เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

สรุป บทแก้ต่าง ของ ธงชัย วินิจจะกูล ต่อ ก.ศ.ร.กุหลาบ

18.06.2025

บทความพิเศษ

สรุป บทแก้ต่าง

ของ ธงชัย วินิจจะกูล

ต่อ ก.ศ.ร.กุหลาบ

ในความเห็นของ ธงชัย วินิจจะกูล กรณีสำคัญที่ ก.ศ.ร.กุหลาบ ถูกลงโทษส่งเข้า “โรงเลี้ยงบ้า” คือ กรณีแต่งเรื่องกษัตริย์สุโขทัย “จุลปิ่นเกษ” เสียเมือง

นี่เป็นความละเอียดอ่อนอย่างยิ่งว่าดำเนินไปในลักษณะ “กุ” หรือไม่

ข้อความที่ ก.ศ.ร.กุหลาบ เขียนถึงกรณีนี้มีเพียงสั้นๆ ในหนังสือ “สยามประเภท” เล่ม 7 ตอน 16 (20 กรกฎาคม ร.ศ.125 หรือ พ.ศ.2449) ว่า

กรุงสุโขทัยเป็นราชธานีสยามฝ่ายเหนือ กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของพระราชวงศ์คือ “สมเด็จพระจ้าวจุฬปิ่นเกษ” หลังจากนี้ กรุงสุโขทัยก็ตกเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา

ธงชัย วินิจจะกูล ระบุว่า กุหลาบเคยตีพิมพ์เกี่ยวกับวงศ์กษัตริย์สุโขทัยมาก่อน แต่ในครั้งก่อนๆ ซึ่งเขาเคยกล่าวถึง “พระจ้าวปิ่นเกษ” นั้น

เขาไม่เคยกล่าวถึง “พระจ้าวจุฬปิ่นเกษ” เลย

ครั้งเดียวนี่เองที่ทำให้พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงกริ้วและกุหลาบถูกส่งเข้า “โรงพยาบาลเสียจริต”

นอกจากนี้ ไม่ปรากฏชัดว่ากุหลาบเอาข้อมูลเรื่องวงศ์กษัตริย์สุโขทัยมาจากไหน

คำถามของ ธงชัย วินิจจะกูล ก็คือ กุหลาบทำเช่นนี้ทำไม

คำตอบในลักษณะอธิบายของ ธงชัย วินิจจะกูล ภายใต้หัวข้อที่ว่า “แต่งแบบก่อนประวัติศาสตร์=กุ” ก็คือ

พระราชพงศาวดาร

กับ ประวัติศาสตร์

พระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่ากุหลาบจงใจเทียบเคียงให้หมายถึงพระองค์ และให้มีนัยว่าพระองค์จะเป็นที่สุดของพระราชวงศ์เช่นกัน

อาจกล่าวได้ว่า ไม่มีข้อความใดๆ เป็นหลักฐานชัดเจนว่ากุหลาบหมายให้เข้าใจเช่นนั้น

แต่อาจกล่าวได้เช่นกันว่าจะให้เข้าใจว่าอย่างไรที่จู่ๆ “พระจ้าวจุฬปิ่นเกษ” ก็โผล่ขึ้นมาโดยมีสาระสำคัญตรงที่เป็นกษัตริย์พระองค์สุดท้ายก่อนตกเป็นเมืองขึ้น เราคงไม่มีทางรู้ชัดว่ากุหลาบต้องการ “ล้อ” หรือสื่อความหมายถึงปัจจุบัน (ของเขา) หรือไม่

หรืออันที่จริงเขากำลัง “แต่งพงศาวดาร” อย่างปัญญาชนสมัยเขายังทำเป็นปกติโดยไม่มีเจตนาใดในทางลบเลย

ถ้าต้องการ “ล้อ” หมายความว่ากำลังทำอย่างที่นักเขียนอีกมากมาย “แต่ง” เรื่องเกี่ยวกับราชสำนัก เป็น allegory เพื่อสื่อสารอะไรบางอย่าง ทำนองเดียวกับที่นักเขียนนิยายหรือเรื่องสั้นอิงประวัติศาสตร์ทำกันมากมายในปัจจุบัน

ถ้าเทียบเคียงกับงานสมัยเก่าๆ หรือร่วมสมัยกับเขาในแง่เป็นเรื่องแต่งกระทบเจ้า (แต่ด้วยรูปแบบการประพันธ์ที่ต่างกัน) ก็น่าจะคิดถึง “ระเด่นลันได” หรือบทละคร เรื่อง “วงศ์เทวราช” ซึ่งเป็นการหยอกล้อประชดเจ้านายชั้นสูง

ถ้าคิดไปถึงงานเก่าๆ แต่โบราณที่เอาเรื่องของกษัตริย์เจ้านายเป็นท้องเรื่องเพื่อสื่อสารบางอย่างก็มีมากมาย เช่น ชาดกนิทานพื้นบ้านเพื่อให้แง่คิดทางศีลธรรมหรืออบรมสั่งสอน รวมทั้งบางเรื่องเพื่อตักเตือนให้ข้อคิดพระเจ้าแผ่นดินด้วย

นิยาย นิทานเรื่อง “จักรๆ วงศ์ๆ” ตีพิมพ์แพร่หลายมากมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นั้นเองจนถึงบัดนี้เพื่อเป็นบทเรียนทางศีลธรรมหรือวัตถุประสงค์อื่นๆ

เรื่องแต่งที่อ้างเอาสุโขทัยเป็นฉากอย่างจริงๆ จังๆ แต่เพื่อสื่อสารกับคนร่วมสมัยกับผู้ประพันธ์ที่รู้จักกันดีคือ “นางนพมาศ” ไม่มีใครหาว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์

เพราะย่อมดูปราดเดียวก็รู้ว่างานเหล่านั้นไม่ได้มีเจตนาจะให้ถือเป็นพงศาวดารหรือประวัติศาสตร์แบบสมัยใหม่แต่อย่างใด

กรณี หลวงนรินทรเทวี

กรณี ก.ศ.ร.กุหลาบ

พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชวินิจฉัยเกี่ยวกับ “จดหมายเหตุความทรงจำหลวงนรินทรเทวี” ว่า

“จดหมายฉบับนี้เปนลักษณจดหมายเก่า

ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ชั้นนี้จดใช้วิธีแลสำนวนอย่างนี้ ไม่ใช่ผู้ที่…สามารถแต่งหนังสืออย่างเช่นที่เรียกกว้างขวางกันอยู่ในเวลานี้ว่าจินตกระวี

…แต่ของเดิมเขาใช้สำหรับผู้ซึ่งผูกประพันธ์ขึ้นเปนบทกลอน ในชั้นหลังนี้ดูเหมือนผูกขึ้นเปนเรื่องใดไม่ต้องเปนบทกลอน จะเท็จก็ตามจริงก็ตาม น่าจะหมายตัว เปนจินตกระวีเหมือนกัน

บางทีที่นึกแซกแซมลงตามความคิดบ้าๆ อย่างสยามประเภท ก็จะตั้งตัวว่าเปน จินตกระวีด้วย จะว่าเขาผิดก็ไม่ได้ เพราะเขาก็นึก

ต่างแต่นึกเปนกุศลเจตนาแลอกุศลเจตนา

จดหมายความทรงจำหลวงนรินทรเทวีนี้ไม่ใช่ผู้รู้แต่งจดหมายเหตุและพงษาวดาร ไม่ใช่จินตกระวีทั้งสองอย่าง”

พระองค์ทรงกำลังอภิปรายถึงประเภทของงานประพันธ์กับขนบที่กำลังเปลี่ยน

จะเห็นได้ว่าพระองค์เองก็ทรงยอมรับว่ากุหลาบอาจกำลังแต่งอย่างจินตกระวีกระทำ (แต่เป็นการแต่งเติมด้วยเจตนาในทางร้าย)

นิยาม ก.ศ.ร.กุหลาบ

รุ่นเก่า ปะทะ รุ่นใหม่

ความเห็นก่อนหน้านี้ของ ธงชัย วินิจจะกูล ในแง่การผลิตความรู้ทางประวัติศาสตร์นั้น ทั้งกุหลาบและปัญญาชนชั้นสูงของสยามร่วมสมัยกับเขาล้วนเป็นคนกลางเก่ากลางใหม่ด้วยกันทั้งนั้น

แต่ละคนมีความโน้มเอียงทางปัญญาที่ปะปนกันระหว่างกระแสความคิดต่างๆ เกิดการใช้ทัศนะที่อิงกับความคิดชุดหนึ่งไปตัดสินอีกชุดหนึ่งอยู่ตลอดเวลา

ปัญญาชนอำมาตย์คนสำคัญๆ รุ่นนั้นมีความโน้มเอียงไปทางตัวแทนของความรู้ชนิดใหม่ ระบบคุณค่ามาตรฐานแบบใหม่ ส่วนกุหลาบมีความโน้มเอียงไปทางจารีตการเขียนประวัติศาสตร์แบบก่อนสมัยใหม่

วิทวัส มีแสงนิล ชี้ให้เห็นเมื่อเขียน “อานามสยามยุทธ : ประวัติศาสตร์นิพนธ์ประชาชน” เมื่อปี 2545 ว่า

กุหลาบสืบทอดธรรมเนียมการเขียนประวัติศาสตร์แบบจารีตมามาก

พร้อมกับอธิบายบริบทขณะนั้นว่า การเขียนประวัติศาสตร์เริ่มเปลี่ยนไปจากจารีตพระราชพงศาวดารแบบเก่าไปบ้างแล้ว พระราชพงศาวดารฯ ฉบับพระราชหัตถเลขาไม่ใช่เรื่องของวงศ์อวตารแบบทัศนะโบราณอีกแล้ว

แต่ “วิธีการ” ประมวลข้อมูลและนำเสนอเรื่องราวยังเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก

กุหลาบเป็นประจักษ์พยานว่าการเขียนประวัติศาสตร์เริ่มออกมาอยู่ในมือสามัญชน แต่เรื่องราวและวิธีการผลิตงานประวัติศาสตร์ของเขายังสืบทอดวิธีการแบบเดิมอย่างเห็นได้ชัด

โดยดูจากลักษณะสำคัญ 2 ประการ คือ

หนึ่ง การ “เรียบเรียงและคัดลอก” หรือเอาของเก่ามาปะติดปะต่อกันเป็นฉบับใหม่ โดยประมวลข้อความจากเอกสารหลายแหล่งเข้ามาปะติดปะต่อให้ได้ความเรียงเป็นเรื่องเดียวกัน

และ สอง การ “แต่งเติม” เพิ่มขึ้นเองโดยมักเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงมาใส่เพิ่มไว้ให้น่าอ่านขึ้น

วิทวัส มีแสงนิล สรุปว่า ในกรณีของ “อานามสยามยุทธ” นี้คือการเพิ่มเรื่องการจัดทัพและการยุทธ์อย่างละเอียดหลายหน้า นอกเหนือไปจากเอกสารหลักๆ ที่เป็นฐานของเรื่องนี้

นิธิ เอียวศรีวงศ์ กล่าวถึงความเก่าใหม่ปนกันนี้ไว้เมื่อปี 2536 ว่า

“เราไม่ควรลืมว่า ก.ศ.ร.กุหลาบนั้นเป็นนักประวัติศาสตร์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างคนรุ่น กรมหลวงวงศาธิราชสนิท และ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

การเอา ก.ศ.ร.กุหลาบ ไปเปรียบกับ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพก็ย่อมจะให้ภาพความล้าหลังของ ก.ศ.ร.กุหลาบ ในฐานะนักประวัติศาสตร์ แต่หากไปเปรียบกับ กรมหลวงวงศาธิราชสนิท แล้ว

ก็จะเห็นได้ว่า การศึกษาประวัติศาสตร์ของท่านได้ก้าวหน้าไปมากเพียงใด



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

ฟังเสียง ‘เยาวชน’ | ปราปต์ บุนปาน
“One Plan” โมเดลใหม่ ขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกพื้นที่
ตลาด..ชีวิตและความหวัง | เรื่องสั้น : มีนา ฟ้าศุกร์
ทำเล
ไม้ดัดในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร | กวีกระวาด : สิริวตี
ดาวกับดวงวันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2568
‘กฤษฎีกา-เพื่อไทย’ มองต่างมุม ไพ่ในมือรักษาการนายกฯ ผ่าทางตัน ‘ยุบสภา’ ได้หรือไม่ได้
ภาษีปนาวุธ ทรัมป์ถล่มข้ามทวีป ทีมไทยแลนด์ร่อแร่
‘ภูมิธรรม’ จัดแถวมหาดไทย ล้างบาง ‘สิงห์น้ำเงิน’ ประเดิมย้าย 2 อธิบดีเข้ากรุ จับตา ‘เขากระโดง’ เปิดแผล ‘ปราสาทสายฟ้า’
แค่ลมหายใจ ก็รู้ทันใดว่าอ้วน!!
การปกครองเปลี่ยน-แฟชั่นปรับ : แฟชั่นสมัยคณะราษฎร-สงคราม (12) เจ้านายสนับสนุนรัฐนิยมในสมัยสร้างชาติ
สวนสาธารณะสูงวัย : สังคมภายนอกครอบครัว และบทเรียนจากเฉิงตู