ที่มา | มติชนรายวัน 31 ม.ค. หน้า 4 คอลัมน์ โครงร่างตำนานคน |
---|---|
ผู้เขียน | การ์ตอง |
“วรเนติ หล้าพระบาง” เป็นรักษาการประธานผู้จัดการบริษัทไทยสมายล์แอร์เวย์
“ไทยสมายล์” เป็นบริษัทในเครือการบินไทย สายการบินแห่งชาติที่รับรู้กันว่ามีปัญหาเรื่องผลประกอบการหนักหน่วงจนน่าเป็นห่วงว่าจะบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้เป็นภาระของรัฐบาล
“ไทยสมายล์” เป็นความหวังว่าจะช่วยลดความน่าห่วงในผลประกอบการภาพรวมของการบินไทย ด้วยมีการบริหารจัดการที่คล่องตัวกว่า
แต่ก่อนหน้านั้นไม่มีคนรู้จักมากนัก กระทั่งมีประกาศให้ผู้โดยสารซื้อเก้าอี้ให้ “ลูกเทพ” นั่งได้
“ลูกเทพ” เป็นตุ๊กตาทำจากเรซิ่น มีลักษณะคล้ายเด็กจริงๆ มาก มีความเชื่อของบางคนว่าหลังจากทำพิธีปลุกเทพ จะมีจิตวิญญาณเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เป็นความเชื่อคล้ายการนับถือ “ลูกกรอก” หรือ “กุมารทอง” ของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ
หากอธิบายด้วยทฤษฎีประวัติศาสตร์ว่าด้วย “พัฒนาการทางปัญญาของมนุษย์” ก็เป็นความต่อเนื่องมาจากมนุษย์ยุคแรกๆ ที่นับถือ “ผี”
เพราะยังไม่มีความก้าวหน้าในเรื่องความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่จะอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติต่างๆ
อย่างมีเหตุผล จึงสถาปนา “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ขึ้นมาเป็นคำอธิบาย สร้างความเชื่อขึ้นมาเพื่อเป็น “ที่พึ่งทางใจ” ของคนยุคปัญญามีไม่พอที่จะเห็นสิ่งอื่นนอกจากคิดว่าเป็น “ผี”
กราบไหว้บูชา “ผี” เป็นที่พึ่ง
มาถึงยุคนี้ “ผี” ก็ยังเป็นความเชื่อในแบบ “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ในใจของคนไทยส่วนใหญ่
กระแส “ลูกเทพ” เป็นที่พึ่งทางใจของ “คนไทย” มีในแวดวงเฉพาะมานานแล้ว
แต่มากระหึ่มทำให้คนไทยโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อ “ไทยสมายล์” ออกประกาศให้ซื้อที่นั่งในเครื่องบินให้ “ลูกเทพ” หรือ “ตุ๊กตา” ที่ผ่านการปลุกเสกจนเชื่อว่า “มีวิญญาณ”
คล้าย “กุมารทอง-ลูกกรอก-รักยม” อันเป็นตำนาน “ผีเด็ก” ที่คนไทยให้ความนับถือนำมาขึ้นหิ้งบูชาได้
ในประกาศนั้นให้บริการอาหารแก่ “ตุ๊กตาปลุกเสก” เหมือนมีชีวิต
สำนักข่าวต่างประเทศ โดยเฉพาะของประเทศเพื่อนบ้านที่มีสายการบินเป็นคู่แข่งของไทย ประโคมข่าวนี้กันครึกโครม
เสียงสะท้อนที่ตามมามีหลายด้าน
กลุ่มคนที่เชื่อใน “ความศักดิ์สิทธิ์ของลูกเทพ” พากันชื่นชมยกย่องความคิดของ “ผู้บริหารไทยสมายล์”
ที่ตอบสนองให้ความเชื่อนั้นได้รับการการันตีให้เป็นระดับสากล
แต่ใน “กลุ่มที่เชื่อว่าลูกเทพมีจิตวิญญาณเช่นกัน” อีกด้าน เกิดความประหวั่นพรั่นพรึงที่จะต้องเดินทางโดยเครื่องบินภายใต้บรรยากาศพิธีบูชาลูกเทพ
ด้วยการถวายอาหารบนเครื่อง ออกมาวิพากษ์วิจารณ์จนก่อความรู้สึกขนลุกฟูเมื่อนึกถึง
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่เห็นว่าเป็นเรื่อง “งมงาย” ได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงถึงสติปัญญาในการบริหารจัดการ
เลยเถิดไปถึงการชี้ให้เห็นการสร้างค่านิยมงมงายให้กับคนรุ่นหลัง และขยายความไปให้เหตุผลที่เกี่ยวโยงถึงผลประกอบการของสายการบินไทย
สำหรับกระแสข่าวในต่างประเทศออกมาในทาง “โลกพิศวง” หรือ “เรื่องเหลือเชื่อ ปรากฏการณ์ประหลาด”
กระทั่งในช่วงหลังดูท่าจะเป็นกระแสด้านลบท่วมด้านบวก
ในที่สุด “กรมการบินพลเรือน” ต้องเรียกประชุมสายการบินและมีคำสั่งให้ “ลูกเทพ” เป็นสัมภาระปกติ ต้องจัดวางไว้ในที่ทางของสัมภาระ เพื่อยุติกระแส
การบริหาร “ไทยสมายล์” ในยุค “วรเนติ” จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะบันทึกไว้ให้ลูกหลานรุ่นหลังเรียนรู้