

รถไฟไหม้ เป็นอีกหนึ่งอุบัติเหตุที่คนมีรถไม่อยากให้เกิด แต่รู้กันหรือไม่ว่า หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ในราคาสุดคุ้ม กับค่าเบี้ยเริ่มต้น 750 ต่อเดือน ก็ให้ความคุ้มครองในกรณีนี้เหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่า มีประกันชั้นไหนอีกบ้างที่ให้ความคุ้มครองกรณีไฟไหม้ และบริษัทจะรับผิดชอบในรูปแบบไหน เราจะมาอธิบายให้ได้เข้าใจกันเอง
ประกันชั้นไหนบ้างที่คุ้มครองกรณีไฟไหม้
ประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองรถไฟไหม้ จะมีทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
- ประกันรถยนต์ชั้น 1 : ให้ความคุ้มครองเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดกับตัวรถทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการเฉี่ยวชนจนพลิกคว่ำแล้วเกิดไฟไหม้ขึ้นมา การโดนไฟไหม้ลุกลามจากอุบัติเหตุรอบข้าง หรือเกิดเหตุขัดข้องเกี่ยวกับระบบสายไฟจนเกิดเพลิงลุกไหม้ ก็จะได้รับความคุ้มครองด้วยเช่นกัน
- ประกันรถยนต์ชั้น 2+ : ให้ความคุ้มครองเหมือนกับประกันชั้น 1 ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ หรือจอดทิ้งไว้เฉยๆ แล้วเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา ก็จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์
รถไฟไหม้ประกันรับผิดชอบยังไง
โดยส่วนมาก บริษัทประกันรถยนต์ มักจะมีเกณฑ์พิจารณาในการเคลมประกันไฟไหม้อยู่ 2 กรณี ซึ่งก็คือ ความเสียหายแบบซ่อมได้ และความเสียหายหนักมากจนซ่อมไม่ได้ โดยจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป ตามนี้
เสียหายสามารถซ่อมได้
หากเป็นความเสียหายที่สามารถซ่อมแซมได้ ในกรณีนี้ ผู้ทำประกันสามารถเลือกได้ว่า จะซ่อมให้กลับมามีสภาพเหมือนเดิม เปลี่ยนเป็นคันใหม่ในรุ่นเดียวกัน หรือขอรับเงินสินไหมทดแทนเป็นเงินสดก็ได้ อยู่ที่การตกลงกันระหว่างผู้ทำประกันกับบริษัทประกันภัย ซึ่งค่อนข้างจะมีความยืดหยุ่นพอสมควร
เสียหายหนักจนซ่อมไม่ได้
แต่ในกรณีที่เสียหายหนักเกิน 70% ของมูลค่าตัวรถ และไม่คุ้มกับค่าซ่อมในการนำกลับมาใช้งาน ทางบริษัทประกันภัยจะชดเชยให้เต็มจำนวนของทุนประกัน ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยทางผู้ทำประกัน จะต้องโอนกรรมสิทธิ์ให้บริษัทประกันเพื่อตีขายเป็นราคาซากไป หรือหากอยากจะเป็นไว้ขายเอง ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่อาจจะได้เงินชดเชยลดลงจากทุนประกันที่ทำไว้
ต้องบอกว่า ความคุ้มครองรถไฟไหม้ เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขที่ค่อนข้างจะคุ้มค่า เพราะต้องไม่ลืมว่า เหตุเพลิงไหม้ไม่ได้เกิดแค่เพียงการเฉี่ยวชนจนพลิกคว่ำเท่านั้น แต่ในบางครั้ง การนำรถไปจอดใต้อาคาร หรือสถานที่สาธารณะ แล้วเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมาแบบไม่คาดฝัน รถเราก็มีโอกาสเกิดความเสียหายตรงนี้ด้วยเช่นกัน ทำประกันรถยนต์เอาไว้ยังไงก็อุ่นใจกว่าแน่นอน