิตเยอะขึ้น เพราะเขาซื้อเครื่องมือมาจากจีนซึ่งเป็นของดีหมด

วันนี้เรากับจีนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง สกัดกั้นให้ได้ เพราะถือว่าคือศัตรูของประเทศไทย และจะต้องหาข่าวให้ได้ว่าทำที่ไหนอย่างไร พิกัดไหน ที่สำคัญถ้าจะต้องใช้ไฟฟ้าจากไทยก็จะต้องตัด จะให้ไฟฟ้าจากไทยมาใช้ผลิตยาเสพติดไม่ได้ และถ้าใช้ระบบสื่อสารจากไทยก็ต้องตัด

ใครไม่ร่วมมือก็ถือว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศตัวเอง ข้อหาสมรู้ร่วมคิดหรือเป็นผู้สนับสนุน ไม่มีอะไรเกินกำลังพวกเรา

 

นอกจากการขึ้นเวทีโชว์ไอเดียปราบปรามยาเสพติดแล้ว การปรากฏตัวครั้งนี้ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทุกประเด็นข้อสงสัย

ไม่ว่าจะเป็นกระแสข่าวลือการหนีออกนอกประเทศ, กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมและนัดไต่สวน กรณีการพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ, กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเรื่องคดีจำนำข้าว, กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทยสภา 3 คนกรณีการพักรักษาตัวที่ชั้น 14, กรณีการตรวจสอบคดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2567

รวมทั้งกรณีปรากฏภาพนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และอดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สวมกอดกันบนเวทีในงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2/2568” ที่หอประชุมเล็ก (ศรีบูรพา) ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

จากประเด็นนี้ ทำให้สื่อมวลชนได้ซักถามถึงโอกาสที่จะเห็นภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) สวมกอดกันบ้างหรือไม่ รวมทั้งความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย

งานนี้ นายทักษิณโชว์ปึ้กด้วยการโอบไหล่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลอยู่ด้วยกันจนจบ ไม่มีเปลี่ยนตัวนายกฯ กลางคัน เมื่อถูกถามว่าเพื่อไทยกับภูมิใจไทยจะกอดคอไปด้วยกันจนจบหรือไม่ นายทักษิณกล่าวทันทีว่า “ตอนนี้ยังกอดได้อยู่” ขณะที่นายอนุทินบอกว่า “วันนี้ไม่ได้แค่ยืนติดกัน แต่ท่านยังกอดผมด้วย”

ฉะนั้น สิ่งนี้เป็นการการันตีได้ระดับหนึ่งว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองพรรคยังคงแน่นปึ้ก ไม่มีรอยร้าวตามที่มีกระแสข่าวออกมาแต่อย่างใด?!?



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

หวยออกที่อิ๊งค์
ช็อก! ทรัมป์เล่นแรงเก็บภาษีไทย 36% ชี้ผลเสียหายมากกว่าตัวเลข “ส่งออก” “พิชัย” แบกภารกิจชาติ “สู้ต่อ-สู้ไม่ถอย”
‘เศรษฐกิจไทย’ ตกหลุมอากาศ เจอ Perfect Storm 3 ลูกซัด การเมือง-ภาษีทรัมป์-ท่องเที่ยวทรุด
พรรคน้ำเงินกับพลังตัวซีเคร็ต
จริงหรือที่ว่าเด็กรุ่นใหม่
การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกญี่ปุ่น (参院選挙) ปี 2025
‘ไม่มีประชาธิปไตยในความรัก’ : รำลึกถึงกูกิ วา ทิอองโก (Ngũgĩ wa Thiong’o)
ผมจะทำอะไรกับประกันสังคม หากมีอำนาจเป็นรัฐบาลสักสามเดือน
MatiTalk ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่เคยสิ้นหวัง ไม่ต้องห่วงเพื่อไทยจะพัง อำนาจรัฐที่มาจากประชาชนต้องมาก่อน
เปิดประตูสู่ซีอานกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ดาวกับดวงวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม 2568
‘ฮุน มาเนต’ เล็งเดินหน้าใช้กฎหมาย ‘บังคับเกณฑ์ทหาร’ เริ่มปี 2026 ชี้เพื่อเสริมสร้างกำลังทหารของประเทศ เพิ่มระยะเวลาการฝึกภาคบังคับ เป็น 24 เดือน