เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)

แม้สงครามจะสำแดงความโหดร้าย

ต่อหน้าต่อตามมวลมนุษยชาติ ในยุคปัจจุบัน

ไม่ว่าจะเป็น สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

ไม่ว่าจะเป็น สงครามระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ในฉนวนกาซา

แต่ดูเหมือน “สงคราม” ก็ยังเป็นทางเลือก

อันหลีกเลี่ยงไม่ได้?

มนุษยชาติยังเลือกหยิบมาใช้เพื่อยุติความขัดแย้งตลอดมา

แม้ทุกคนจะรู้ดีว่า สงครามไม่ได้นำไปสู่ชัยชนะอันแท้จริง

แต่เมื่อหน้าสิ่วหน้าขวาน สงครามก็ยังเป็นทางเลือกเสมอ

และดูเหมือนจะขาดความยั้งคิด ที่จะกระทำต่อกันด้วย

อินเดียกับปากีสถาน ปะทุไปแล้ว

และเรา–ไทยแลนด์กับกัมพูชา ก็เฉียดฉิวที่พร้อมจะระเบิดสงครามต่อกัน

มวลมนุษยชาติ “เปราะบาง” ต่อกันเหลือเกิน

คอลัมน์ Biology Beyond Nature โดย “ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร”

ที่แม้ดูเหมือนจะ “ย่อยยาก”

แต่สมควรจะค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ พิจารณา

เพราะสิ่งที่ผ่านการ “ย่อย” จะทำให้เราหนักแน่นและมีภูมิคุ้มกัน ที่จะไม่กระทำรุนแรงต่อกัน

โดยเฉพาะ “สงคราม”

“ภาคภูมิ ทรัพย์สุนทร” พาผู้อ่าน “ย้อนรอยประวัติศาสตร์อาวุธชีวภาพสุดสยอง”

สยอง เนื่องจากเมื่อมนุษยชาติตัดสินใจทำสงครามต่อกัน ก็ย่อมมุ่งไปสู่การเอาชนะคู่ขัดแย้ง ในทุก “วิถีและวิธี” การ

หนึ่งในความสยดสยองที่พยายามทำก็คือ สงครามอาวุธชีวภาพ

แม้จะยังพัฒนาไปไม่ถึงจุดรุนแรงเท่า “นิวเคลียร์”

แต่ลองหลับตาว่า หากอาวุธชีวภาพ ถูกพัฒนาไปถึงจุดสูงสุดที่สามารถใช้เข่นฆ่ามวลมนุษยชาติได้โดยสมบูรณ์แล้ว

จะสยดสยองขนาดไหน

กรณีฉาวโฉ่หนึ่ง ที่โด่งดังคือ Unit 731 ของกองทัพญี่ปุ่น ในเขตแมนจูเรีย ช่วงปี 1936-1945

ฉากหน้า อ้างเป็นหน่วยป้องกันโรคระบาดและผลิตน้ำ

แต่เบื้องหลังเป็นหน่วยวิจัยลับเพื่อพัฒนาอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพ

มีการนำเชลยสงครามไปเป็นเหยื่อทดลองจนเสียชีวิตกันไปหลายหมื่นคน

กองทัพญี่ปุ่นเคยนำอาวุธชีวภาพเหล่านี้ลองใช้จริงแล้วในหลายเมืองของจีน

ยอดคนป่วยและผู้เสียชีวิตจากการระบาดอยู่ที่หลายหมื่นถึงหลายแสนคน

ด้านสหรัฐ โครงการอาวุธชีวภาพ เริ่มต้นเป็นทางการตั้งแต่ปี 1942

ภายใต้การกำกับของหน่วยงานพลเรือนชื่อ War Reserve Service มีหน่วยวิจัยที่ป้อมเดทริก (Fort Detrick) ในรัฐแมรีแลนด์

และในปัจจุบันคือที่ตั้งของสถาบันวิจัยโรคติดเชื้อของกองทัพสหรัฐ (USAMRIID)

มีพื้นที่ทดสอบในรัฐมิสซิสซิปปีและรัฐยูทาห์ รวมถึงโรงงานผลิตในรัฐอินเดียนา

ว่ากันว่า สหรัฐผลิตระเบิดบรรจุสปอร์ของแอนแทรกซ์ได้ถึง 5,000 ลูกที่ค่ายเดทริก

ช่วงสงครามเกาหลี (1950-1953) สหภาพโซเวียต จีน และเกาหลีเหนือกล่าวหาว่าสหรัฐใช้อาวุธชีวภาพกับเกาหลีเหนือ

แม้สหรัฐจะปฏิเสธว่าไม่เคยใช้

แต่ก็ยอมรับอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนว่ามีโครงการอาวุธชีวภาพเชิงรุก

และขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

จนกระทั่งประธานาธิบดี Richard Nixon ออกคำสั่งยุติการวิจัยอาวุธชีวภาพทั้งหมดในปี 1969

ด้านสหภาพโซเวียตก็ไม่น้อยหน้า

ได้พัฒนาโครงการอาวุธชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติภายใต้ฉากหน้าว่าเป็น “อุตสาหกรรมจุลชีววิทยา”

ในปี 1973 รัฐบาลโซเวียตได้จัดตั้ง Biopreparat ในฐานะหน่วยงานเภสัชกรรมพลเรือน

แต่ในความเป็นจริงคือ องค์กรอาวุธชีวภาพขนาดมหึมา

มีนักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มากถึง 25,000-30,000 คน กระจายอยู่ตามไซต์ลับต่างๆ ทั่วประเทศ

พวกเขาไม่เพียงแค่พัฒนาเชื้อโรคร้ายแรงอย่างฝีดาษ แอนแทรกซ์ กาฬโรค โบทูลินัม วัคซีนไวรัส VEE ฯลฯ ให้มีฤทธิ์รุนแรงขึ้น แต่ยังสามารถผลิตได้ในระดับตันต่อรอบ

ความลับของอาวุธชีวภาพ ถูกเปิดเผยจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญโศกนาฏกรรมสเวียดลอฟสก์ (Sverdlovsk) เดือนเมษายน 1979 เมื่อประชาชนที่อาศัยอยู่ใต้ลมของสถานีวิจัยทหารด้านจุลชีววิทยาล้มป่วยจากการติดเชื้อแอนแทรกซ์ทางเดินหายใจ

มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

อาวุธชีวภาพ ยังคงเป็นความลับที่ซุกซ่อนอยู่ในประเทศมหาอำนาจ

แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกนำมาใช้เพื่อ “ชัยชนะ” เสมอ

สงครามไม่ว่าในรูปแบบไหนๆ จึงเป็นสิ่งที่เลวร้าย

ไม่สมควรเกิดขึ้นในทุกกรณี

ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่

หรือในสมรภูมิไหนๆ ก็ตา



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

กระดอเย็น
ความฝัน ความรัก ของ ‘โชต้า’ จากกอนโดมาร์ถึงลิเวอร์พูล
เกร็ดน่ารู้ ‘ที่สุด’ กีฬาซีเกมส์ ไทยนับถอยหลังเป็นเจ้าภาพ
ตลาดซื้อขายที่ดินเงียบ
ผ่าสเป๊ก ‘Volvo EX30 Cross Country’ EV ตัวเล็กจอมลุย-ออปชั่นเทียบรุ่นใหญ่
จดหมาย
เดินตามดาว | ศรินทิรา
สลัดทูน่าอะโวคาโด
ดาวกับดวง วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568
ขอแสดงความนับถือ
ลิซ่า ชี้ อดีตนายกฯ ขึ้นเวที ไม่ใช่การ “ผ่าทางตัน” ให้กับประเทศไทย แต่กลับเป็นการ “ตอกลิ่มประเทศ” ให้จมอยู่กับวังวนของปัญหาเดิม ๆ ยึดติดกับตัวบุคคลมากกว่าระบอบ
คำศัพท์พื้นฐานในโลกของฟอเร็กซ์ที่ต้องรู้ก่อนเทรด