ผลกระทบจากสายสัมพันธ์ในครอบครัว : โดย วิภาพ คัญทัพ

ผลกระทบจากสายสัมพันธ์ในครอบครัว : โดย วิภาพ คัญทัพ

ผลกระทบจากสายสัมพันธ์ในครอบครัว : โดย วิภาพ คัญทัพ

เรื่องที่จะพูดถึงต่อไปนี้เป็นเรื่องที่พูดถึงยาก เพราะคนที่ไม่ได้เจอกับตัวเอง ย่อมไม่รู้ และฟังดูก็อาจจะไม่เข้าใจ

หรืออาจเข้าใจไปว่านี่เป็นประเด็นชวนคิดมากเกินเหตุ

แต่คนที่อยู่ในสถานการณ์นั้น ย่อมมีความทุกข์ ทุกข์ประการแรกคือ ทุกข์จากความเป็นตัวของตัวเองที่ถูกทำให้หายไป พวกเขาจะถูกสังคมเรียกว่า เป็นลูกคนนั้น เป็นพี่คนนี้ หรือเป็นน้องคนโน้น แทนที่สังคมจะสนใจว่า เขาเป็นใครและเป็นอย่างไรโดยแท้จริง

Advertisement

เมื่อเห็นว่าเขาเป็นใครและเป็นอย่างไร ก็เกิดเข้าใจไปอีกว่าเขาเป็นแบบพ่อแม่หรือพี่น้องของเขาซึ่งเป็นที่รู้จักในสังคม ยิ่งถ้าเขายินดีกระทำในสิ่งเดียวกัน เช่น เป็นนักการเมืองเหมือนกัน หรือเป็นนักเขียนเหมือนกัน ฯลฯ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่ผลงานของเขาจะปรากฏโดดเด่น

ต่างจากคนทั่วไปที่ไม่มีเงาความโดดเด่นของคนอื่นมาทาบทับอยู่ก่อนหน้า ถ้าอยากเข้าสู่เวทีการเมืองก็เดินขึ้นเวทีไปตามความสามารถที่มีอยู่ และพัฒนาความสามารถนั้นอย่างค่อยเป็นไป หากจะมีอุปสรรคมาขวางกั้นบ้างก็เป็นไปตามสภาพ

ว่าไปแล้ว กรณีเช่นนี้ คนที่ไม่เจอกับตัวเองต้องมีจินตนาการสูงจึงพอจะเข้าใจได้ เพราะเรื่องนี้ไม่ค่อยจะมีใครพูดถึง และพูดได้อย่างชัดเจน เนื่องจากคนที่ไม่เจอกับตัวเองก็คิดไปไม่ถึง ส่วนคนที่เจอกับตัวเองก็มักพูดไม่ออก หรือพูดออกแต่ก็ไม่เหมาะที่จะพูดเนื่องจากเกรงจะมีผลกระทบไปถึงญาติคนดังของเขา บ่อยครั้งก็ละเลยที่จะพูดในรายละเอียด ยิ่งทำให้สังคมมองเขาอย่างไม่ชัดเจน อาจสรุปว่าเขาเป็นคนที่ไม่น่าสนใจ ไม่มีเนื้อหาในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง สังคมมีแนวโน้มที่จะมองเช่นนั้นอยู่แล้ว ทั้งนี้ เพราะอิทธิพลจากต้นแบบในสังคม ในที่นี้หมายถึงคนดังผู้เป็นญาติของเขา

Advertisement

นอกจากนี้ แม้จะมีคนอื่นที่เข้าใจประเด็นดังกล่าว แต่หากจะพูดแทนกันก็ไม่ง่ายอีก เนื่องจากไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเพียงพอที่จะพูด

อย่างไรก็ตาม หากถามว่าเป็นเรื่องที่ควรจะพูดถึงหรือไม่ ในทางจิตวิทยาเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องพูดถึง เพราะการที่บุคคลถูกทำลายเอกลักษณ์เป็นเรื่องยากที่จะทำให้เขายืนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ส่วนในทางสังคมก็เป็นเรื่องที่ควรจะพูดถึงอย่างยิ่งเพื่อทำให้สังคมมนุษย์น่าอยู่ยิ่งขึ้น ไม่ไปทำร้ายกันทั้งโดยตั้งใจและโดยไม่ตั้งใจ

ปัญหาของเรื่องนี้คือ เขาเป็นผู้ที่ไม่ได้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องโดยตรง แต่ต้องมารับกรรมของบุคคลอื่น ซึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน ทว่าเป็นญาติที่เกิดมาในตระกูลเดียวกัน ผลกระทบนี้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเรื่องใหญ่เพียงใด ถ้าเป็นเรื่องการเมืองหรือเรื่องระดับชาติ ก็ได้รับผลค่อนข้างจะรุนแรงถึงรุนแรงมาก อย่างที่เราเห็นตัวอย่างที่เกิดกับทายาทนักการเมืองและกำลังเป็นข่าวดัง โดยเฉพาะนักการเมืองที่กำลังประสบชะตากรรมในฐานะผู้พ่ายแพ้ในสังคม ก็จะถูกตีย้ำซ้ำกระหน่ำจนบอบช้ำแทบจะหาที่ยืนในสังคมเอาไม่ได้

แต่เมื่อพวกเขาได้พบมิตรหรือคนมองเขาด้วยดี อย่างมากรางวัลที่เขาได้รับก็คือคำสรรเสริญเยินยอ ซึ่งอาจเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตของเขาได้เหมือนกัน แต่เมื่อใดไปเจอคนเกลียดชังจะส่งผลมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าคนเกลียดอยู่ในสถานะและมีบทบาทเช่นใดต่อเขา หรือเขาเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันอย่างไร เขาจะถูกกระทำในบทบาทนั้นด้วยระดับความเกลียดชังมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ เท่าที่มโนธรรมของฝ่ายตรงกันข้ามจะยับยั้งไว้ได้แค่ไหน

การพิพากษาเช่นนี้ จึงไม่ยุติธรรมกับผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เพราะนอกจากเขาจะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างไม่เต็มที่แล้ว เขายังถูกป้ายสีในสิ่งที่เขาไม่ได้เป็นหรือไม่ได้ทำขึ้นมาทั้งหมด

โคลงโลกนิติกล่าวว่า

“ปลาร้าพันห่อด้วย     ใบคา
ใบก็เหม็นคาวปลา     คละคลุ้ง
คือคนหมู่ไปหา          คบเพื่อน พาลนา
ได้แต่ร้ายร้ายฟุ้ง        เฟื่องให้เสียพงศ์”

นับว่าใกล้เคียงเรื่องที่กำลังพูดนี้ กล่าวคือ คนที่ไปคบเพื่อน แล้วเพื่อนในกลุ่มนั้นทำอะไรไม่ดี หรือไม่ได้ทำไม่ดี แต่ถูกสังคมมองว่าไม่ดีและสังคมประณาม ตัวเขาซึ่งอยู่ในกลุ่มนั้นก็พลอยถูกประณามไปด้วย คือเปรียบเหมือนเอาใบคาไปห่อปลาร้า ย่อมมีกลิ่นเหม็นคาวปลาตามไปด้วยนั่นเอง

แต่หมู่เพื่อนนั้น มนุษย์อาจหลีกเลี่ยงที่จะคบได้ แต่ถ้าเป็นญาติหรือคนในครอบครัวเดียวกัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเกิดมาในครอบครัวไหน พฤติกรรมของคนในครอบครัวนั้นย่อมส่งผลกระทบร่วมกันตลอดไป ไม่ว่ร้ายหรือดี

ที่แย่มากก็คือ ผลดีหรือผลร้ายนั้น สังคมเป็นผู้ประเมินตามการรับข้อมูลมา ไม่ได้ประเมินจากการเข้าถึงความจริง

บางทีสังคมก็อาจจะเข้าใจผิด เพราะรับข่าวสารบิดเบือนความจริงมากเกินไป ข่าวสารที่บิดเบือนความจริงมาจากไหน ก็มาจากพวกคนที่เกลียดชังนี่เอง ความน่าสารจึงเกิดขึ้นแก่คนในครอบครัวที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำโดยตรง แต่ต้องมาพลอยรับผิดชอบผลจากการกระทำนั้นไปด้วยเต็มๆ ที่แย่อย่างซับซ้อนคือ หมดสิ้นความเป็นตัวของตัวเอง กลายเป็นผู้กระทำ ทั้งที่ตนยังไม่ได้ก่อกรรมอะไรเลย… แต่ใครจะเชื่อ ค่าที่ว่าเป็นญาติสนิท หรือแม้แต่เป็นมิตรสหายกันก็ตามเถิด

เรื่องเช่นนี้มีในสังคมมนุษย์ทั้งโลก เช่น สังคมอเมริกันก็มีข่าวว่า เครือญาติของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ (ผู้ถูกลอบสังหาร) ทุกคนดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างไม่ง่าย มีข่าวว่าแคโรไลน์ลูกสาวของเขาเติบโตมาด้วยความเชื่อว่าพวกเคนเนดี้โดยเฉพาะผู้ชาย มีเป้าสังหารติดอยู่กลางหลังทุกคน

วิภาพ คัญทัพ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image