
รองเลขาฯ นายกฯ งง สส.ปชน. ค้าน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ทั้งที่ใช้เป็นนโยบายหาเสียง ฉะ อ้างแรงงานต่างด้าว สร้างความเกลียดชังระหว่างชนชาติ

วันที่ 12 มิ.ย. 2568 เพจเฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความระบุว่า นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เขียนข้อความบนเอ็กซ์หรือทวิตเตอร์ กรณี สส.พรรคประชาชน ไม่เห็นด้วยเรื่องโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่าคนได้ประโยชน์คือแรงงานต่างด้าว
โดยขอร้องว่าอย่าหากินบนความเกลียดชังระหว่างชนชาติ พร้อมย้อนถามนโยบายอดีตพรรคก้าวไกลเมื่อปี 66 ยังเสนอนโยบาย “กาสิโนถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล” อยู่เลย
โดยนายศึกษิษฏ์ ระบุข้อความดังนี้ เมื่อวานนี้คุณภัณฑิล สส.พรรคประชาชน แถลงว่าไม่เห็นด้วยกับ entertainment complex และให้ข้อคิดเห็นว่า คุณกลัวว่าผู้ที่จะได้ประโยชน์คือแรงงานต่างด้าวไม่ใช่แรงงานไทย
ผมฟังแล้วก็งงว่าทำไมพวกท่านถึงได้มาค้านในสิ่งที่ตัวเองเคยเสนอ เวลาเพียงแค่สองปี เมื่อพวกท่านเปลี่ยนชื่อพรรค เปลี่ยนหัวหน้า พรรคท่านยังสืบทอดความคิดจากก้าวไกลอยู่ไหม?
ในเดือน ม.ค. ปี 66 ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลยังเสนอนโยบาย “กาสิโนถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล” และ “กาสิโนออนไลน์ถูกกฎหมาย รัฐกำกับดูแล” อยู่เลย
โดยเสนอในนโยบายของก้าวไกลก็มีการจำกัดอายุ การจำกัดฐานะของผู้เล่น และให้มีการโซนนิ่งจำกัดจำนวนกาสิโน มีคณะกรรมการการพนัน ไม่ต่างจากที่เราจะทำ เพียงแค่เราไม่เห็นด้วยกับกาสิโนออนไลน์ที่ท่านเสนอ เพราะควบคุมยาก เยาวชนจะเข้าถึงง่าย สร้างปัญหาสังคมแน่นอน เราเลยตัดออกไป
และรัฐบาลตอนนี้ได้พัฒนาแนวคิดไปไกลกว่า คือเราไม่ทำแค่กาสิโน แต่จะทำให้เป็นสถานบันเทิงครบวงจร ให้มีอินดอร์สเตเดียมขนาดใหญ่ สวนน้ำสวนสนุก มิวเซียม โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์แสดงสินค้าวัฒนธรรมจะได้สร้างงาน สร้าง growth engine ในภาคการท่องเที่ยว ภายใต้มาตรฐานระดับโลก ในการป้องกันการฟอกเงิน และลดผลกระทบทางสังคม
แต่น่าเสียดายที่วันนี้พรรคที่เคลมความก้าวหน้ากว่าใคร โอบอุ้มความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม นอกจากจะกลับคำนโยบายตัวเองแล้ว ยังมาใช้ประเด็นเรื่อง “สร้างงานมาแล้วจะมีแต่แรงงานต่างด้าวมาทำงาน” เป็นเหตุผลในการต่อต้านนโยบาย วิ่งไปทางขวา หากินกับความกระเหี้ยนกระหือรือในการสร้างความเกลียดชังระหว่างชนชาติ
และถ้าได้อ่าน ร่างพ.ร.บ. มาตรา 43 (1) ที่เราเสนอก็จะเห็นว่าเรามีมาตรการควบคุมให้มีพัฒนาฝีมือแรงงานและการจ้างคนไทยอยู่แล้ว
“แทนที่จะมาถกเถียงกันเรื่องรายละเอียดของ พ.ร.บ. ทำอย่างไรให้ประเทศได้ประโยชน์ที่สุดและลดผลกระทบทางสังคมให้ได้มากสุด เหมือนในเวทีที่ผมได้พูดคุยกับคุณพริษฐ์ พอคุณกลับมาเล่นการเมืองมุมนี้น่าผิดหวังครับ” รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ระบุ
เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต


