สถานีคิดเลขที่ 12 : การเมืองหลัง 2 ธันวาฯ

สถานีคิดเลขที่ 12 : การเมืองหลัง2ธันวาฯ

สถานีคิดเลขที่ 12 : การเมืองหลัง 2 ธันวาฯ

ยิ่งนานวัน ดูเหมือนม็อบราษฎร สุขุมคัมภีรภาพยิ่งขึ้น
ได้ยินเสียงเพลงที่ตัวเองร้อง กระหึ่มดัง
ขณะเดียวกัน ก็ได้ยินเสียงร้อง ของผู้คนอีกฝั่ง ในคีย์ที่แตกต่างออกไป
คนละบทเพลง

การปรับแผนชุมนุมหน้ารัฐสภา เกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน จากแต่เดิมตั้งเป้าปักหลักค้างคืน กดดันโหวตรับญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ ตัดสินใจ เปลี่ยนสถานที่ชุมนุมใหม่ในวันรุ่งขึ้น เมื่อเห็นสัญญาณบางประการ ที่หากยืนกรานตามเดิม อาจนำไปสู่การเผชิญหน้า สุ่มเสี่ยงเกิดความรุนแรง สูญเสีย

อาจไม่อธิบายได้ดีเท่าใดนัก

Advertisement

17 พฤศจิกายน เป็นภาพสะท้อน ของม็อบวัยรุ่น

ที่ไม่ใจร้อน หัวร้อนตามวัย มากกว่า

แต่การย้ายสถานที่ชุมนุม ในนามของการแกง จากแยกวังแดง มาเป็นหน้าสำนักงานใหญ่เอสซีบี เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน เด่นชัด ในแผนการ

Advertisement

ตีโจทย์การต่อสู้แตก

ทั้งนี้ เนื่องจากไม่เพียงแต่ ต้องดำรงรักษามวลชนเดิมเอาไว้

หากยังจำเป็นต้องโน้มน้าว ขยายฐานแนวร่วมเข้าไปในหมู่ผู้ยังไม่แน่ใจว่าควรสนับสนุนแนวทางเคลื่อนไหวนี้หรือไม่ ขยายทั้งแนวร่วมที่ออกมาชุมนุมต่อสู้ร่วมกัน และแนวร่วมที่เป็น
กองหนุน มิได้ออกมาเคลื่อนไหว

การขยายแนวร่วม ไม่ใช่งานง่ายแน่นอน

เพราะแนวรบอีกด้าน คือการบ่อนเซาะทำลาย สกัดเติบใหญ่

วัคซีนคุ้มครองป้องกันชั้นดี

คือต้องไม่สูญเสียความชอบธรรม

รู้จังหวะรุก รู้จังหวะถอย

รู้ว่าอะไรที่ สังคมอาจไม่สบายใจ หรืออาจนำไปสู่การแก้ปัญหาโดยวิธีพิเศษ

ทำไปแล้วไม่คุ้มค่า เสียงานใหญ่ ก็ต้องพักไว้

ไม่เดินทะเล่อทะล่า เข้าทางติดกับดัก

แต่ย่างสามขุม

เดินอย่าง สุขุมคัมภีรภาพ

ฝ่ายรัฐเอง ก็ดูเหมือนมีการปรับแผน

ใช้ไม้แข็งบ้าง สลับไม้นวม หนักเบายืดหยุ่นตามสถานการณ์

ไม่งัดมาตรการเข้ม ปราบปรามรุนแรง สลายม็อบ

ระมัดระวัง การใช้ยาแรง ที่อาจเป็นเงื่อนไข ยกระดับชุมนุม

ที่จริงแม้มีอำนาจ

แต่เนื้อในของการชุมนุม ก็ไม่เอื้อที่จะทำอย่างนั้นได้

อย่างมีความชอบธรรม เมื่อได้พยายามแล้ว แต่กระแสคัดค้านกระหึ่ม

เนื่องจากม็อบราษฎร ชุมนุมเคลื่อนไหวในกรอบ

ในที่สุดจึงได้แต่คุมเชิงเท่านั้น

ไม่กล้าเล่นเดินเกมแรง

ฉะนั้น ตราบใดที่กลุ่มราษฎรยังรักษาเพดานการชุมนุมไว้ได้อย่างนี้้

ใช้เสรีภาพในกรอบขอบเขตบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ

รัฐก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ปราบสลายก็ไม่ได้

ข้อนี้คือดี

คือมันคล้าย เป็นหลักประกัน ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ตามข้อวิตกห่วงใย

ช่องทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีเปิดอ้ากว้าง

แต่อีกด้านที่เป็นคำถามก็คือ ราษฎรยื่นคำขาด ให้ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธแล้ว

ไม่อาจสนองตอบเงื่อนไขนั้นได้

เนื่องจาก ไม่ได้ทำผิดอะไร

ทำให้ปัญหาความขัดแย้ง ไม่ได้รับการแก้ไข

คาราคาซัง

แต่บ้านเมืองจะอยู่กันอย่างนี้ต่อไปอีกยาวนาน โดยที่ไม่แก้ ไม่ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากเกิดผลกระทบหลายมิติ

ระยะอันใกล้เฉพาะหน้านี้ การตัดสินคดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่บ้านหลวง
วันที่ 2 ธันวาคม

อาจเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง แก้ปัญหาการเมืองอัตโนมัติ

แต่หากทว่า พ้นวันมีคำพิพากษา ‘บิ๊กตู่’ ยังคงยืนเด่น

เพาเวอร์ ฟูล

เราอาจได้เห็นการปรับกระบวนการเคลื่อนไหวต่อสู้อีกครั้ง

ได้เห็นความกระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่าอย่างเป็นพิเศษ ของหัวหน้ารัฐบาล

และอาจได้เห็น การเพิ่มขีดขั้น ใช้อำนาจแก้ปัญหา

โดย : จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image