| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หวัง เป่าเฉียง ดาวตลกคนดังในวงการภาพยนตร์จีน ประกาศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่าเขาหย่าร้างกับหม่าหรง ภรรยาที่แต่งงานอยู่กินกันมานาน 7 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คนแล้ว พร้อมกับไล่ผู้จัดการส่วนตัวออก โดยให้เหตุผลว่าทั้งคู่แอบลักลอบมีความสัมพันธ์กัน
ข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ของวงการบันเทิงจีน เพราะนายหวังเป็นดาวตลกแถวหน้าคนหนึ่งของวงการ การโพสต์ประกาศหย่าร้างดังกล่าวของนายหวังได้รับความสนใจจากพลเมืองโลกออนไลน์อย่างท่วมท้น โดยมีผู้เข้าไปแสดงความคิดต่อการหย่าร้างของนายหวังมากถึงเกือบ 1.7 ล้านราย ขณะที่การติดแฮชแท็กข่าวการหย่าของดาวตลกดังผู้นี้ยังเรียกยอดวิวได้มากกว่า 3 พันล้านวิว และยังมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นในซินล่างเวยป๋อ ไมโครบล็อกยอดนิยมของจีน อีกมากกว่า 6.73 ล้านความเห็น
ซินล่างเวยป๋อยังเปิดสถิติเกี่ยวกับความคิดเห็นที่พลเมืองเน็ตคอมเมนต์กันเข้ามาต่อข่าวนี้บอกว่า พลเมืองเน็ตราว 47% พากันโพสต์ประณามฝ่ายหญิงที่นอกใจแอบคบชู้ และว่า การกระทำของเธอเป็นการทำลายครอบครัว ขณะที่ผู้แสดงความคิดเห็นบางรายบอกว่าความศรัทธาที่มีต่อชีวิตคู่ค่อยๆ หมดไปหลังจากที่เห็นชีวิตแต่งงานของคู่รักคนดังหลายคู่ไปไม่รอด
ผู้เชี่ยวชาญมองถึงปฏิกิริยาของคนที่ให้ความสนใจและพากันออกมาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมากจนน่าตกใจเช่นนี้ว่าเป็นปรากฏการณ์อีกแง่มุมหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตแต่งงานหรือการใช้ชีวิตคู่ที่มีมากขึ้นในสังคมจีน
หลี่ยินเหอ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสังคมศาสตร์ในจีน ให้ความเห็นกับโกลบอลไทม์สว่า วิกฤตชีวิตคู่ของคนดังหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนและมักจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงจากสังคม เช่นเดียวกับกรณีของดาวตลกคนดัง
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ยังบอกอีกว่า วิถีการดำเนินชีวิตของคนจีนในยุคสมัยนี้เปลี่ยนไปมาก การมีปัญหากันไม่ว่าจะด้วยจากชนวนเหตุใด มักจะนำไปสู่การหย่าร้างได้ง่ายๆ ไม่เหมือนกับสมัยก่อน นั่นทำให้อัตราการหย่าร้างในสังคมจีนปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับแต่มีการออกกฎหมายการสมรสมาในช่วงทศวรรษ 1950 ที่เปิดทางให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอหย่าได้ หากเขาหรือเธอเชื่อว่าคู่สมรสของตนเองไม่ซื่อสัตย์ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานมายืนยันข้อกล่าวหาก็ตาม
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กระทรวงกิจการพลเมืองของจีนเปิดเผยว่า ในปี 2015 มีคู่สมรสในจีนหย่าร้างกันไปทั้งสิ้น 3.48 ล้านคู่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 5.6%
ไจ๋ เจิ้นอู๋ คณบดีคณะสังคมวิทยาและประชากรศึกษา มหาวิทยาลัยเหรินหมิน มองถึงตัวแปรที่ทำให้แนวโน้มการหย่าร้างในจีนเพิ่มขึ้นว่ามาจากความหลากหลายและการเปิดกว้างทางสังคมที่มีมากขึ้น ทำให้มุมมองความคิดของคนที่ว่าการหย่าร้างเป็นความด่างพร้อยหรือเป็นมลทินในชีวิตนั้นลดลงไป
เรียกว่าแคร์สังคมน้อยลง นึกถึงตัวเองมากขึ้น!
