ยืนหน้าศาลวันที่ 33 ‘พ่อน้องเฌอ’ เสียใจ ‘จัสติน’ ติดโควิด ลั่นพิสูจน์ชัดกีดกันทนาย-ญาติแค่ข้ออ้าง
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 เมษายน ที่หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน กรุงเทพฯ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นัดหมายทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ยืนหยุดขัง” เป็นวันที่ 33 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังจากการทำกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งระบุว่าจะจัดขึ้นทุกวันจนกว่าเพื่อนจะได้รับอิสรภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ยังคงมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยมีการยืนเว้นระยะห่าง และสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกราย โดยมีการปรับลดเวลาจากเดิม 112 นาที เหลือ 1 ชั่วโมง 12 นาที มาตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน
ทั้งนี้ ผู้จัดกิจกรรมมีการกั้นพื้นที่ไว้ รวมถึงมีการวัดอุณหภูมิที่จุดพยาบาลและล้างมือด้วยแอกอฮอล์ สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกราย อย่างไรก็ตาม นอกพื้นที่เชือกกั้นซึ่งจำกัด 40 คน มีประชาชนที่มีความประสงค์เข้าร่วม แต่เกินจากลำดับ 40 ราย ได้พากันยืนริมรั้วศาลฎีกา นอกพื้นที่กั้น โดยเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ครอบครัวของนายอานนท์ นำภา รวมถึงมารดาของนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง เข้าร่วมกิจกรรมด้วย โดยมารดานายอานนท์ ยืนข้างแสตนดี้ภาพลูกชาย ส่วนบิดา ห้อยป้ายบนหน้าอก ‘ปล่อยเพนกวิ้นเพื่อนเรา’ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ในขณะที่มารดาของรุ้ง แขวนป้ายภาพลูกสาว มีข้อความว่า ‘ปล่อยลูกแม่’
นายสนั่น นำภา บิดาของนายอานนท์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ กับ ‘มติชน’ ในตอนหนึ่งว่า ขณะนี้สิ่งที่อยากให้เกิดมากที่สุดคืออยากให้ลูกได้รับสิทธิการประกันตัว ยอมรับว่ามีความกังวลในเรื่องคดีความมากกว่าโควิดในเรือนจำ
นายสนั่นกล่าวว่า ที่ผ่านมา ลูกชายไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟังมากนัก แม้กระทั่งเลือกตั้งพรรคการเมืองใด ก็ยังไม่ยอมบอก อย่างไรก็ตาม ภูมิใจที่ลูกเป็นนักต่อสู้
บรรยากาศเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. มีผู้ชุมนุมทยอยเข้าสมทบ โดยยืนรอบนอกรั้วเชือกกั้น เคียงข้างภาพแสตนดี้ผู้ต้องขัง อาทิ ภาพนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง เป็นต้น
เวลา 18.10 น. พี่สาวรุ้ง นำคุกกี้มาแจกผู้ร่วมชุมนุม โดยบนซองพลาสติกมีสติ๊กเกอร์ภาพสายรุ้ง พร้อมข้อความว่า ‘#ฟ้าหลังฝนมีรุ้งเสมอ’
ต่อมา เมื่อเวลา 18.42 น. ครบ 1 ชั่วโมง 12 นาที นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดาของนายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือน้องเฌอ ผู้ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมเสื้อแดง เมื่อปี 2553 จากกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ขอบคุณผู้ร่วมกิจกรรมและกล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 33 ของการทำกิจกรรม จำนวนวันมากขึ้น ในขณะที่วันเวลาของการสูญสิ้นอิสรภาพของเพื่อนเราก็มากขึ้นตามไปด้วย โดยนายอานนท์ นำภา และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ถูกคุมขัง 76 วันแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้ถูกไต่สวน เพนกวินอดอาหารมาแล้ว 41 วัน ส่วนรุ้ง ปนัสยา อดอาหารมาแล้ว 27 วัน
นายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า เมื่อวานนี้เสียใจมากที่กรมราชทัณฑ์แถลงว่า นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือจัสติน ติดเชื้อโควิด ที่ผ่านมามีข้ออ้างไม่ให้เข้าเยี่ยมด้วยมาตรการป้องกันโควิด ซึ่งถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง เพราะสุดท้ายนายชูเกียรติไปติดเชื้อในเรือนจำ แต่กีดกันจำเลยให้มีความยากลำบากในการพบทนายความและญาติพี่น้อง เรายืนยันว่า จะต้องปล่อยเพื่อนเราและคืนสิทธิการประกันตัว
อ่านข่าว : “ราชทัณฑ์ ส่งตัวจัสตินเข้ารพ.ราชทัณฑ์ หลัง พบติดโควิด
ในตอนท้าย ผู้ชุมนุมหันหน้าเข้าสู่ศาลฎีกา ชู 3 นิ้ว ตะโกน ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ 3 ครั้ง ก่อนแยกย้าย อย่างไรก็ตาม เกิดความชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีชาย 2 ราย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ เข้าพูดคุยกับพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมยืนหยุดขัง ทำให้ประชาขนที่ร่วมชุมนุมพากันรุมล้อมดูสถานการณ์ พร้อมตะโกนเสียงดังขึ้นพร้อมกันว่า ‘ตำรวจจะจับพระ’ หลายครั้ง
จากนั้น ได้เรียกร้องขอตรวจสอบบัตรเจ้าหน้าที่ของชายดังกล่าว โดยกล่าวว่า ‘ตำรวจนอกเครื่องแบบไม่แสดงบัตร ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้’
ชายทั้ง 2 ราย เดินถอยออกไป ก่อนข้ามถนนจากฝั่งศาลฎีกาไปยังสนามหลวง เหตุการณ์จึงสงบลง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามภิกษุรูปดังกล่าว ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภิกษุเล่าว่า ชายทั้ง 2 รายขอดูใบสุทธิ และพยายามสอบถามว่าเป็นพระภิกษุจริงหรือไม่ ซึ่งตนยืนยันว่ามีพร้อมนำเอกสารประจำตัวให้ดู
