เห็นอาการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อประสบกับสภาวะ “สภาล่ม” 2 ครั้ง 2 คราภายในเวลาชั่วข้ามคืนแล้ว
ก็เริ่มประจักษ์ในลักษณะ “อ-เสถียร” แห่ง “อำนาจ”
เห็นอาการอันเกิดขึ้นในที่ประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบของ ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ
ก็เริ่มประจักษ์ในลักษณะ “อ-เสถียร” แห่ง “อำนาจ”
ยิ่งเห็นการเดินเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ของ ผบ.เหล่าทัพ
ก็ยิ่งประจักษ์ในลักษณะ “อ-เสถียร” แห่ง “อำนาจ”
อำนาจของรัฐบาล อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเดือนพฤศจิกายน 2562 แตกต่างไปจากอำนาจของรัฐบาล อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ใครไม่รู้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้ดีที่สุด
ไม่ว่า คสช.จะใช้อำนาจที่มีอยู่เพื่อเนรมิตรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในแบบที่พรรคพลังประชารัฐเห็นว่า “DESIGN มาเพื่อพวกเรา” อย่างไร
ไม่ว่าจะมีการใช้ “อภินิหาร” ทางกฎหมายบิดเบือน “การเลือกตั้ง” อย่างไร
ไม่ว่าจะมีความพยายามใช้ทุกกลไกที่มีอยู่เพื่อทำลายและบดขยี้พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อย่างไร
แต่ผลก็คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังเป็น “กรรมาธิการวิสามัญ”
ยังสามารถเสนอคำถามต่อการจัดทำงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสามารถตั้งข้อสังเกตได้
ไม่ว่าจะมีความพยายามกีดกันกลั่นแกล้งการแสดงบทบาทอย่างไร
แต่พรรคอนาคตใหม่ก็สามารถเสนอร่าง พ.ร.บ.ท.ทหารทันสมัยขึ้นได้ และญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญทบทวนผลกระทบจากประกาศและคำสั่งของ คสช.
อันนำไปสู่สภาวะ “สภาล่ม” อย่างที่เห็นและเป็นอยู่
สภาวะ “สภาล่ม” สะท้อนกระบวนท่าในการต่อสู้อย่างเป็นฝ่ายรุกของฝ่ายค้านอย่างมีประสิทธิภาพและทรงประสิทธิผล
เมื่อดำเนิน “ยุทธวิธี” ที่ถูกต้องก็เป็นฝ่ายกระทำ
ยิ่งฝ่ายรัฐบาลแก้เกมด้วยการงอแง 1 ไม่ยอมรับมติอันถูกต้องและชอบธรรม ขณะเดียวกัน 1 เล่นเกมให้มีการลงมติใหม่
ก็ยิ่งประสบกับการโต้กลับอย่างพิสดาร
ไม่เพียงแต่จะเห็นการยืนหยัดของ 7 พรรคฝ่ายค้านร่วม หากแต่ยังส่งผลให้เกิดรอยร้าวแตกขึ้นภายในพรรคร่วมรัฐบาล
เด่นชัดอย่างยิ่งในกรณีของ 6 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ปฏิกิริยาจากญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับประกาศและคำสั่ง คสช.จะส่งผลสะเทือนไปยังญัตติด่วนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“เดิมพัน” ทางการเมืองยิ่งมากขึ้น
ทั้งหมดไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นลักษณะ “อ-เสถียร” แห่งอำนาจเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังยืนยันในความเป็นอนิจจังแห่งอำนาจ
อำนาจที่เริ่มแปรเปลี่ยน
ความยิ่งใหญ่ที่เคยแวดล้อมอยู่โดยรอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
นี่คือลักษณะอันเป็น “มายา” นี่คือลักษณะ “อ-เสถียร”
