คอสตาริกา : อดีตม้ามืดที่พร้อมสร้างความปั่นป่วนให้กรุ๊ปออฟเดธ

คอสตาริกา : อดีตม้ามืดที่พร้อมสร้างความปั่นป่วนให้กรุ๊ปออฟเดธ

“ลอส ติกอส” คอสตาริกา สร้างตัวเองขึ้นมากลายเป็นขาประจำของฟุตบอลโลก หลังผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นอีกครั้งที่เขาต้องอยู่ในกลุ่มที่หนัก เพราะต้องเจอทั้ง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี แชมป์เก่า 4 สมัย, “กระทิงดุ” สเปน อดีตแชมป์ 1 สมัย รวมถึง “ซามูไรบลู” ญี่ปุ่น ทีมยักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชีย

นับเป็นครั้งที่ 6 แล้วที่พวกเขาสามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายได้ โดยผลงานที่ดีที่สุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 ซึ่งครั้งนั้นพวกเขาอยู่กลุ่มหนัก ต้องเจอทั้ง อิตาลี และ อังกฤษ รวมถึงอุรุกวัย แต่ก็สามารถแทรกตัวผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะไปจบเส้นทางในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ผลงานในรอบคัดเลือกของคอสตาริกา ดูจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบเท่าไหร่ เมื่อไปหลุดพ่ายให้กับแคนาดาในเดือนพฤศจิกายน 2021 แต่ก็กลับมาเก็บชัยชนะ 6 จาก 7 เกมสุดท้าย แย่งตำแหน่งเพลย์ออฟจากปานามาได้สำเร็จ ก่อนที่จะไปเอาชนะนิวซีแลนด์ ในรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป คว้าตั๋วสู่กาตาร์ได้สำเร็จ

ทีมชุดนี้ของคอสตาริกา ต้องบอกว่ากำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย ผู้เล่นหลายคนอายุเข้าหลัก 3 กันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเคย์เลอร์ นาวาส หรือ ไบรอัน รุยซ์ รวมถึงกองหน้าที่พาทีมซิวตั๋วมาครองอย่าง โจเอล แคมป์เบลล์ ดังนั้นพวกเขาพร้อมจะปล่อยพลังกันอย่างเต็มสูบเป็นครั้งสุดท้าย อีกทั้งการจับมาอยู่ในกลุ่มแห่งความตายอีกครั้ง อาจจะทำให้พวกเขาสร้างเซอร์ไพรส์เหมือนที่เคยทำได้ก็ได้

Advertisement

กุนซือของพวกเขาคือ หลุยส์ เฟอร์นันโด ซัวเรซ ชาวโคลอมเบีย วัย 62 ปี ซึ่งผลงานในอดีตเคยพาเอกวาดอร์เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อปี 2006 รวมถึงยังพาฮอนดูรัส ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายได้เมื่อปี 2017 ซึ่งเขาเป็นคนกู้สถานการณ์ของคอสตาริกาจนกลับมาคว้าตั๋วได้สำเร็จ

ส่วนผู้เล่นที่น่าสนใจ แม้ว่าชื่อของเคย์เลอร์ นาวาส จะติดหูคนทั่วๆ ไป แต่ก็มีดาวรุ่งขึ้นมาใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันอย่าง เจวิสัน เบนเนตต์ ปีกซ้ายวัย 18 ปี ซึ่งเรียกว่าเป็นยุคใหม่ของคอสตาริกาเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันนี้เล่นให้กับซันเดอร์แลนด์ ทีมในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ของอังกฤษ ซึ่งมีจุดเด่นคือความเร็วและการเลี้ยงบอล ที่พร้อมสร้างปัญหาให้กับแบ๊กของฝั่งตรงข้ามเสมอ จึงทำให้น่าจับตามองในฟุตบอลโลกครั้งนี้

โปรแกรมของทีมชาติคอสตาริกา
23 พฤศจิกายน พบ สเปน ที่อัล ธูมาม่า สเตเดียม เวลา 23.00 น.
27 พฤศจิกายน พบ ญี่ปุ่น ที่อาห์มัด บิน อาลี สเตเดียม เวลา 17.00 น.
1 ธันวาคม พบ เยอรมนี ที่อัล บายัต สเตเดียม เวลา 02.00 น. (เช้ามืดวันที่ 2 ธันวาคม)

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image