

หลายคนอาจรู้สึกแปลกใจต่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ นายชัยธวัช ตุลาธน ว่าเหตุใดจึงเกรงอกเกรงใจต่อ นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา เป็นอย่างมาก
เมื่อได้รับเชิญให้ไปออกในรายการ”กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” เหตุใดจึงยินยอมทำตามเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง
ใครที่ติดตามรายละเอียดการออกรายการเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีจำนวนไม่น้อยอาจเกิดความรู้สึกหงิดหงิดจนแทบไม่พอใจ
ไม่ว่าจะเป็นท่าทีของ นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ไม่ว่าจะเป็นท่าทีของ นายชัยธวัช ตุลาธน ยิ่งอากัปกิริยาอันมาจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยิ่งชวนให้หงุดหงิด
ทั้งๆที่เพิ่งแถลงกล่าวหา”กกต.” ประสานกับกล่าวหา”ศาลรัฐธรรมนูญ”มากมายหลายกระทงเนื่องแต่คดีล้มล้างการปกครองอันอาจนำไปสู่การยุบพรรค
แต่เมื่อได้กีร์ต้ามาอยู่ในมือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เหมือนกับจะหลุดโลก ให้ความสนใจเพียงกีร์ต้า มุ่งหน้าร้องเพลงที่ตัวเอง อยากร้องประการเดียว
ไม่สนว่า นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา จะทำอะไรกับ”พี่หมี”
ในตอนแรกย่อมมีคนจำนวนไม่น้อยเกิดความหงุดหงิดและไม่พอใจต่อท่าทีอันมาจาก นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา แม้จะแฝงด้วย ความรักความปรารถนาดีอย่างยิ่ง
แต่เมื่อมีการเผยรายละเอียดยอดคนติดตามรายการ”กรรมกรข่าว คุยนอกจอ”เป็นเวลาต่อเนื่อง 3 ชั่วโมงออกมาก็บังเกิดความตื่นตลึงและเริ่มเข้าใจ
เพราะมีมากถึง 201,609 วิว จำนวนการกดชอบหรือไลค์ก็มีมากถึง 6,157ตรงนี้ต่างหากคือการขานรับจากคนดู คนติดตาม
มองอย่างเคร่งเครียดการร้องเพลงอาจเป็นส่วนหนึ่งมิได้เป็นเป้าหมายหลัก แต่ส่วนหนึ่งนี่แหละที่สร้างความเย้าเร้าใจเป็นอย่างสูงให้คนติดตาม
กลายเป็นเสน่ห์ในทางการเมือง ไม่ว่ามองผ่าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน หรือ นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา
หากมองจากด้านของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน ที่ชมชอบในการร้องเพลงอยู่แล้ว อาจเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ อาจเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส
กระนั้น ภายในความหนักหนาสาหัสนั้นเองที่ยอดวิวกลับทะยานในอันดับใกล้เคียงกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ อย่างชนิดหายใจรดต้นคอ
กลายเป็นเสน่ห์ กลายเป็นความเร้าใจ อันต่างไปจากแนวทางของนักการเมืองจากพรรคการเมืองอื่น
เป็นผลอันเนื่องแต่ นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา กดดัน
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

