ปรากฎการณ์”ไทยสร้างไทย”กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงในทางการเมือง
สนใจใน “วิถี”แห่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
คำถามมิได้อยู่ที่ว่าคนของพรรคไทยสร้างไทยจะได้รับเลือกหรือไม่ในสนาม 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 1 ในสนามกรุง เทพมหานคร
เนื่องจากมีความเชื่อเป็นอย่างสูงว่าสนามภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นของพรรคเพื่อไทย และจำนวนไม่น้อยก็เป็นของพรรคภูมิใจไทย
ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครก็เด่นชัดอย่างยิ่งในชัยชนะอย่างถล่มทลายของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และการเข้ายึดครองพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย
จึงมีความเชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่ผ่อนปรนและอ่อนข้อให้”บ้าง” โอกาสที่พรรคไทยสร้างไทยจะแจ้งเกิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและในกรุงเทพมหานครก็ยากเย็นยิ่ง
แม้ว่า”บารมี”ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะยังปรากฏให้เห็นทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพมหานคร
ทิศทางของพรรคไทยสร้างไทยจึงขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทย
ต้องยอมรับว่าบทบาทของพรรคไทยสร้างไทยกระทบต่อแผนการ“แลนด์สไลด์”ของพรรคเพื่อไทย
เห็นได้จากการแยกตัวของบรรดา”อดีตส.ส.”พรรคเพื่อไทย
ไม่ว่า น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ไม่ว่า นายการุณ โหวสกุล ไม่ว่า นายชวลิต วิชยสุทธ์ ล้วนเคยเป็นคนของพรรคเพื่อไทย และเคยมีบทบาทสำคัญ
เห็นได้จากการแยกตัวของ”คนเสื้อแดง”ระลอกแล้วระลอกเล่า ไม่ว่าจะเป็นที่ประจวบคีรีขันธ์ ไม่ว่าจะเป็นที่ราชบุรี ไม่ว่าจะเป็นที่นครพนม
ล้วนปรากฏคนของพรรคไทยสร้างไทยไปต้อนรับและดึงเข้ามาเป็นผู้สมัครของพรรคไทยสร้างไทย และล้วนสร้างความหงุดหงิดให้กับพรรคเพื่อไทย
นี่ย่อมเป็นความหมางใจระหว่าง”เพื่อไทย”กับ”ไทยสร้างไทย”
หากมองจากพรรคไทยสร้างไทยก็จะสัมผัสได้ในความขยันของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
ขณะเดียวกัน ก็มิได้ตั้งเป้าจำนวน สส.ไว้สูงมากนัก
กระนั้น หากพรรคไทยสร้างไทยสามารถได้รับเลือกจำนวน ระหว่าง 5-10 คนจากทั่วประเทศก็เป็นเรื่องน่าทึ่ง
เพราะในที่สุดก็ย่อมได้รับเลือกมาจากพื้นที่ของ”เพื่อไทย”
