09.00 INDEX จังหวะ ‘พลังประชารัฐ’ ทะลวงเข้าใส่ จุดอ่อน ‘ประชาธิปัตย์’
คำประกาศปักธงลงสนามท้องถิ่นของพรรคพลังประชารัฐ คือสัญญาณอันเฉียบคมที่จะทำให้การสัประยุทธ์ทางการเมือง ทวีความเข้มเพิ่มขึ้น
เสร็จจากศึกเลือกตั้งใหญ่เดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤศจิกายนก็จะต้องลั่นกลองรบอีก
พลันที่พรรคพลังประชารัฐประกาศจะลงทุกจังหวัดในภาคใต้ นั่นหมายความว่าการสัประยุทธ์กับพรรคประชาธิปัตย์จะต้องปะทุขึ้นในทุกพื้นที่ และพื้นที่แรกที่พรรคพลังประชารัฐจองกฐินเอาไว้แต่เนิ่นๆนั่นก็คือ พื้นที่สงขลา
ถือเป็นการเลือกสนามรบอันมากด้วยยุทธศาสตร์การเมือง
หากดูจากรายละเอียดการเลือกตั่งทั่วไป ประสานกับการจัดครม. ก็จะมองเห็นจุดประสานและรอยร้าวดำรงอยู่ในทางการเมือง
เด่นชัดจากพื้นที่กทม.และพื้นที่ภาคใต้
รูปธรรมหนึ่งซึ่งสร้างความปวดร้าวเป็นอย่างมาก คือ การที่พรรคประชาธิปัตย์สอบตกในพื้นที่กทม. อันถือว่าเป็นฐานที่มั่นของพรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน
รูปธรรมหนึ่งซึ่งสร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างสูง คือ การเข้ามาแย่งยึดในภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐ
บทสรุปหนึ่งก็คือ หากพรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์คงไม่ประสบความพ่ายแพ้ แม้กระทั่งต่อพรรคอนาคตใหม่ได้ระดับนี้
นั่นก็เพราะเป็นผลจากการเกิดขึ้นของกปปส. นั่นก็เพราะคนของกปปส.จำนวนหนึ่ง ไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ จำนวนหนึ่งไปร่วมกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ขณะเดียวกัน คนของกปปส.จำนวนหนึ่ง ที่มิได้ออกไปก็ดำรงอยู่อย่างท้าทายภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยที่พรรคประชาธิปัตย์มิอาจทำอะไรได้
ตรงนี้คือจุดอ่อนที่พรรคพลังประชารัฐทะลวงเข้าไปบดขยี้
ตัวอย่างแห่งความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ สะท้อนออกตั้งแต่การเลือกหัวหน้าพรรค ไม่ว่าในยุค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าในยุค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
ที่ดูราบเรียบขณะนี้เสมอเป็นเพียงการรักษาโดยฉาบหน้า
จุดอ่อนตรงนี้พรรคพลังประชารัฐมองออกแทงทะลุ