จุฬาฯ ผนึกแอ็กเซสเทรด ผุด CU SMART ENTREPRENEUR ปั้นนิสิตสู่ผู้ประกอบการ

ผศ.สรายุทธ ทรัพย์สุข ผู้ช่วยอธิการบดี งานด้านการพัฒนานิสิต และนิสิตเก่าสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันสังคมโลกกำลังเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งในแง่ของผู้ประกอบการธุรกิจ และผู้บริโภค สถาบันการศึกษาเองย่อมต้องปรับตัว เพื่อให้ผลิตบุคลากรรองรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยจุฬาฯ ร่วมกับสมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาฯ และ ACCESSTRADE โดย บริษัท อินเตอร์สเปซ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการระบบการตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย จัดทำโครงการพัฒนาธุรกิจต้นแบบสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสังคมไทย CU SMART ENTREPRENEUR เพื่อให้นิสิตที่มีความฝันอยากเป็นผู้ประกอบการ ได้ตามล่าความฝันของตัวเอง โดยมีหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เพื่อให้นิสิตมีความรู้ความเข้าใจในการทำตลาดออนไลน์ อีกทั้ง ยังมีรุ่นพี่ศิษย์เก่าที่มีประสบการณ์ในทางธุรกิจ ให้คำแนะนำ และให้คำปรึกษา

“นิสิตที่เข้ารับการอบรม สามารถลองผิดลองถูกด้วยตนเอง หรือหากล้มลง ก็ล้มเสียตั้งแต่ยังเป็นนิสิต ซึ่งคงไม่บาดเจ็บมากนัก หากเปรียบเทียบกับการออกไปล้มลุกคลุกคลานด้วยตนเองหลังจบการศึกษาไปแล้ว โครงการนี้อาศัยศักยภาพของรุ่นพี่ศิษย์เก่าที่มีประสบการณ์ในทางธุรกิจมาประกบ เพื่อให้คำปรึกษากับน้องนิสิต ซึ่งมีนิสิตให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 100 คน และสร้างผลงานที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นโครงการในเฟสแรก อาจหารือกับผู้บริหารเพื่อดำเนินโครงการเฟส 2 ต่อ โดยเปิดโอกาสให้นิสิตในสาขาอื่นที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้ หวังว่าโครงการนี้จะช่วยพัฒนาศักยภาพของนิสิตให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึง การสร้างบัณฑิตไปรับใช้สังคมทางด้านความคิด หรือวางแผนธุรกิจให้กับสังคมไทย” ผศ.สรายุทธ กล่าว

นายภัทรวุฒิ กุลจันทร์ ผู้บริหารระดับสูงสุด บริษัทอินเตอร์สเปซฯ กล่าวว่า จากข้อมูลของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ระบุว่าภายในปี 2562 คาดว่าจะใช้เงินสำหรับโฆษณาสินค้า และบริการรวมกว่า 20,163 ล้านบาท โดยแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็น Facebook และ YouTube ที่ครองสัดส่วนเม็ดเงิน 49% โดย Facebook มาอันดับ 1 มีสัดส่วน 29% คิดเป็นเงิน 5,762 ล้านบาท เติบโตจากปี 2561 ราว 17% ส่วน YouTube อันดับ 2 มีสัดส่วน 20% คิดเป็นเงิน 4,120 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดถึง 41% ถือเป็นตัวเลขที่สูง และแซงหน้าทีวีดิจิทัลแล้ว ทั้งนี้ ในจำนวนเงินโฆษณาส่วนหนึ่ง มีการนำระบบแอฟฟิลิเอต หรือระบบการตลาดออนไลน์ โดยการเป็นตัวแทน นำสินค้าของร้านค้าต่างๆ ในระบบมาขายบนเว็บไซต์ หรือบล็อก เมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ ตัวแทนจะได้ค่าคอมมิสชั่นจากการขายสินค้านั้นๆ

“ข้อดีของการทำแอฟฟิลิเอต คือไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการจัดส่งสินค้า เพียงแค่ให้ลูกค้าซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ ก็จะได้ค่าคอมมิสชั่นจากการขายสินค้านั้นแล้ว ซึ่งในมุมของร้านค้าหรือเจ้าของสินค้าเอง ที่ผ่านมามีการสร้าง Branding เพื่อให้ยอดขายกลับมา แต่ Affiliate Marketing คือ Return on Investment (ROI) ที่ช่วยให้ร้านค้าต่างๆ ในระบบของ ACCESSTRADE เกิดยอดขายจริง ทาง ACCESSTRADE เล็งเห็นความสำคัญตรงจุดนี้ จึงร่วมกับจุฬาฯ จัดโครงการ CU SMART ENTREPRENEUR ขึ้น และได้นำเอาหลักสูตรด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเข้าไปในเนื้อหาการเรียน เช่น การเขียนคอนเทนต์, การสร้าง blog, website รวมถึง เทคนิคต่างๆ ตั้งแต่พื้นฐาน จนสร้างรายได้ได้จริงจากการเรียน ควบคู่กับการทำ Affiliate Marketing โดยมีนิสิตที่นำความรู้จากการเข้าร่วมโครงการมาพัฒนา ต่อยอด จนสามารถสร้างเพจที่มีความน่าสนใจ สามารถสร้างรายได้ระหว่างเรียน และสามารถต่อยอดในอนาคตได้ พบว่านิสิตสร้างรายได้จริง เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อเดือน” นายภัทรวุฒิ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image