

ภาพการยื่นส่งไมค์ระหว่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปอยู่ในมือของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในกาลาพรีเมียร์ Breaking the Cycle ทรงความหมายและมีความงดงาม
ไม่ว่าจะมองจากด้านของ”คณะก้าวหน้า” ไม่ว่าจะมองจากด้านของ”พรรคก้าวไกล”
งดงามด้วยความตระหนักรู้อย่างเปี่ยมด้วยกาลเทศะ
เมื่อเป็นคำถามจาก Gen Z เมื่อคำถามนั้นต้องการรู้ว่าบท บาทของ Gen Z ในฐานะเป็น New Voter ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นตามวาระในปี 2570 ควรจะทำอย่างไร
คำตอบที่ว่าก็ต้องเลือกผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลมิได้เป็นเรื่องที่ยากเย็นในฐานะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยเป็น”ผู้ช่วย หาเสียง”ของพรรคก้าวไกลมาแล้ว
แต่ทำไมจึงต้องส่งมอบไมโครโฟนที่กุมอยู่ให้ไปอยู่ในมือของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ด้วยเล่าความจริงเรื่องนี้แทบไม่จำเป็นต้อง”อธิบาย”
แต่ที่ภาพๆนี้ได้กลายเป็นไวรัลได้รับเสียงแซร่ซร้องอวยชัยกันอย่างคึกคักอยู่ในโลกโซเชียลเพราะเป็นความงาม
เป็นความงามในการแสดงออกของนักการเมือง”รุ่นใหม่”
ไม่มีใครปฏิเสธความเป็นจริงที่พรรคก้าวไกลคือการสืบทอดมาจากพรรคอนาคตใหม่ เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ พรรคก้าวไกล จึงได้เกิดขึ้นเพื่อสานต่อและพัฒนา
ต้องยอมรับว่าการเมืองอัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส่งมอบให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั้นประสบความสำเร็จพรรคอนาคตใหม่อาจเป็นความหวัง แต่ผลจากการเลือกตั้ง
เดือนมีนาคม 2562 ถึงเป็นความหวังแต่พรรคอนาคตใหม่ก็เป็นอันดับ 3 ต่อจากพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ
แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2566 พรรคก้าวไกลที่มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ได้ชัยชนะทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 1
การมอบไมค์ให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากมือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงมิได้เป็นการให้เกียรติเท่านั้น
ตรงกันข้าม ยืนยันถึงความเคารพ ยืนยันถึงความมั่นใจ
แน่นอน คำตอบจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เป็นคำตอบที่เปี่ยม ด้วยความงดงามและทรงความหมาย
ยืนยันความสำเร็จร่วมของ”พรรค” และของ”มวลชน”
หากไม่มีพรรคอนาคตใหม่ วิถีของพรรคก้าวไกลก็อาจยังมะงุมมะงาหรา หากไม่มีมวลชนซึ่งรวมถึง New Voter ทุกระดับชัยชนะคงไม่ได้มาอยู่ในมือของพรรคก้าวไกล
ยืนยันวิถีแห่งอนาคตใหม่ ยืนยันวิถีแห่งก้าวหน้า ก้าวไกล อย่างเห็นเป็นรูปธรรม