จอดป้ายประชาชื่น : ดอกเบี้ยรอบวัดใจ

อีกประมาณ 1-2 วัน ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)      จะประชุมรอบเดือนธันวาคมเพื่อเคาะว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ถือเป็นนัดวัดใจว่า กนง.จะลงมติคะแนนเสียงอย่างไร

ถ้าย้อนดูการประชุมรอบที่ผ่านๆ มา จะเห็นว่าช่วงต้นปี คะแนนเสียงเริ่มแตก 6:1 โดย 6 เสียงมองว่ายังไม่ควรขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนอีก 1 เสียงมองว่าควรขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ต่อมาเพิ่มเป็น 5:2 และล่าสุดคือมีการลงคะแนน 4:3 สะท้อนว่าเสียงคณะกรรมการที่มองว่าควรขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม ถ้าดูการขยายตัวของเศรษฐกิจไม่ได้มีความกังวลอะไรหาก กนง.จะขึ้นดอกเบี้ย แต่สิ่งที่ทำให้นักการเงินและนักเศรษฐศาสตร์มองต่างกัน คืออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีไตรมาส 3/2561   ที่ขยายตัวต่ำเพียง 3.3% ประกอบกับเงินเฟ้อที่ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในกรอบที่วางไว้

เจ้าแรก ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ อีไอซี ออกมาประกาศแต่เนิ่นๆ ว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบเดือนธันวาคมนี้ 1 ครั้ง และปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2562 อีกประมาณ 2 ครั้ง ในอัตราครั้งละ 0.25% ถือว่าเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น และ ธปท.อาจผสมผสานการขึ้นดอกเบี้ยกับการใช้มาตรการดูแลเสถียรภาพการเงินเฉพาะจุดเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงของเสถียรภาพระบบการเงินจากภาวะดอกเบี้ยในระดับต่ำยาวนาน อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า ธปท.อาจไม่ขึ้นดอกเบี้ยในรอบเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เนื่องจากอาจจะเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเมืองช่วงเลือกตั้ง

Advertisement

สอดคล้องกับทาง สมาคมตราสารหนี้ไทย รายงานดัชนีคาดการณ์ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 74 เพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้วที่ระดับ 54 ขณะที่ สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย มองว่า กนง.ควรรอตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ซึ่งจะออกมาในช่วงต้นปีหน้าก่อนจะเป็นจังหวะเหมาะสมกว่า

ต้องมารอลุ้นกันว่าทาง กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยเลยหรือไม่ เพราะอีกประเด็นที่ตลาดกังวลคือ 1.หากจะขึ้นดอกเบี้ย จะต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง 2.ช่องว่างหรือความห่างของดอกเบี้ยไทยกับดอกเบี้ยสหรัฐ และ 3.ช่วงเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หากมีการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจจะถูกโยงกับเรื่องการเมืองได้

จับตาในวันที่ 19 ธันวาคม ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

Advertisement

พรพินันท์ จันทอุดม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image