พ่อเมืองภูเก็ต สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง สนธิกำลังฝ่ายความมั่นคง บุกรวบตัวผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ผิดกฎหมายในพื้นที่เมืองภูเก็ต

พ่อเมืองภูเก็ต สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง สนธิกำลังฝ่ายความมั่นคง บุกรวบตัวผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ผิดกฎหมายในพื้นที่เมืองภูเก็ต เน้นย้ำ บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากพบเบาะแสแจ้งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ทันที

วันนี้ (16 ก.ค. 67) นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการดำเนินการของชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต หลังจากได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดภูเก็ตว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ผิดกฎหมายให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต ตนจึงได้มอบหมายให้ นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดภูเก็ต สั่งการ นายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเมืองภูเก็ต บูรณาการกำลังกับ นายอัครา สุวัตถิกุล ป้องกันจังหวัดภูเก็ต นายหิรัณย์ หีดจันทร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองภูเก็ต และสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ตและอำเภอเมืองภูเก็ต นำหมายศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจค้นร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 1 ราย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษได้ทำบันทึกการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากจังหวัดภูเก็ตได้รับแจ้งผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ผิดกฎหมายในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต ตนจึงได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ผลปรากฏว่าพบผู้กระทำผิดจริงจำนวน 1 ราย พร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ผิดกฎหมายจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดดังกล่าวทั้งสิ้น 4 ข้อ ดังนี้ 1.มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี หรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 203 2.ขายหรือมีไว้เพื่อการขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 204 3.มีการซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิด ตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 4 แห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กําหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนําเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 และ 4.ขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าห้ามขาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ได้ทำบันทึกการจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาดังกล่าวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในช่วงท้ายว่า ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก ซึ่งจังหวัดภูเก็ตได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าในทุกพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายผู้สูบเป็นอย่างมาก อาทิเช่น การก่อให้เกิดมะเร็งปอด เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและโรคปอดอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อทั้งตัวผู้สูบ ครอบครัว และชุมชนในระยะยาวอย่างแน่นอน จึงต้องดำเนินการจับกุมอย่างจริงจังและเด็ดขาด ทั้งนี้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนในความร่วมมือร่วมใจ และขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานด้วยความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม ในฐานะผู้ทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” และรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย เป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อให้ทุกคนในสังคมได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยเป็นหูเป็นตา ระแวดระวังบ้านเมืองของเรา หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข