ชิงเก้าอี้ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ผู้สมัคร 7 ราย ดีกรีไม่ธรรมดา ตัวจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!!

บทความพิเศษ | ศัลยา ประชาชาติ

ชิงเก้าอี้ผู้ว่าการแบงก์ชาติ

ผู้สมัคร 7 ราย ดีกรีไม่ธรรมดา

ตัวจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!!

หมดเขตลงไปแล้ว สำหรับการเปิดให้ยื่นใบสมัครเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ แทนนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ที่กำลังจะครบวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 กันยายน 2568 นี้

โดยเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ยื่นใบสมัคร ซึ่งมีผู้สมัครเข้ามาด้วยกันทั้งสิ้น 7 ราย เป็นชาย 5 ราย และหญิง 2 ราย

ทั้งนี้ หลายรายก็เป็นผู้ที่ได้รับการคาดหมายไว้อยู่แล้วว่าจะลงสมัคร อย่าง ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. ที่เปรียบเสมือนตัวแทนหมู่บ้านของแบงก์ชาติ

หรือผู้ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าจะลงสมัคร ได้แก่ ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ อดีตรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)

ขณะที่ ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (SCB Abacus) หรือบริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด ในปัจจุบัน และนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เดิมปฏิเสธกระแสข่าวการลงสมัคร แต่สุดท้ายก็หอบเอกสารมายื่นในวันสุดท้าย

นอกจากนี้ ยังมี ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเคยลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการ ธปท.มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2563 และกลับมาสมัครในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2

ยังมีนายวิกรานต์ ศุภมงคล อดีตประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูแคปปิตอล หลานชายของนายกันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่มาลงชิงตำแหน่งในครั้งนี้ด้วย

โดยผู้สมัครแต่ละรายล้วนมีโปรไฟล์ที่ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น ดร.กอบศักดิ์ ที่ต้องถือว่าครบเครื่อง ทั้งการเป็นนักเศรษฐศาสตร์ และการทำงานในมิติของตลาดเงินและตลาดทุน เพราะนอกจากจะเป็นนักเรียนทุนแบงก์ชาติ เคยทำงานในแบงก์ชาติมานาน กระทั่งลาออกมาทำงานแบงก์แล้ว ยังทำงานในภาคตลาดทุนด้วย เคยถูกยืมตัวไปทำงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และปัจจุบันก็ดำรงตำแหน่งประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)

ดร.กอบศักดิ์ยังเคยทำงานในภาคการเมือง เป็นถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เส้นทางที่เดิน ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่วังบางขุนพรหมอย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับหญิงแกร่งอย่าง ดร.รุ่ง เป็นลูกหม้อของแบงก์ชาติ ที่เก่งรอบด้าน มีประสบการณ์ทำงานใน ธปท.มายาวนานกว่า 20 ปี แม้จะมีช่วงที่ออกไปร่วมงานกับภาคเอกชน ที่ธนาคารกรุงไทย ก็เป็นการถูกส่งออกไปเรียนรู้ เพื่อกลับมาเติบโตขึ้นสู่ผู้บริหารระดับสูงของแบงก์ชาติ จนกระทั่งปัจจุบัน

ฟาก ดร.สมประวิณ เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีประสบการณ์หลากหลาย เคยทำงานทั้งในภาครัฐและเอกชน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ผ่านมาเคยทำงานในบทบาทระดับผู้บริหาร อาทิ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานกลยุทธ์องค์กรของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

ก่อนหน้านั้น ดร.สมประวิณเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ (Chief Economist) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา รวมทั้งยังเคยเป็นรองคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาก่อนอีกด้วย

ด้าน ดร.อนุสรณ์ อดีตคนเดือนตุลา ปัจจุบันเป็นคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธปท. ถือว่าเป็นนักวิชาการที่มีการเสนอแนะข้อคิดเห็นเชิงนโยบายเกี่ยวกับเศรษฐกิจมาโดยตลอด

นายวิกรานต์ ศุภมงคล อดีตประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูแคปปิตอล หลานชายของนายกันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และเคยลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคพลังประชาชน ซึ่งพบว่ามีประวัติเคยถูกศาลล้มละลายกลางพิพากษา เป็นบุคคลล้มละลาย

ส่วนอีก 2 ราย ถือได้ว่ามาแรง และเป็นที่จับตาเป็นอย่างมาก เพราะมีลมใต้ปีกจากขั้วการเมืองในปัจจุบันเป็นแรงหนุน คือ นายวิทัย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน มาถึงวาระที่ 2 แล้ว หลังจากที่เริ่มต้นตำแหน่งวาระแรกด้วยการประกาศให้แบงก์รัฐแห่งนี้เป็น Social Bank หรือธนาคารเพื่อสังคม มุ่งซัพพอร์ตประชาชนและธุรกิจเอสเอ็มอี สังคมรากหญ้า แบบไม่หวังกำไรเป็นที่ตั้ง มีการทำงานที่สอดรับกับนโยบายภาครัฐ ทั้งยังกล้าตัดสินใจ กล้าคิดต่าง

สุดท้ายผู้สมัครหญิงอีกราย ที่ถูกกล่าวถึงค่อนข้างมากมาตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดรับสมัคร ได้แก่ ดร.สุทธาภา ที่ทิ้งไพ่ลาออกจากประธานกรรมการบริหาร บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด ในเครือ บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) มาสมัครชิงตำแหน่งผู้นำวังบางขุนพรหม ซึ่งต้องถือว่าโปรไฟล์ไม่ธรรมดา มีดีกรีเป็นนักเรียนทุนพระราชทานเล่าเรียนหลวง และเคยเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ในองค์กรกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารไทยพาณิชย์มาก่อนจะเป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (SCB Abacus) ที่รีแบรนด์มาเป็นบริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด ในปัจจุบัน

ดร.สุทธาภานับได้ว่ามีความเป็นนักเศรษฐศาสตร์เต็มตัว แต่ที่สำคัญคือ มีแต้มต่อจากเสียงเชียร์จากผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย จึงได้รับการคาดหมายว่าเป็น “ตัวเต็ง” ที่มีโอกาสเข้าป้ายสูง

กระบวนการหลังจากนี้ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและคุณสมบัติของผู้สมัครตามขั้นตอน และสรุปผลเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ เป็นประธาน ในวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568

ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครเพื่อเรียกสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ ในวันที่ 24 มิถุนายน 2568

และในขั้นตอนสุดท้าย คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะสรุปผลการคัดเลือกและเสนอรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการ ธปท. ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาภายในวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 และเสนอรายชื่อบุคคลที่ได้รับเลือกต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

แน่นอนว่า ผู้สมัครทั้ง 7 ราย ล้วนมีโปรไฟล์-ดีกรีที่ไม่ธรรมดา แต่สุดท้ายแล้ว “บางคน” อาจจะเป็นเพียง “คู่เทียบ” ส่วน “ตัวจริง” จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น