ผู้ว่าฯสกลนคร สั่งการนายอำเภอส่องดาวและสว่างแดนดิน สนธิกำลังจับกุมผู้เกี่ยวข้องยาเสพติด 2 ราย พร้อมเดินหน้าทุกมาตรการเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยกับประชาชน
ผู้ว่าฯสกลนคร สั่งการนายอำเภอส่องดาวและสว่างแดนดิน สนธิกำลังจับกุมผู้เกี่ยวข้องยาเสพติด 2 ราย พร้อมเดินหน้าทุกมาตรการเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยกับประชาชน เน้นย้ำ ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสผ่าน สายด่วน 1567
วันนี้ (9 ก.ย. 67) นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า จังหวัดสกลนครมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนแนวทางเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ด้วยการนำนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและเสริมสร้างความผาสุกของบ้านเมือง มาดำเนินการ ด้วยกลไกชุดปฏิบัติการพิเศษระดับจังหวัดและชุดปฏิบัติการพิเศษระดับอำเภอ ด้วยการบูรณาการกำลังฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ควบคู่การใช้กลไกพื้นที่ทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านตลอดจนพี่น้องประชาชนเป็นองคาพยพในการทำให้พื้นที่ทุกอำเภอของจังหวัดสกลนคร เป็นพื้นที่แห่งความปลอดภัย พื้นที่แห่งความสุขของประชาชน
“ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้มีการมอบหมายให้ นายวิชาญ ดาทุมมา นายอำเภอส่องดาว บูรณาการร่วมนายสมชาย จันทร์งาม นายอำเภอสว่างแดนดิน นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 2 ราย รายที่ 1 สามารถจับกุมบุคคลเพศชาย ชื่อเละ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 39 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2,026 เม็ด ได้ที่บริเวณหลังบ้านเลขที่ 47 หมู่ 12 ต.ท่าศิลา อ.ส่องดาว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย” และรายที่ 2 สามารถจับกุมบุคคลเพศชายชื่อ แอม (นามสมมุติ) อายุประมาณ 42 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 195 เม็ด ได้ที่บริเวณสวนมันสำปะหลังด้านทิศตะวันตกของบ้านท่าดินแดงพัฒนา หมู่ 12 ต.ท่าศิลา อ.ส่องดาว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ”เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย“ โดยได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 รายทำบันทึกจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ส่องดาว ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นายชูศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม
นายชูศักดิ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า พนักงานฝ่ายปกครอง ตลอดจนทุกส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ให้ความสำคัญ ในการดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการเริ่มต้นที่ตัวข้าราชการและพนักงานของรัฐทุกประเภท ต้องไม่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับยาเสพติดทุกชนิด พร้อมทั้งเดินหน้ามาตรการปราบปราม ผู้ค้ายาเสพติด อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ควบคู่มาตรการป้องกันด้วยการเสริมสร้างองค์ความรู้และสร้างภาคีเครือข่ายเฝ้าระวังยาเสพติด ในส่วนของผู้เสพก็นำเข้าสู่กระบวนการรักษาตามกระบวนการและขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและความผิดทุกประเภทได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
