⦁….ฟังเสียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่ายยาวในงาน “ต่อต้านการค้ามนุษย์” ถึง “ความรู้สึกต่อความเป็นไปของประเทศ” คล้ายกับว่า “ยังไม่มั่นใจต่อสถานการณ์หลังเลือกตั้ง” พร้อมคำสัมภาษณ์แสดงความเป็นห่วงว่า “จะเริ่มบรรทัดฐานตั้งแต่การเลือกตั้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเข้าไปเป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน” เป็นคำที่ทำให้คิดถึง “รัฐบาลแห่งชาติ” ในความหมายที่ “ทำงานร่วมกันโดยไม่แบ่งฝ่าย”
⦁….คล้ายกับว่า หลังเข้ามาใช้อำนาจจัดการประเทศมา 1,294 วัน ด้วยเหตุแห่ง “ความแตกแยกภายในประเทศที่ขยายสู่ความรุนแรง” ถึงวันนี้ กระทั่ง “การปลดล็อกพรรคการเมือง” ที่ “เตรียมสู่การเลือกตั้ง” ยังเป็นเรื่องที่ “ทำใจยาก” สำหรับ “พล.อ.ประยุทธ์” ที่ยังมองเห็นร่องรอยของ “ความขัดแย้ง” ที่พร้อมจะระเบิดกลายเข้าสู่ “สถานการณ์เก่าก่อนรัฐประหาร” ความกังวลนี้ก่อให้เกิด “ความไม่มั่นใจ” ที่จะให้ “เสรีภาพทางการเมือง”
⦁….อย่างไรก็ตาม อารมณ์เรียกหา “ประชาธิปไตย” ของผู้คนเดินหน้าไปไกลแล้ว ผลสำรวจของทุก “สำนักโพล” ยืนยันไปในทิศเดียวกันคือ “ปรารถนาการเลือกตั้ง” ที่การแสดงออกมีเฉพาะในทางกลุ่มนั้น เพราะ “คนส่วนใหญ่” วางใจไว้ที่ “รอ” อัน “พล.อ.ประยุทธ์” ประกาศไว้ล่าสุดว่าจะจัดให้มีขึ้นในเดือน “กุมภาพันธ์ 2562” หากความกังวลนั้นทำให้ต้องเลื่อนไปอีก “เหตุผลคงจะต้องแน่น และแสดงให้เห็นถึงความจำเป็น” มากกว่า “เลื่อนไปตามแต่ใจที่อยากเลื่อน”
⦁….แม้จะเป็น “เลือกตั้ง” ที่จะทำให้เกิด “รัฐสภา” ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่า “โครงสร้างอำนาจไม่ให้ความสำคัญกับการยึดโยงประชาชนสักเท่าไร” แต่เพราะดูจะไม่มีทางเลือกอื่น ทำให้ “นักการเมืองจากการเลือกตั้ง” ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการรอคอยที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในรัฐสภาให้ได้ก่อน หลังจากนั้น จะทำอะไรได้ หรือจะเกิดอะไรขึ้น ค่อยว่ากันเป็นเรื่องๆ
⦁….ทว่า นั่นเป็น “บทบาทของนักการเมืองแบบเก่าๆ” เท่านั้น สำหรับ “คนรุ่นใหม่กลุ่มหนึ่งที่รวมตัวตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา” กลับแสดงความชัดเจนว่า “ไม่รับโครงสร้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ประกาศนโยบายกันโต้งๆ ว่าจะเข้าไป “เปลี่ยนแปลง” ถ้ามีโอกาส สร้างจุดขายให้เห็นว่า “จะปล่อยประเทศให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้” ซึ่งท้าทายไม่น้อยว่า “ความเด็ดเดี่ยว” แบบนั้นสังคมไทยจะเอาด้วยหรือไม่
⦁….หลัง “หลั่งน้ำตา ตระบัดสัตย์” แม้แฟนคลับที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง จะซาบซึ้งในความเสียสละของ “ลุงกำนัน” แต่กระแสในโลกออนไลน์ ดูจะเข้มข้นไปในทางมอง สุเทพ เทือกสุบรรณ ไปในทาง “เย้ยหยัน” และ “สิ้นศรัทธา” เสียมากกว่า ย่างหันไปดู “ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค” ที่แทบไม่เห็นหัว “แกนนำ กปปส.สายพรรคประชาธิปัตย์” แม้แต่คนเดียว ยกเว้น “ญาติสายตรงของเทพเทือก” ยิ่งทำให้คิดกันไปใหญ่ ว่า “น้ำตาที่อาบแก้ม” นั้น เพราะซาบซึ้งใจใน “เพื่อนร่วมชะตากรรม” ทั้งหลายใช่หรือไม่
⦁….เลือกตั้งเที่ยวนี้ ภาพที่ตัดกันชัด แล้วมีแนวโน้มจะปะทะกันทางความคิดแบบ “ตาต่อตาฟันต่อฟัน” น่าจะเป็น “พรรคอนาคตใหม่” ที่นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” ที่มี “เทพเทือก” เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ และมี เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นนักแสดงชูโรง ดูจาก “นโยบาย” และ “แนวคิด” ของพรรค ผลการเลือกตั้งที่ออกมาว่า “พรรคไหนได้คะแนนนิยมมากกว่า” จะบอกได้ว่า “อนาคตของประเทศ จะก้าวไปในทิศทางไหน”
⦁….ปี่กลอง “เลือกตั้งทั่วไป” ที่กระหึ่มขึ้น ย่อมปลุกเร้าให้รู้ว่า “การเลือกตั้งท้องถิ่น” ที่ถูกดองมายาวนาน จะต้องจัดให้มีขึ้นในเร็ววัน คาดกันว่า “พฤศจิกายน” ที่จะถึงนี้ และการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะสะท้อนให้เห็นถึง “แนวโน้มการเลือกตั้งทั่วไป” ว่าจะยังเคลื่อนในวัฏจักรเดิมๆ หรือไม่
ชโลทร