เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

เมษา พฤษภา 2553 เจาะใจ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เจาะใจ อภิรัชต์ คงสมพงษ์

25.06.2025

ยุทธการ แดงเดือด

เมษา พฤษภา 2553

เจาะใจ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เจาะใจ อภิรัชต์ คงสมพงษ์

มีความจำเป็นต้องให้ความสนใจต่อท่าทีของทั้งรัฐบาลและทหารอย่างเป็นพิเศษก่อนจะเข้าสู่ปฏิบัติการในวันที่ 10 เมษายน 2553 ประสานกับท่าทีและการเคลื่อนไหวของฝ่ายเสื้อแดง นปช.

โดยเฉพาะผลสะเทือนจากสถานการณ์ในวันที่ 9 เมษายน

หากศึกษาจากข้อมูลของ วาสนา นาน่วม จะเห็นบทบาทของ พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ อย่างชัดเจน

ด้วยเพราะ พ.อ.อภรัชต์ คงสมพงษ์ ได้รับคำสั่งให้จัดชุดจำนวน 28 นายไปช่วยประสานงานกับทหารจากกองพลทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ และกองพลปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน

แต่เมื่อเกิดชุลมุนเพราะผู้ชุมนุมต้องการค้นอาวุธทหารและยึดอาวุธ พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ในอาคารก็จำต้องถอยร่นขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าในขณะที่คนเสื้อแดงบุกเข้ายึดตึก

วาสนา นาน่วม สรุปผ่านภาษาชาวบ้านก็ต้องเรียกว่าถูกเสื้อแดงล้อม

แต่ พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ บอกว่า ทหารทั้ง 28 คนไม่ยอมหนีแต่ยังคงอยู่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ทหารบกยังคงยึดอยู่ประหนึ่งเป็นวีรบุรุษไทยคม

อีกทั้งเวลานั้นทหารไม่อาจหนีไปไหนได้

เพราะคนเสื้อแดงทั้งปล่อยลมยางรถทหาร เจาะยาง และนำเอากรวดหินทรายใส่ลงถังน้ำมันรถทหาร

วาสนา นาน่วม ยืนยันว่า ในวันที่ 9 เมษายน 2553 ผู้ชุมนุมบุกประชิดถึงตัว พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ โดยมีแนวโน้มที่จะทำร้าย เขาจึงต้องป้องกันตัวเองด้วยการพยายามยิงปืนลูกซอง

แต่เป็นแค่การเล็งขู่

กระนั้น เมื่อเกิดการประชิดตัวจริงๆ ก็ต้องยิงปืนสีส้ม คือ กระสุนสเปรย์พริกไทยใส่ผู้ชุมนุมจนทำให้เกิดภาพประวัติศาสตร์ที่คนเสื้อแดงจารึก พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ไว้ในความทรงจำอันเลวร้าย

“ผมต้องยิงทั้งปืนลูกซอง แต่เป็นกระสุนยาง และสเปรย์พริกไทยเพื่อป้องกันตัวเองเพราะม็อบเสื้อแดงกำลังจะใช้มีดฟันผม

ผมมีปืนสั้นพกอยู่ด้วยแต่ก็ไม่ได้หยิบมาใช้เพราะผมไม่ทำ

เพราะไม่ได้ต้องการทำร้ายเขา จึงใช้แค่กระสุนยางและสเปรย์พริกไทย” พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ชี้แจง

“ตอนนั้นกลับมาที่ ศอฉ.แล้ว ท่านนายกรัฐมนตรีถามผมด้วยว่ายิงปืนใส่ผู้ชุมนุมหรือ ผมก็ต้องชี้แจง แต่ท่านก็ไม่ได้ติดใจอะไร ไม่ได้ถูกสอบสวนอะไร” พ.อ.อภิ รัชต์ คงสมพงษ์ กล่าว

แต่ต่อมาเมื่อภาพยิงปืนเหล่านี้ทั้งที่ปรากฏในสื่อสิ่งพิมพ์ หรือภาพที่ผู้ชุมนุมถ่ายกันไว้เอง ได้ถูกนำมาปะติดตามมุมต่างๆ ในการชุมนุมจนทำให้กลายเป็นเป้าหรืออยู่ในแบล็กลิสต์ของคนเสื้อแดง

“ผมรู้ตัวว่าตกอยู่ในอันตรายเพราะตอนนั้นคนเสื้อแดงน่าจะจำหน้าผมได้หมดแล้ว แต่เราเป็น ผบ.หน่วยเราจะกลัว เราจะหลบไม่ได้”

เนื่องจาก พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ มักได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. และ พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองเสนาธิการทหารบก ซึ่งเป็นอดีต ผบ.ร.11 รอ. มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์

ทำให้มีความไว้วางใจและมอบหมายงานให้เสมอๆ ในภารกิจสำคัญๆ จนทำให้ชีวิตครอบครัวได้รับผลกระทบ

ภริยาก็ถูกคุกคาม

แม้ในห้วงที่คนเสื้อแดงแตกพ่ายหนีมุดลงดิน พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ก็รู้ดีว่ายังตกอยู่ในอันตราย

“ทุกหน่วยถอยหมด ยอมแพ้ให้ผู้ชุมนุมจับแล้วไล่ออกไป มีแต่ผมและลูกน้องรวม 28 คนที่ไม่ยอมทิ้งสถานีไทยคม แต่ก็ต้องร่นถอยขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้า อย่างน้อยก็เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า คนเสื้อแดงยังไม่ได้ยึดได้ทั้งหมด ยังมีพวกผมเป็นทหารคุมอยู่ส่วนหนึ่ง” พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ กล่าว

“ตอนนั้นมีอาวุธปืนกระสุนจริงๆ อยู่หลายสิบกระบอกที่เราต้องดูแลรักษา ก็ขนขึ้นมาไว้บนดาดฟ้า ก็ประสานลงไปว่า ถ้าคนเสื้อแดงขึ้นมาจะทำร้ายผมยิงแน่ จะติดคุกก็ยอม แต่ผมไม่ยอมแพ้”

นี่ถ้าเสื้อแดงไม่รู้แกวถอนออกไปเสียก่อน รับรองว่าได้นองเลือด เพราะบูรพาพยัคฆ์จากพล ร.2 รอ. โจทก์เก่าเสื้อแดงตั้งแต่สงกรานต์ 2552 ระดมกำลังมาแล้ว

เมื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีทุบโต๊ะกลาง ศอฉ.ให้ยึดคืน

ถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มองสถานการณ์ก่อนวันที่ 10 เมษายน 2553 อย่างไร

คำตอบเห็นได้จากบันทึกจากใจ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง “ความจริงไม่มีสี”

หลังยึดแยกราชประสงค์ แกนนำเสื้อแดงตั้งเวทีชุมนุมถาวรทั้ง 2 จุด

คือที่สี่แยกราชประสงค์และที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนิน แล้วยังมีการเคลื่อนไหวล่อแหลมอย่างต่อเนื่อง มีการดาวกระจายไปตามสถานที่ต่างๆ อาคารศูนย์ราชการ เคลื่อนขบวนไปตามถนนที่ ศอ.รส.ประกาศห้ามไว้แล้ว

7 เมษายน 2553 แกนนำเสื้อแดงนำโดย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ระดมคนบุกรุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ทำร้าย รปภ. ไล่ล่าตัวคุณสุเทพ ผม

ก่อนหน้าเคยประกาศว่า จะเอาเลือดหัวของผม ของคุณสุเทพไปล้างเท้า

วันนั้นผมไปที่รัฐสภาเข้าประชุมแล้วก็รีบออกเพราะรองนายกฯ สุเทพเตือนว่าถ้าผมอยู่นานจะมีเรื่องยุ่ง ผมออกมาแล้วไปที่ราบ 11 เตรียมประชุม ศอ.รส. แล้ววันนั้นเองก็กลายมาเป็น ศอฉ. หรือศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะสถานการณ์ยกระดับไปอีกขั้นหนึ่ง

นั่นเป็นจุดที่ทำให้รัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีการขอศาลออกหมายจับแกนนำผู้กระทำผิด แต่ก็มีการใช้มวลชนเสมือนเป็นโล่กำบัง

หลังจากนั้น รูปการณ์ยิ่งปรากฏชัดเจนว่าเขาเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มปลุกปั่นมวลชน โกหกว่าทหารตำรวจเตรียมจะทำร้ายประชาชน สารพัดเรื่องที่จะโกหก บิดเบือน

ปลุกระดมด้วยความรุนแรงหนักขึ้นเรื่อยๆ ผ่านช่องทางทีวีดาวเทียมและวิทยุชุมชน

กระทั่งต้องระงับการออกอากาศ

9 เมษายน 2553 แกนนำระดมมวลชนไปบุกสถานีดาวเทียมไทยคมเพื่อจะเปิดสัญญาณออกอากาศทีวีปลุกระดมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ที่ควบคุมพื้นที่อยู่พยายามไม่ให้ตอบโต้ม็อบ ได้แต่ฉีดน้ำถอยร่น

ผู้ชุมนุมเข้ายึดอาคาร แย่งชิงอาวุธปืนเจ้าหน้าที่ไปบางส่วนและมีการเปิดสัญญาณทีวีอีกครั้ง

ผมเฝ้าติดตามรายงานสถานการณ์อยู่ที่ราบ 11 ช่วงนั้นประชาชนทั่วไปตำหนิการทำหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐอย่างรุนแรง โดยหาว่ายอมอ่อนข้อให้กับฝ่ายผู้ชุมนุมมากเกินไป

เกิดความรู้สึกกดดันขึ้นมาในสังคมว่าทำไมเสื้อแดงจึงคุมสถานการณ์ในบ้านเมืองได้ตามใจชอบ อยากเทเลือดที่ไหนก็ได้ อยากเคลื่อนไปไหนก็ไป ไล่ทหารออกจากที่พักก็ไล่ บุกสถานที่ราชการไล่ล่าคนนั้นคนนี้ จะยึดไทยคมก็ยึดได้ อะไรอย่างนี้

ผมยอมรับว่ามันมีความรู้สึกที่เป็นแรงกดดันมาก ทั้งกับผมเองและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย

ความจริงแล้วการชุมนุมภายใต้การนำของแกนนำเสื้อแดงในช่วงนั้นศาลยุติธรรมเคยชี้ชัดออกมาแล้วว่าเป็นการชุมนุมที่เกินเลยไปกว่าสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ทำอย่างไรที่เราจะไม่ยอมจำนน

หรือปล่อยให้บ้านเมืองกลายเป็น “รัฐล้มเหลว” (Failed State)

ในขณะเดียวกัน เราก็พยายามตั้งหลัก ย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลาว่ามันเป็นการพยายามยั่วยุของฝ่ายโน้น

มันมีคนที่ต้องการให้บาดเจ็บล้มตายเพื่อจะเอาศพไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองของเขาอยู่



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

แค่ลมหายใจ ก็รู้ทันใดว่าอ้วน!!
การปกครองเปลี่ยน-แฟชั่นปรับ : แฟชั่นสมัยคณะราษฎร-สงคราม (12) เจ้านายสนับสนุนรัฐนิยมในสมัยสร้างชาติ
สวนสาธารณะสูงวัย : สังคมภายนอกครอบครัว และบทเรียนจากเฉิงตู
ดาวกับดวงวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2568
อินฟลูเอนเซอร์ คืออะไร ? รู้จักอาชีพยอดฮิต พร้อมต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ
33 ปี ชีวิตสีกากี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ (131)
เล่าถวาย ‘พระธรรมทูต’ | ธงทอง จันทรางศุ
อนุสาสน์ เทียนวรรณ บทนิยาม ใคร คนหนังสือพิมพ์ ปัญญาชน ไพร่กระฎุมพี
สถานการณ์จริงของผู้สูงอายุในประเทศไทย
ความอดทนอดกลั้น (Tolerance) : คุณธรรมพื้นฐานของโลกร่วมสมัย
พลเมืองไทย พลเมืองโลก ดูจากปัญหาแผนที่ | ธงชัย วินิจจะกูล
ความมหัศจรรย์ ของนักปั่น Tour de France