

สาว ๆ หลายคนอาจเคยเห็น ‘ยาคุมฉุกเฉิน’ แต่อาจไม่ได้รู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งการรู้จักยาคุมฉุกเฉินแบบผิวเผิน อาจนำมาสู่การใช้งานที่ไม่ถูกต้องจนส่งผลกระทบที่ไม่ดีตามมา ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับยาคุมฉุกเฉินให้มากขึ้น เพื่อการใช้งานอย่างถูกต้อง และหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจทำให้คุณเสียใจในภายหลัง
ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร? เหมือนยาคุมปกติหรือไม่?
ยาคุมฉุกเฉิน เป็นยาที่ใช้คุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน มักใช้หลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งตัวยาจะประกอบไปด้วยฮอร์โมนขนาดสูง ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะกับการตั้งครรภ์ เช่น การระงับการตกไข่ หรือขัดขวางการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิ เป็นต้น
ซึ่งจะแตกต่างจากยาคุมปกติทั่วไปที่ใช้เพื่อคุมกำเนิดหรือใช้เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ โดยที่ยาคุมฉุกเฉินจะมาในรูปแบบ 1-2 เม็ดเท่านั้น แต่ยาคุมทั่วไปจะต้องรับประทานทุกวัน หรือเกือบทุกวันขึ้นกับชนิดและยี่ห้อยาคุม
อีกทั้งปริมาณของฮอร์โมนของยาคุมปกติและยาคุมฉุกเฉินก็แตกต่างกัน โดยที่ยาคุมปกติจะมีปริมาณฮอร์โมนที่ต่ำกว่ายาคุมฉุกเฉิน ซึ่งปริมาณฮอร์โมนนี้เองที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงต่างกัน และแน่นอนว่ายาคุมฉุกเฉินที่มีปริมาณฮอร์โมนสูงมากจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่า
ด้วยเหตุนี้เอง การใช้ยาคุมฉุกเฉินจึงเป็นยาที่เหมาะสำหรับใช้ในเหตุฉุกเฉินเท่านั้น และเราไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินแทนยาคุมปกติ เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียงมากและอาจส่งผลให้การคุมกำเนิดไม่มีประสิทธิภาพในอนาคต
ข้อดีของยาคุมฉุกเฉิน ที่คุณควรรู้
หากใช้ถูกวิธี… ยาคุมฉุกเฉินมีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
- ใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น การถูกข่มขืน ถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือการคุมกำเนิดตามปกติมีข้อผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยหลุด ถุงยางอนามัยฉีกขาด ควรกินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วสุด ภายในเวลา 72 ชั่วโมง
- ใช้งานง่าย สามารถรับประทานได้ทันที
- สามารถซื้อยาคุมฉุกเฉินได้ตามร้านขายยาทั่วไป
- เป็นยาที่รับประทานในระยะสั้น ไม่ต้องรับประทานติดต่อกันหลายวัน
การออกฤทธิ์ของยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาฮอร์โมนขนาดสูงที่ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิสนธิ (Fertilization) หรือขัดขวางไม่ให้ตัวอ่อนเกิดการฝังตัว (Implantation) กับโพรงมดลูกจนเกิดการตั้งครรภ์ โดยตัวยาจะประกอบไปด้วยฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสติน* ที่สังเคราะห์เลียนแบบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน เมื่อในกระแสเลือดมีระดับฮอร์โมนนี้สูง จะทำให้กระบวนการตกไข่เกิดความล่าช้าออกไป
ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ตามปกติจะทำให้อสุจิอยู่ภายในมดลูก และสามารถมีชีวิตอยู่ภายในมดลูกนานสูงสุด 5 วัน การเลื่อนการตกไข่ออกไปจะทำให้ไข่ไม่เจอกับอสุจิ จึงเป็นการป้องกันการปฏิสนธิขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเลื่อนการตกไข่ไปแล้ว ตัวยายังอาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์อีก เช่น การเพิ่มความข้นของเมือกเพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิว่ายไปหาไข่ได้ หรือเป็นการปรับให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน
อย่างไรก็ตาม หากตัวอ่อนฝังตัวที่โพรงมดลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การใช้ยาคุมฉุกเฉินจะไม่สามารถยับยั้งการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นการใช้ยาคุมฉุกเฉิน จำเป็นจะต้องรับประทานให้เร็วที่สุดหลังการคุมกำเนิดปกติผิดพลาด ยิ่งรับประทานล่าช้า ประสิทธิภาพในการป้องกันยิ่งต่ำนั่นเอง
*ยาคุมฉุกเฉินมีหลายประเภท แต่ยาคุมฉุกเฉินในไทยนิยมใช้ประเภทฮอร์โมนเดี่ยวโปรเจสติน
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน ที่ต้องพิจารณาก่อนใช้
ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนเพศสูงกว่ายาคุมทั่วไป เมื่อร่างกายได้รับปริมาณฮอร์โมนสูงมาก ๆ ย่อมก่อให้เกิดผลข้างเคียงมากเช่นกัน โดยผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปเมื่อใช้ยาคุมฉุกเฉินมีดังนี้
- ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้อง มีเลือดออกกะปริบกะปรอย
- หน้าอกคัดตึง
- ประจำเดือนมาเร็วหรือล่าช้ากว่าปกติ
หากใช้ยาคุมฉุกเฉินไม่ถูกต้อง เช่น ใช้หลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยล่าช้าเกินไปกว่า 72 ชั่วโมง อาจทำให้การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่เป็นผล หรือหากกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ลดลงแล้ว ยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือเกิดความผิดปกติอื่นของระบบสืบพันธุ์ได้อีกด้วย
กินยาคุมฉุกเฉินให้ถูกวิธี ลดโอกาสตั้งครรภ์ไม่พร้อม
ถึงแม้ว่ายาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะเป็นยาที่หาซื้อง่ายตามร้านขายยา แถมเป็นยาที่กินเพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังไม่ทราบการใช้ยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องจนนำไปสู่การป้องกันการตั้งครรภ์ล้มเหลว ในหัวข้อนี้เราไปดูกันว่าวิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องจะต้องกินอย่างไร?
- สำหรับยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด : ให้รับประทานทันที หรือโดยเร็วที่สุดไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
- สำหรับยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด : ยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรก ให้รับประทานทันที หรือโดยเร็วที่สุดไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเม็ดที่สองให้รับประทานหลังกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง หรือกินพร้อมกัน 2 เม็ดในครั้งเดียวก็ได้
จริงหรือไม่? ที่เขาบอกว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ควรกินเกิน 2 ครั้งในชีวิต
การใช้ยาคุมฉุกเฉินนั้นควรจะใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น แต่ในชีวิตหนึ่งเราสามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 ครั้งได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ หรือใช้ติด ๆ กันจะทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันลดลง พร้อมกับผลข้างเคียงที่รุนแรง เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีปริมาณฮอร์โมนที่สูง การที่ร่างกายได้รับปริมาณฮอร์โมนสูงบ่อย ๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพอื่น ๆ ได้ เช่น ความผิดปกติของโพรงมดลูก เป็นต้น
ยาคุมฉุกเฉิน… ใช้ได้ แต่ไม่ควรใช้บ่อย
ถึงแม้ว่ายาคุมแุกเฉินจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่การใช้ยาคุมฉุกเฉินนั้นจะต้องใช้อย่างถูกต้องเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น หากใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ เกินควร นอกจากจะทำให้การป้องกันไม่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย
ปรึกษาการคุมกำเนิดและการใช้ยาคุมฉุกเฉินได้ที่แอปพลิเคชัน BeDee ศูนย์รวมบริการด้านสุขภาพปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ฟรีค่าจัดส่งยาถึงบ้าน หรือสั่งซื้อยากับเภสัชกรที่แอป BeDee ได้ทุกวันถึงเที่ยงคืน ดาวน์โหลด BeDee คลิก https://bit.ly/4btcZSY