เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยเงินเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติพ.ศ.2562 มีใจความสรุปว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้มีเงินเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา144(1)แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 และข้อ18 ของระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่า ด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคลของสำนักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของสำนักงานป.ป.ช. จึงออกระเบียบไว้ โดยในข้อ 4 ระบุให้ข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. ตำแหน่งนักสืบสวนคดีทุจริต และตำแหน่งเจ้าพนักงานสืบสวนคดีทุจริต ผู้ซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสืบสวนคดีทุจริตและกิจการพิเศษได้แก่การสืบสวนและการข่าวเกี่ยวกับการทุจริต การสืบสวนทั้งก่อนและหลัง การดำเนินการเพื่อสนับสนุนการไต่สวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นหรือการไต่สวน งานเก็บรวบรวมและตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานและงานรักษาความปลอดภัย การศึกษาทฤษฎีและยุทธวิธีด้านการหาข่าว การร่วมจัดทำระบบข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง รวมทั้งการติดตามศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ความเคลื่อนไหวพฤติกรรมของบุคคลกลุ่มบุคคลองค์กรหรือสื่อมวลชนที่เป็นเป้าหมายเกี่ยวกับการข่าว รวมทั้งสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกประเทศเพื่อจัดทำรายงานและประเมินสถานการณ์ข่าวกรองที่เกี่ยวกับการทุจริตการติดตามบุคคลตามหนังสือเรียกตัวเป็นพยานและบุคคลที่ถูกหมายของศาลการคุ้มครองพยานการรักษาความปลอดภัยของบุคคลสำคัญอาคารสถานที่และทรัพย์สินของสำนักงานป.ป.ช.จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้นจัดทำสถิติรายงานฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศเกี่ยวกับงานการข่าวเพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ รวมถึงการดำเนินการหรือประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจับ การควบคุมตัวการคุมขังและการปล่อยชั่วคราวผู้ถูกกล่าวหารวมทั้งการค้นยึดหรืออายัดเอกสารทรัพย์สินหรือ พยานหลักฐานและการริบทรัพย์สินเป็นตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษและได้รับเงินเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษในอัตราเดือนละ5,500บาท
ข้อ5ข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งได้รับเงินเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบนี้จะต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งนักสืบสวนคดีทุจริตหรือตำแหน่งเจ้าพนักงานสืบสวนคดีทุจริตและต้องได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสืบสวนคดีทุจริตและกิจการพิเศษเพียงหน้าที่เดียวโดยต้องมีคำสั่งมอบหมายให้ปฏิบัติงานดังกล่าวอย่างชัดเจน และต้องปฏิบัติงานจริงและมีระยะเวลาการปฏิบัติงานดังกล่าวไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนวันทำการในเดือนนั้น