เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

สงครามชาตินิยมในศึกพิพาทกัมพูชา | ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์

12.06.2025

สงครามชาตินิยมในศึกพิพาทกัมพูชา

ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องใหญ่ซึ่งทำให้การเมืองในประเทศถึงจุดเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ความนิยมต่อคุณแพทองธาร ชินวัตร ที่ต่ำอยู่แล้วยิ่งต่ำลงโดยไม่มีทางฟื้นกลับมาได้ พลังอนุรักษนิยมฟื้นตัวสู่จุดสูงสุดในรอบหลายปี ส่วนพลังเสรีนิยมมีบทบาทน้อยมากเมื่อเผชิญกระแสชาตินิยม

ด้วยการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ล่าช้ากว่าเต่าคลาน ประเทศไทยเกือบเกิดสงครามจากการปล่อยปละให้กัมพูชาส่งกองกำลังเข้าพื้นทีซึ่งเข้าไม่ได้ ผลก็คือคนไทยทนไม่ได้ขั้นก่อ “กระแส” ใหญ่ คือรัฐบาลต้องตอบโต้ให้สาสม รบเป็นรบ ถึงทุกคนจะพูดเช่นกันว่าไม่รบดีกว่าเยอะก็ตาม

โชคดีที่ต่อให้คนบางกลุ่มโกรธขั้นขุดเรื่องพระยาละแวก แต่ก็มีคนไทยอีกมากทั้งที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน, ทหาร, นักวิชาการ และประชาชนธรรมดาๆ ที่เตือนสติว่าสงครามไม่ใช่ทางออก เจรจาคือวิธีที่ดีที่สุด

เช่นเดียวกับมีคนกัมพูชาจำนวนมากที่เตือนคนกัมพูชาด้วยกันว่าอย่าสร้างสงคราม

รัฐบาลเคลมว่าไทยผ่านพ้นสงครามด้วยฝีมือเจรจาของรัฐบาล แต่หากรัฐบาลเก่งจริง รัฐบาลต้องไม่ทำให้กัมพูชาบุกพื้นที่พิพาทตั้งแต่ต้น

ซ้ำสงครามไม่เกิดเพราะไทยปิดด่านสกัดบ่อนปอยเปตจนกัมพูชายอมถอย และการปิดด่านมาจากประชาชนผลักดันกับกองทัพมากกว่ารัฐบาล

ความขี้เท่อของรัฐบาลไม่ได้จบแค่ปัจจุบัน แต่ยังสร้างปัญหาต่อไปยังอนาคต เพราะขณะกัมพูชาส่งเรื่องพื้นที่พิพาทกับไทยไปศาลโลก มาตรการที่รัฐบาลไทยทำมีแค่บอกคนไทยว่าไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ทั้งที่การไม่เตรียมตัวสู้เรื่องศาลโลกทำให้ไทยการ์ดตกจนเสี่ยงจะที่เพลี่ยงพล้ำในระยะยาว

หัวหน้าทีมกัมพูชาคดีนี้คือ “เจียลัม” รัฐมนตรีกิจการชายแดน (Border Affairs) ซึ่งเรียนตรีถึงเอกที่ฝรั่งเศส จบปริญญาเอกด้านกฎหมายระหว่างประเทศที่ฝรั่งเศสโดยตรง กัมพูชาจึงไปศาลโลกด้วยแม่ทัพระดับรัฐมนตรีซึ่งรู้ว่าจะทำให้เรื่องนี้เชื่อมโยงกับคดีที่ไทยเคยยอมรับอำนาจศาลโลกอย่างไร

หนึ่งวันหลังคุณแพทองธารแถลงว่าเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาได้ด้วยดี “ฮุน เซน” ก็โพสต์ภาพเอกสารที่ยื่นต่อศาลโลกเพื่อทวง 4 ปราสาทออกมาอีก วาระของกัมพูชาเรื่องนี้จึงชัดเจนแจ่มจ้า จนน่าสงสัยว่ารัฐบาลไทยวางเฉยเรื่องนี้เพราะแกล้งโง่ หรือเพราะมีวัตถุประสงค์แฝงเร้นอะไร

ข้ออ้างรัฐบาลว่าไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกคือเส้นทางแห่งความประมาทที่นำไปสู่ความตาย เมื่อกัมพูชายื่นคดีทั้งที่รู้จุดยืนไทย กัมพูชาย่อมมีช่องทางกฎหมายระหว่างประเทศที่จะเดินหน้าคดีแน่ๆ ไม่ต้องพูดถึงการดันเรื่องไปที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) หรือมนตรีความมั่นคง (UNSC)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ความเชื่อถือต่อคุณแพทองธารที่ต่ำแล้วต่ำลงกว่าเดิม ความล่าช้าในการแก้ปัญหามีจริง การไม่สั่งปิดด่านจนมีคำถามว่ากลัวอะไรถึงไม่ปิด การลงพื้นที่หลังกัมพูชายิงไทยแล้ว 15 วัน หรือการไม่ยอมรับว่ากัมพูชารุกรานเข้ามาในพื้นที่ซึ่งไม่ควรอยู่เลย

ไม่มีคำตอบจากคุณแพทองธาร, รัฐบาล หรือแม้แต่ไอโอพรรคว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร และในเมื่อไม่มีคำตอบจากรัฐบาลสักประโยคเดียว คำตอบที่ประชาชนมีให้ตัวเองเรื่องนี้คือคุณแพทองธารเกรงใจผู้นำกัมพูชาที่มีบุญคุณเคยช่วยเหลือครอบครัวคุณแพทองธารมานานนับสิบปี

พูดตรงๆ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาทำให้คนจำนวนมากระแวงว่าคุณแพทองธารเห็นผู้นำกัมพูชาสำคัญกว่าประเทศ

และไม่เชื่อมั่นว่าคุณแพทองธารทำหน้าที่นายกฯ โดยทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประเทศอย่างที่ผู้นำประเทศควรทำ

ไม่มีใครเชื่ออีกแล้วว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำรัฐบาลจนครบ 4 ปี ทุกวันนี้เจอนักการเมืองกี่คนก็มีแต่คนเชื่อว่าคุณแพทองธารจะอยู่ไม่ครบวาระแทบทั้งหมด

คำถามตอนนี้มีแค่คุณแพทองธารจะจบแบบลาออก, ถูกกดดันให้ออก หรือยุบสภา ส่วนคนที่เชื่อว่าอยู่ได้และอยู่ดีนั้นแทบไม่มีเลย

มลทินรัฐบาลเรื่องข้ามขั้วนั้นชัดจนไม่มีอะไรให้เถียงกัน

สองปีของรัฐบาลที่เศรษฐกิจพังยับก็ไม่มีอะไรเถียงได้อีก

แต่ขณะที่ปัญหาแรกเป็นหลักประชาธิปไตยซึ่งอาจเห็นต่างกัน ส่วนปัญหาที่สองคือเรื่องความสามารถซึ่งอาจมีคนแก้ตัวให้ รัฐบาลตอนนี้กำลังเผชิญปัญหาที่ไม่มีทางตอบได้เลย

สรุปง่ายๆ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาทำให้ความไม่เชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลยกระดับจากปัญหาหลักการประชาธิปไตยจากเรื่องจัดตั้งรัฐบาลตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว? ปัญหาปากท้องจากเรื่องการไม่เจริญเติบโตเศรษฐกิจ? ปัญหาความไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลเป็นตัวแทนผลประโยชน์ชาติจริงๆ

ประชาธิปไตยเป็นหลักการซึ่งคนจำนวนมากยึดถือร่วมกัน ทันทีที่รัฐบาลมีปัญหาความยอมรับตามหลักประชาธิปไตย ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลก็มีปัญหาตามไปหมด ส่วนปากท้องเป็นเรื่องกระทบทุกคนไม่เลือกหน้า

เมื่อรัฐบาลมีปัญหานี้ก็สูญเสียความเชื่อมั่นจากคนทุกกลุ่มเพิ่มทันที

สําหรับเรื่องปัญหาเรื่องชาติ อุดมการณ์หลักที่ครองอำนาจนำในภูมิภาคนี้คืออุดมการณ์ชาตินิยมซึ่งเป็นผลผลิตของพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของสังคมแถบนี้ ซ้ำชาตินิยมในสังคมไทยเองก็มีฐานะแข็งแกร่งจนเป็น Metadiscourse (อภิมหาวาทกรรม) ที่ทุกอุดมการณ์หลักต้องหมุนรอบตลอดเวลา

ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาเชื่อมโยงกับสำนึกเรื่อง “ดินแดน” ที่เป็นเสาหลักของสำนึก “รัฐชาติ” ในทุกสังคม ต่อให้นักวิชาการจะบอกว่าชาติเป็นเรื่องเพิ่งสร้าง แผนที่เป็นเรื่องสมมุติ เขตแดนเป็นสิ่งเพิ่งมี แต่การถูกสร้างก็ไม่ได้ทำให้ “ดินแดน” เป็นความจริงน้อยลงจนไม่มีพลังเลย

ข้อพิพาทชายแดนทำให้ไทยเจอสถานการณ์ที่กระอักกระอ่วนอย่างที่ไม่มีประเทศไหนเจอ

ในด้านหนึ่งเรามีผู้นำที่มีความสัมพันธ์นับเป็นเครือญาติกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านที่ช่วยเหลือครอบครัวผู้นำมา 2 ชั่วคน

แต่ในอีกด้านคือผู้นำประเทศเพื่อนบ้านเป็นคู่ขัดแย้งที่ทำให้ไทยเกือบเกิดสงคราม

ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาทำให้เกิดการแข็งแกร่งขึ้นของความคิดชาตินิยม และความคิดชาตินิยมทำให้ผู้นำรัฐบาลถูกมองด้วยความหวาดระแวงจนอาจนำไปสู่คำถามยากๆ เช่น ทำไมไม่กล้าปิดด่าน ทำไมไม่กล้าพูดว่าไทยถูกรุกราน และทำอย่างไรไม่ให้ข้อมูลสำคัญของไทยรั่วไปยังฝั่งกัมพูชา

ขณะชาตินิยมไทยในอดีตเป็น “ราชาชาตินิยม” ที่กษัตริย์เป็นศูนย์กลาง ชาตินิยมรอบนี้เป็นชาตินิยมแนวประชานิยม (Populist Nationalism) ซึ่งมีศูนย์กลางที่การหลอมรวมความไม่พอใจทางเศรษฐกิจกับลัทธิเชื้อชาตินิยมจนกลายเป็นความเกลียดเขมรและคนกัมพูชาที่ทำมาหากินอย่างสุจริตในไทย

คุณแพทองธารบริหารเรื่องข้อพิพาทชายแดนแย่จนสมควรที่คนจะระแวงรัฐบาล และความระแวงที่ถูกสุมไฟโดยชาตินิยมแนวประชานิยมทำให้คนไทยยิ่งระแวงรัฐบาลมากขึ้นไปอีก ความยอมรับที่คนมีต่อรัฐบาลจึงดิ่งเหวจากความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลและสำนึกชาตินิยมไทย

ทางรอดของรัฐบาลคือแก้ปัญหาชายแดนบนผลประโยชน์สูงสุดของประชาชาติไทย

แต่ข้อพิพาทเรื่องดินแดนรอบนี้เป็นความขัดแย้งแบบได้หมด-เสียหมด (Zero-Sum Game) ชาตินิยมที่ไทยต้องได้ประโยชน์เรื่องดินแดนแต่กัมพูชาต้องการดินแดนจึงไม่มีจุดกึ่งกลางให้รัฐบาลแพทองธารได้เลย

ความย้อนแย้งทางประวัติศาสตร์คือผู้นำกัมพูชาที่สนิทกับครอบครัวผู้นำไทย 2 ชั่วคน กลายเป็นคนสร้างปัญหาการเมืองขั้นสูงสุดให้คุณแพทองธาร ยุทธวิธีที่กัมพูชายื่นเรื่องเข้าศาลโลกทำให้คุณแพทองธารจะเผชิญแรงกดดันจากชาตินิยมไม่สิ้นสุด ไม่สู้ก็ไม่ได้ แต่สู้แล้วแพ้ก็ไม่ได้อีกเช่นกัน

สำนึกชาตินิยมแบบเสรีนิยมคือทางรอดของคุณแพทองธาร แต่คนที่พูดเรื่องนี้ได้แก่นักวิชาการและพรรคประชาชนที่เพื่อไทยถือเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง ชาตินิยมที่ไม่คลั่งเชื้อชาติ, ไม่คลั่งทหาร และไม่กระหายสงครามแบบที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือคุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พูดจึงเป็นเรื่องซึ่งรัฐบาลไม่มีวันพูดได้

ข้อพิพาทไทย-กัมพูชากำลังทำให้รัฐบาลแพทองธารถดถอยสู่จุดที่ไม่มีทางฟื้นกลับมาได้อีก ยกเว้นกัมพูชาจะเลิกทำคดีทวงดินแดน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ และจึงเป็นไม่ได้เช่นกันที่รัฐบาลชุดนี้จะมีคะแนนนิยมกระเตื้องจากจุดต่ำสุดในปัจจุบัน



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

รมว.วัฒนธรรม เปิดเวที “SPLASH – Soft Power Forum 2025” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่เวทีโลก
แนะ 4 ข้อ แก้เกมสหรัฐฯ ชี้ ตอนนี้แค่สัญญาณอันตราย กลับตัวตั้งหลักยังทัน
“สิริพงศ์” อัดยับ ทีมเจรจา “พิชัย” ทำการบ้านน้อย เจรจาแบบใดจึงได้รับจดหมายตอบกลับที่ดูไม่เป็นมิตร แนะ 4 แนวทาง เร่งดำเนินการ รองรับแรงกระแทก
ลิณธิภรณ์ บอก ไม่ยึดติดตำแหน่ง ตั้งใจลาออกส.ส.ตั้งแต่แรก หลังได้นั่ง รมช.ศึกษาฯ ขอโฟกัสงานบริหารหวังเห็นผล3 เดือนแรก
ลอย ชุนพงษ์ทอง กางผลกระทบรุนแรงจากภาษีทรัมป์ ชี้ครม.-แบงก์ชาติ ควรร่วมมือกันรับมือ อัดฉีดเงินบาท ให้ค่าเงินอ่อนลง
“​ศ.สุชาติ” มองสหรัฐประกาศภาษีนำเข้าเบื้องต้นสำหรับไทย​ที่​ 36% ไทยควรไปเสนอ​ เวียดนาม​โมเดล
เจาะใจ ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ บทบาทสตรีกับการเมืองไทย จะเปลี่ยนแปลงได้ ต้องไม่ลดทอนคุณค่าผู้หญิง
เฟซบุ๊กของฮุน เซน : ฮุน เซน คนขี้โม้
รวมพลังแผ่นดิน หรือรวมพลังแบ่งแยก? วิกฤตอธิปไตยและอนาคตความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
รัฐบาลไทย เกี่ยวข้องอะไรกับคดีลิม กิมยา?
ทรัมป์กับภาษาสบถ แบบ *** (เซ็นเซอร์!)
ภาพ AI รันวงการอาหารและต้นไม้