ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
พระศรีสรรเพชญ์ กรุงศรีอยุธยา ประวัติศาสตร์ไทยบอกว่าถูกไฟคลอกเผาทำลายย่อยยับ เมื่อกรุงแตก พ.ศ. 2310 (250 ปีมาแล้ว)
แต่พบหลักฐานใหม่ว่ากองทัพอังวะ ไม่ได้เอาไฟเผาลอกทอง เพราะเศียรพระศรีสรรเพชญ์ขนาดมหึมาตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
หลักฐานแท้จริงอย่างไร? ทางการไม่เคยแบ่งปันเผยแพร่สู่สาธารณชน แต่หนังสือพระศรีสรรเพชญ์ โดย ดร. รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล เล่มนี้ มีเปิดเผยแบ่งปันมากที่สุดกว่าเล่มอื่นใดในปฐพีเท่าที่ผมเคยอ่าน
อังวะเผาลอกทองพระศรีสรรเพชญ์จริงหรือ?
หลักฐานร่วมสมัยไม่บอกว่าเมื่อกองทัพกรุงอังวะเข้าพระนครได้แล้วกระทำอะไรกับพระศรีสรรเพชญ์?
ส่วนที่กล่าวถึงพระศรีสรรเพชญ์ชำรุดเพราะถูกไฟเผาเป็นเอกสารเขียนสมัยหลังมากๆ จากเหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2310 จึงเป็นปัญหาว่าพระศรีสรรเพชญ์ชำรุดมากน้อยเพียงใด
ดร. รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล ไม่เชื่อว่าจะมีการเผาลอกทองที่หุ้มพระศรีสรรเพชญ์จนพระพุทธรูปชำรุด เพราะ
- ต้องใช้ความร้อนมากกว่า 1,064 0C เป็นอุณหภูมิที่สูงมากเกินกว่ามนุษย์จะทนได้ เพื่อเผาหลอมลอกทองจากพระศรีสรรเพชญ์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริดหุ้มทอง มีโลหะสำคัญ ประกอบด้วยดีบุกผสมทองแดง และทองคำ
ความร้อนขนาดนี้จะต้องใช้เชื้อเพลิงจำนวนมากเพียงใด กองทัพอังวะสามารถควบคุมความร้อนได้มากน้อยเพียงใดที่จะไม่ทำให้ทองแดงหลอมละลายออกมาปนกับทอง
- ถ้าเผาจนองค์พระชำรุด เหตุใดผนังพระวิหารหลวงไม่พังทลาย หรือต้องมีสภาพเหมือนผนังด้านในเตาเผาภาชนะที่ผ่านความร้อนสูงมาแล้ว
จากในรายงานการขุดค้นทางโบราณคดี (ของกรมศิลปากร) ที่ฐานชุกชีพระศรีสรรเพชญ์ เหตุใดจึงไม่พบชั้นดินที่ถูกเผาบริเวณฐานชุกชี ซึ่งอาจต้องใช้ความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงมาก
ไม่ได้เผาลอกทอง แต่เผาสัญลักษณ์
ดร. รุ่งโรจน์เชื่อว่าพระศรีสรรเพชญ์อย่างไรก็ต้องถูกเผา ซึ่งไม่ได้เผาเพื่อลอกทอง แต่เผาทำลายสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์สมัยอยุธยา หรือนัยหนึ่งคือทำลายขวัญของกรุงศรีอยุธยา แล้วอธิบายต่อไปอีกว่า
“กองทัพกรุงอังวะคงจะเผาวิหารหลวงวัดพระศรีสรรเพชญ์ ทำให้องค์พระศรีสรรเพชญ์เกิดความชำรุด ซึ่งเมื่อเครื่องบนหลังคาวิหารหลวงทลายลงมา ย่อมที่จะกระทบกระเทือนกับองค์พระพุทธรูป
นอกจากนี้ พระยาโบราณราชธานินทร์ ได้อธิบายว่าภายหลังผนังพระวิหารพังทับองค์พระก็ชำรุดแตกแยกร้าวราน ผนังที่ท่านเจ้าคุณว่านั้นน่าจะหมายถึงผนังด้านหลังขององค์พระพุทธรูปนี้เอง
จากหลักฐานพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่จะต้องมีเหล็กยึดพระปฤษฎางค์กับผนังอาคารเสมอ ถ้าสมมติว่าผนังพระวิหารหลวงได้ล้มทลายไปทางด้านหลัง ก็จะดึงให้องค์พระพุทธรูปล้มไปทางด้านหลังด้วย ส่วนพระเศียรก็มีสิทธิ์ที่จะหลุดตกลงไปในช่องว่างหลังท้ายจระนำได้”
สงครามคราวเสียกรุง ปี พ.ศ. 2310 เป็นสงครามครั้งใหญ่ที่ทำให้ราชอาณาจักรศรีอยุธยาล่มสลาย และสร้างความเสียหายให้แก่พระศรีสรรเพชญ์เป็นอย่างมาก
เหตุใดไม่ชะลอพระศรีสรรเพชญ์กลับไปอังวะ
สาเหตุที่กองทัพอังวะไม่ชะลอพระศรีสรรเพชญ์ไปกรุงอังวะ ดร. รุ่งโรจน์บอกว่าเป็นเพราะโครงสร้างของพระวรกายพระศรีสรรเพชญ์ที่มีแกนอิฐอยู่ด้านในจึงยากต่อการเคลื่อนย้าย
มีทางเลือกเดียวคือต้องทำให้พระศรีสรรเพชญ์ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของกรุงศรีอยุธยาชำรุดเสียหาย
ส่วนพระพุทธรูปบางองค์ซึ่งมีความสำคัญน้อยกว่าพระศรีสรรเพชญ์ กองทัพกรุงอังวะก็ปล่อยชำรุดปรักหักพังไปตามสภาพ เช่น พระมงคลบพิตรและพระโลกนาถ เป็นต้น