เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)

ว่าด้วย “รัฐไร้คุณค่า”

งื่อนไขในการร่วมรัฐบาล

บริหารจัดการตามทุนพรรค

เสียงสวรรค์ “รัฐ” จึงไม่ตระหนัก

เทิดทูน “นายทุนพรรค” เหนือ “ประชาชน”

“คนจนว่าผี ผู้ดีว่าศพ”

ด้วยความเคารพ พบกันครึ่งทาง

ตำแหน่ง “แบ่งเค็ก” อย่าง “หมาหวงก้าง”

พร่ำแอบอ้างเพื่อพี่น้องประชาชน

เหิมเกริมกว่าประชาจะรับไหว

สงครามส่ง “มหาดไทย” คืนด่วน

คุณสมบัติ “นักการเมือง_ _ _” ครบถ้วน

บ้วนน้ำลายลงพื้น_ _ _ก้ม กลืนกิน

สมบัติ (พัทธยา) ผลัดกันชม

2 พรรค “ขนมผสมน้ำยา”

2 ปีผ่านไป “รัฐไร้คุณค่า”

“ไม่มีน้ำยา” จัดการบ้านเมือง…

ประเทศชาติสิ้นเปลืองงบประมาณ

ยิ่งอยู่นาน…ยิ่งล้างผลาญประชาชน ฯ

สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

นอกจาก รัฐเปราะบาง

นอกจาก รัฐล้มเหลว

ที่พูดถึงกันมากแล้ว

“สงกรานต์ บ้านป่าอักษร” นำเสนอขึ้นมาอีกคำหนึ่ง

“รัฐไร้คุณค่า” –น่าสนใจดี

แต่ไม่ว่าจะเป็นรัฐแบบไหน

สิ่งที่รัฐ–จริงๆ อาจจะจำกัดไว้ที่ “รัฐบาล” ต้องตระหนัก

นั่นคือ กระแสที่มองรัฐบาลออกไปทาง “ลบ” มากขึ้นทุกที

ทำไม-รัฐบาลคงหาคำตอบไม่ยาก

ว่าด้วย “ต่างชาติ”

บางคนบอกว่าต่างชาติซื้อห้องชุดน้อยลงเพราะมาโอนห้องชุดน้อยลง

นี่เป็นความเข้าใจผิดและเป็นการบิดเบือนอย่างแน่นอน อย่าไปเชื่อ มีวาระซ่อนเร้น

ความจริงต่างชาติมาซื้อในมูลค่าที่เพิ่มขึ้นต่างหาก

1. ในปี 2562 ต่างชาติซื้อห้องชุดมือหนึ่งถึง 6,557 หน่วย

แต่เมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 ในปี 2563 ก็ปรากฏว่าต่างชาติซื้อลดลงเหลือเพียง 1,017 หน่วยเท่านั้น

ในปี 2564 สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น จำนวนห้องชุดที่ชาวต่างชาติซื้อ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเป็น 1,243 หน่วย

แต่ในปี 2565 นับว่าสถานการณ์ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ต่างชาติซื้อห้องชุดถึง 4,203 หน่วย

และในปี 2566 ก็เพิ่มเป็น 5,036 หน่วย

และในปี 2567 มีจำนวน 5,748 หน่วย

2. แม้ว่าจำนวนห้องชุดที่ซื้อโดยชาวต่างชาติในปี 2567 (5,748 หน่วย) จะยังน้อยกว่าจำนวนห้องชุดที่ซื้อโดยชาวต่างชาติในปี 2562 (6,557 หน่วย)

แต่สัดส่วนของห้องชุดที่ซื้อโดยชาวต่างชาติกลับเพิ่มขึ้น

โดยในปี 2562 ต่างชาติซื้อประมาณ 12% ของจำนวนห้องชุดที่ขายได้ทั้งหมด

ในขณะที่ในปี 2567 ต่างชาติซื้อถึง 18% ของจำนวนห้องชุดที่ขายได้ทั้งหมด

ที่ต่างชาติซื้อเพิ่มขึ้น เพราะคนไทยเองซื้อน้อยลง

จะเห็นได้ว่าในปี 2565 มีการซื้อขายห้องชุด 51,093 หน่วย แต่ลดลงเล็กน้อยเป็น 49,250 หน่วย

และในปี 2567 ห้องชุดขายได้เพียง 31,897 หน่วยเท่านั้น

3. เมื่อพิจารณาในแง่ของมูลค่าห้องชุดที่ขายได้ ก็พบว่ามูลค่าที่ขายได้ในปี 2562 สูงถึง 209,254 ล้านบาท

และลดลงอย่างมากในปี 2563 และ 2564 ในปี 2565 ก็ค่อยๆ ฟื้นตัวและชะลอตัวในปี 2566

โดยเฉพาะในปี 2567 มูลค่าห้องชุดที่ขายได้ลดลงเหลือเพียง 146,784 ล้านบาท หรือต่ำกว่าในปี 2562 ถึง 30%

นี่แสดงว่าตลาดที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตกต่ำลงเป็นอย่างมากในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่ามูลค่าของห้องชุดที่ซื้อโดยชาวต่างชาติกลับเพิ่มขึ้น โดยในปี 2562 ต่างชาติซื้อในมูลค่ารวมกัน 30,516 ล้านบาท ในขณะที่ในปี 2567 ซื้อในมูลค่าถึง 39,640 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30%

นี่แสดงว่าต่างชาติแห่กันมาซื้อห้องชุดในไทยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนนั่นเอง

4. อย่างไรก็ตาม การที่มีศูนย์ข้อมูลบางแห่งออกมาระบุว่าต่างชาติซื้อห้องชุดในกรุงเทพมหานครน้อยลงนั้น คงเป็นการตีความผิด

เพราะใช้ข้อมูลการโอนขายห้องชุด ข้อมูลนี้อาจก่อให้เกิดความสับสน ไขว้เขวได้

เนื่องจากห้องชุดที่มีการโอนในวันนี้ อาจจองซื้อมา 2-4 ปีก่อนหน้านี้ เพียงแต่มาสร้างเสร็จและโอนพร้อมกันในวันนี้เท่านั้น

ห้องชุดที่จองซื้อในช่วง 2-4 ปีที่แล้วก็คือช่วงโควิด-19 ซึ่งมีผู้ซื้อจำนวนน้อยนั่นเอง

5. อาจกล่าวได้ว่าต่างชาติซื้อห้องชุดในราคาที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป เช่น ในปี 2567 ต่างชาติซื้อห้องชุดในราคา 6.896 ล้านบาท

แต่ทั้งนี้ 37% ซื้อในราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของห้องชุดทั้งหมดที่ขายได้ มีราคาเพียง 4.602 ล้านบาท มีเพียงในปี 2563 ราคาที่ต่างชาติซื้อและคนไทยซื้ออาจมีราคาที่ใกล้เคียงกันมาก เพราะในปีดังกล่าวแทบไม่มีกำลังซื้อโดยตรงจากต่างประเทศ แต่อาจเป็นกำลังซื้อของคนต่างชาติที่อาศัยในไทยอยู่แล้ว จึงซื้อในราคาที่ใกล้เคียงกับราคาที่คนไทยซื้อ

อันที่จริงต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์มากมายแม้ในปี 2568 ที่มีแผ่นดินไหวและโควิด-19 แทบจะไม่ได้แผ่วลงเลย โดยเฉพาะที่ภูเก็ตและเมืองท่องเที่ยวต่างๆ แม้ความจริงต่างชาติซื้อห้องชุดมากขึ้น แต่ทำไมจึงมีความพยายามเสนอข่าวว่าต่างชาติซื้อห้องชุดน้อยลง วาระซ่อนเร้นก็คือ

1. ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการสนับสนุนวงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นทั้งที่บริษัทมหาชนใหญ่ๆ ต่างก็ประสบความสำเร็จ ได้กำไรปีละมากมาย

2. ต้องการให้รัฐบาลอออกมาตรการให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้มากขึ้นอีก ทั้งที่ก็อำนวยความสะดวกให้มากมายมหาศาลอยู่แล้ว จนไทยเสียเปรียบมากหากไทยไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ เพราะต้องเสียภาษีมากมายตามราคาตลาด

อันที่จริงการให้ต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์กันอย่างมากมายโดยไม่มีมาตรการคุ้มครองที่ดี จะทำให้ประเทศไทยขาดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองในอนาคตอันใกล้

ดร.โสภณ พรโชคชัย

ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย

บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th)

ถือเป็นอีกข้อมูลหนึ่ง

ที่ถูกนำเสนอให้สังคมได้พิจารณา

อย่างไรก็ตาม แม้จะยืนยันว่าต่างชาติไม่ได้ซื้อห้องชุดลดลง

แต่สิ่งที่น่าสนใจ

นั่นก็คือข้อห่วงใยของ ดร.โสภณ

ที่ว่า การที่ต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์กันอย่างมากมาย

หากไม่มีมาตรการคุ้มครองที่ดี

จะทำให้ประเทศขาดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองในอนาคตอันใกล้

นี่ก็คือสิ่งที่น่าพิจารณาเช่นกัน



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

กระดอเย็น
ความฝัน ความรัก ของ ‘โชต้า’ จากกอนโดมาร์ถึงลิเวอร์พูล
เกร็ดน่ารู้ ‘ที่สุด’ กีฬาซีเกมส์ ไทยนับถอยหลังเป็นเจ้าภาพ
ตลาดซื้อขายที่ดินเงียบ
ผ่าสเป๊ก ‘Volvo EX30 Cross Country’ EV ตัวเล็กจอมลุย-ออปชั่นเทียบรุ่นใหญ่
จดหมาย
เดินตามดาว | ศรินทิรา
สลัดทูน่าอะโวคาโด
ดาวกับดวง วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568
ขอแสดงความนับถือ
ลิซ่า ชี้ อดีตนายกฯ ขึ้นเวที ไม่ใช่การ “ผ่าทางตัน” ให้กับประเทศไทย แต่กลับเป็นการ “ตอกลิ่มประเทศ” ให้จมอยู่กับวังวนของปัญหาเดิม ๆ ยึดติดกับตัวบุคคลมากกว่าระบอบ
คำศัพท์พื้นฐานในโลกของฟอเร็กซ์ที่ต้องรู้ก่อนเทรด