bg-single

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาในเกมอำนาจ ข้อเสนอทางออกที่ยั่งยืน

25.06.2025

บทความพิเศษ | เทวินทร์ อินทรจำนงค์

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาในเกมอำนาจ

ข้อเสนอทางออกที่ยั่งยืน

จากอดีตสู่วิกฤตใหม่

รากเหง้าความขัดแย้งชายแดน

ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่เป็นปมที่สืบทอดยาวนานจากประวัติศาสตร์ ผสมผสานกับการเมืองภายในของทั้งสองชาติ

โดยเฉพาะในฝั่งกัมพูชา ที่ความขัดแย้งชายแดนมักถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อกลบเกลื่อนปัญหาภายใน ตั้งแต่ยุคเขมรแดงจนถึงยุคสงครามข้อมูลในปัจจุบัน

ความขัดแย้งที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นมิถุนายน 2568 เป็นเพียงบทล่าสุดของละครการเมืองที่ซับซ้อน

การปะทุครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสชาตินิยมที่ถูกจุดติดผ่านโซเชียลมีเดียของกัมพูชา ขณะที่นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ต้องเผชิญข้อกังขาเรื่องความชอบธรรมในการสืบทอดอำนาจจากบิดา ฮุน เซน พร้อมกับแรงกดดันจากวิกฤตเศรษฐกิจภายใน

การหยิบยกประเด็นชายแดนขึ้นมาปลุกเร้าจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเบี่ยงเบนความสนใจจากความท้าทายภายในประเทศ

“ศัตรูภายนอก”

กลยุทธ์การเมืองที่คุ้นเคย

นักวิเคราะห์มองว่าความเคลื่อนไหวของกัมพูชาสะท้อนแนวคิด “Diversionary Politics” หรือการสร้าง “ศัตรูภายนอก” เพื่อลดแรงกดดันภายใน

กลยุทธ์นี้ปรากฏชัดในช่วงที่ผู้นำเผชิญวิกฤตความนิยม หรือข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตและความเหลื่อมล้ำ การปลุกกระแสชาตินิยมผ่านประเด็นชายแดนจึงเป็นเครื่องมือที่ได้ผลในระยะสั้น สร้างความสามัคคีในชาติ และเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาการบริหารประเทศ

ข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ปี 2568 หนี้สาธารณะของกัมพูชาจะสูงถึง 38.5% ของ GDP

ขณะที่เศรษฐกิจพึ่งพารายได้จากกิจการที่ผิดกฎหมาย เช่น คอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพและกาสิโนเถื่อน ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายอำนาจอย่างซับซ้อนมีจำนวนมาก

ความเปราะบางนี้ยิ่งตอกย้ำความจำเป็นที่ผู้นำกัมพูชาต้องหันไปพึ่ง “เกมชายแดน” เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเมือง

การตอบสนองของไทย

ด้วยยุทธศาสตร์ที่เด็ดขาด

ฝ่ายไทยในครั้งนี้เลือกใช้แนวทาง “ปิดเกมเร็ว” ด้วยมาตรการที่ทั้งเด็ดขาดและรอบคอบ ดังนี้

1. ปิดด่านชายแดนสำคัญ-การระงับการค้าข้ามแดนซึ่งส่งผลให้มูลค่าการค้าของกัมพูชาลดลงอย่างมาก ภายในสัปดาห์แรก สร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจอย่างทันที

2. เตรียมระงับการจ่ายไฟฟ้าสำรอง-กระทบต่อระบบไฟฟ้าในพื้นที่ชายแดนของกัมพูชา ซึ่งพึ่งพาการนำเข้าจากไทย

3. พร้อมจะปราบปรามเครือข่ายมิจฉาชีพข้ามชาติ-การกวาดล้างคอลเซ็นเตอร์ที่เชื่อมโยงระหว่างไทย ลาว และกัมพูชา พร้อมประสานข้อมูลกับนานาชาติ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

ผลจากมาตรการที่ลงมือทำและป้องปรามเหล่านี้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 รัฐบาลกัมพูชาส่งสัญญาณถอย โดยถอนกำลังจากพื้นที่พิพาทและยอมเปิดโต๊ะเจรจาภายใต้กรอบอาเซียน

การตอบสนองของไทยครั้งนี้ไม่เพียงแสดงถึงความแข็งแกร่งทางการทูต แต่ยังสะท้อนความเข้าใจในบริบทการเมืองของเพื่อนบ้าน

สงครามข้อมูล

พรมแดนใหม่ของความขัดแย้ง

ในยุคดิจิทัล ความขัดแย้งไม่ได้จำกัดอยู่ที่ชายแดนทางกายภาพ

แต่ขยายสู่โลกออนไลน์ แพลตฟอร์มอย่างเฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก และยูทูบ

กลายเป็นสมรภูมิที่วาทกรรมชาตินิยมถูกปั่นกระแส ทั้ง “ไทยรังแกเขมร” และ “กัมพูชาเนรคุณไทย”

กลายเป็นเชื้อไฟที่อาจลุกลามเกินควบคุม

สื่อทั้งสองฝ่ายจึงต้องระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของการเมืองที่มุ่งสร้างความแตกแยก

ข้อเสนอสู่ทางออกที่ยั่งยืน

พื่อคลายปมความขัดแย้งและป้องกันการปะทุซ้ำในอนาคต ไทยควรวางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงวาทกรรมเกลียดชัง-ต้องแยกแยะระหว่างผู้นำกัมพูชากับประชาชนทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงเหยื่อของระบบอุปถัมภ์ การสื่อสารที่รอบคอบจะช่วยลดความตึงเครียดระหว่างประชาชนสองชาติ

2. ยกระดับบทบาทอาเซียน-ไทยควรรณรงค์ให้จัดตั้งคณะทำงานสามฝ่าย (ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม) เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ภายใต้กรอบ ASEAN Charter ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในระดับภูมิภาค

3. ส่งเสริมสื่ออิสระข้ามพรมแดน-การสนับสนุนสื่ออิสระ เช่น CamboJA News หรือ The Isaan Record จะช่วยนำเสนอข้อเท็จจริง ลดการบิดเบือนข้อมูล และสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างสองชาติ

สรุป : สันติภาพที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากความเข้าใจ

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องด่านชายแดนหรือเส้นเขตแดน หากแต่เป็นภาพสะท้อนของการเมืองในภูมิภาคที่ยังคงวนเวียนอยู่ในวังวนของอำนาจนิยม เศรษฐกิจที่ผูกขาด และการใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในเกมการเมือง

เมื่อกัมพูชาเลือก “ถอย” ไทยควรรุกคืบด้วยการทูตที่ชาญฉลาด ส่งสัญญาณว่าไทยจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของกลยุทธ์สร้างศัตรูเพื่อการอยู่รอดทางการเมือง ขณะเดียวกัน ต้องยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของชาติโดยไม่ปล่อยให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายจมอยู่ในวังวนแห่งความเกลียดชัง

“สันติภาพที่แท้จริงมิได้เกิดจากชัยชนะในสนามรบ แต่เกิดจากการเข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน”

– อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

แพทองธาร พร้อมผลักดันสื่อสารภาพลักษณ์พุทธศาสนาให้ทันสมัย เข้าใจง่าย เข้าถึงคนรุ่นใหม่
ลอย ชูโมเดล การพลิกฟื้นเศรษฐกิจของอาร์เจนตินา ยุทธวิธีของ ปธน. Javier Milei ที่ไทยควรเรียนรู้
ICSI
ICSI คืออะไร สามารถเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ไหม?
เจ้าอาวาสกับอำนาจเหนือพื้นที่วัด : โครงสร้างที่ต้องสังคายนาใหม่ (1)
วัคซีนเรืองแสงสุดโรแมนติก แพร่ผ่านการกุ๊กกิ๊กกันและกัน
การปกครองเปลี่ยน-แฟชั่นปรับ : แฟชั่นสมัยคณะราษฎร-สงคราม (13) เมื่อสำนักพระราชวังตักเตือน “เจ้าชาย-เจ้าหญิง” ให้แต่งกายตามรัฐนิยม
ดาวกับดวงวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568
พาณิชย์เดินหน้า…จัดงานประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลก ยกระดับมันสำปะหลังไทย ขยายตลาดส่งออก ดันเศรษฐกิจฐานรากเติบโต
“รองฯตี๋ ”สั่งสืบ 8 รวบแก็งแว้น ย่านตลาดบางปะกอก เหตุรวมตัวมั่วยา ส่งเสียงดังก่อความรำคาญ กำชับท้องที่กวดขัน คาดโทษหากเกียร์ว่าง
ปักธง เทียนวรรณ เปิดโฉม บุรุษรัตน์ สามัญชน จาก ‘ศรีบูรพา’
ปรีดี แปลก อดุล : คุณธรรมน้ำมิตร (74)
‘โฉมหน้าของศักดินาภิวัตน์ในปัจจุบัน’ (2)