พิชัย สั่งดึงโรงแป้งรายใหญ่เปิดจุดรับซื้อมันสําปะหลัง ดันราคา เกษตรกรแฮปปี้ได้ราคาสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 29 มกราคม นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ ให้ลงพื้นที่เปิดจุดรับซื้อมันสำปะหลังของเกษตรกร ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เป็นที่แรก เนื่องจากมีราคาที่เกษตรกรขายได้ต่ำกว่าจังหวัดอื่น นำร่องใน อ.ไทรโยค อ.เมือง และ อ.บ่อพลอย ซึ่งเป็นอำเภอที่เป็นแหล่งเพาะปลูกของจังหวัด และเกษตรกรได้เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว โดยดึงโรงแป้งรายใหญ่ใน จ.นครราชสีมา บริษัท สงวนวงษ์ สตาร์ช จำกัด และบริษัท ชัยภูมิ สตาร์ช จำกัด จ.ชัยภูมิ เข้ามารับซื้อผลผลิตของเกษตรกร ในราคากิโลกรัมละ 2 บาท ที่เชื้อแป้งมาตรฐาน 25% ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันในพื้นที่ 1.60-1.70 บาทต่อกิโลกรัม
โดยวันนี้จึงถือโอกาสมาตรวจเยี่ยมจุดรับซื้อมันสำปะหลังของเกษตรกรที่ อ.ไทรโยค ซึ่งเป็นจุดแรกที่เริ่มดำเนินการ และได้พูดคุยกับเกษตรกรที่กำลังเอาผลผลิตมาขาย ซึ่งมีผลตอบรับที่ดี เพราะได้ราคาสูงกว่าการขายนอกโครงการ สำหรับโครงการเพิ่มช่องทางการตลาดฯ เป็นโครงการที่ขอรับจัดสรรงบประมาณเป็นการเฉพาะจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขายผลผลิตโดยเฉพาะในจังหวัดที่มีราคาต่ำกว่าพื้นที่อื่น โดยการดึงผู้ผลิตจากนอกพื้นที่เข้ามารับซื้อและดึงผลผลิตออกไป กระตุ้นตลาดให้เกิดการแข่งขัน ผู้ซื้อเดิมหากอยากได้ของจะต้องเพิ่มราคารับซื้อให้เกษตรกร ซึ่งขณะนี้เปิดแล้ว 4 จุด จนถึงวันนี้มีเกษตรกรมาขายผลผลิตแล้วประมาณ 150 ราย ผลผลิตประมาณ 800 ตัน หลังจากนี้จะทยอยเปิดเพิ่มให้ครอบคลุมพื้นที่ตำบลอื่นเพื่อให้สามารถรองรับผลผลิตเกษตรกรได้ทั่วถึง
ราคารับซื้อขึ้นอยู่กับคุณภาพและเปอร์เซ็นต์แป้งของมันสำปะหลัง ขอให้เกษตรกรเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีคุณภาพ และรักษาสิทธิของตนเองในการนำผลผลิตมาจำหน่ายให้ผู้รับซื้อ โดยให้มีการวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งทุกครั้งเพื่อจะได้ราคาที่ยุติธรรม และขอให้เกษตรกรมั่นใจในการนำผลผลิตมาขายในโครงการ ซึ่งได้สั่งการกรมการค้าภายในให้กำกับดูแลลานรับซื้อ ใช้เครื่องชั่งน้ำหนัก เครื่องวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด และเน้นย้ำขอให้เปลี่ยนน้ำที่ใช้สำหรับการวัดเชื้อแป้งอย่างน้อยทุกๆ 4-5 ครั้ง เพื่อไม่ให้มีสิ่งเจือปน หรือดินอยู่ในน้ำ ที่จะเป็นสาเหตุทำให้เปอร์เซ็นต์แป้งที่วัดได้ต่ำลง
นายสมมาตร พุมเรียง เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ต.สิงห์ อ.ไทรโยค กล่าวว่า “วันนี้ได้ขนมันมาขายที่ลานมัน ต.สิงห์ ถือว่าเป็นโครงการที่ดีที่ช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง จากที่ขายได้ตันละ 1,200-1,400 บาท ก็ได้ราคาเพิ่มขึ้นเป็นตันละ 2,000 บาท พวกเราเกษตรกรก็มีรายได้เพิ่มขึ้น”
ด้านนางละออง ขวัญเมือง เกษตรกร ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค ซึ่งนำผลผลิตมาขายที่ลานใน ต.บ้องตี้ กล่าวว่า อยากให้ทำโครงการต่อเนื่องและยั่งยืน ถ้าเป็นไปได้ขอให้ขยายจุดรับซื้อเพิ่มเติม เพื่อให้เกษตรกรที่อยู่ห่างไกลได้มีแหล่งขาย และขอให้ลานมันใช้เครื่องวัดเชื้อแป้งและเครื่องชั่งที่ได้มาตรฐาน เกษตรกรจะได้รับความเป็นธรรมด้วย