‘เพชรวรรต’ จ่อยื่นสภาฯ หลังรวมครบ 1 แสนชื่อตามแคมเปญ นำ ‘ทักษิณ’ กลับไทยสู้โควิด
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติ เผยว่า หลังจากที่ตนได้ประกาศแคมเปญ นำ ‘ทักษิณ’ กลับไทยสู้โควิดในช่องทาง Online โดยผ่าน 2 เว็บไซต์ ประกอบด้วย Change.org และ ChangeThai.org ได้รับกระแสการตอบรับมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจาก Link ของเว็บไซต์ http://www.changethai.org/ทักษิณกลับไทย มีการตอบรับมาอย่างรวดเร็วและล้นหลาม ขณะนี้ได้รวบรวมรายชื่อในทั้ง 2 เว็บไซต์ครบ 1 แสนชื่อแล้ว จึงเตรียมตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายก่อนที่จะนำรายชื่อยื่นต่อประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ในเร็วๆ นี้ เพื่อเสนอร่าง “พ.ร.บ.อภัยโทษแก่นักโทษการเมืองเพื่อความปรองดองสามัคคีของคนในชาติ” ต่อรัฐสภา ตนต้องขอขอบคุณ ส.ส. ส.ว.หลายท่าน กลุ่มพ่อค้าประชาชน ดารานักแสดง ข้าราชการ หน่วยงานทุกหน่วยงาน ที่ให้การสนับสนุนแคมเปญนี้ สำหรับการพิจารณาปิดแคมเปญขณะนี้ได้ปิดแคมเปญในส่วน Change.Org แล้วสำหรับในส่วนของ ChangeThai.org จะปิดแคมเปญในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะขอสรุปในคณะทำงานร่วมอีกที และจากกระแสแคมเปญ นำ ‘ทักษิณ’ กลับไทยสู้โควิด ยังมีกระแสติดแฮชแท็ก #พี่โทนี่กลับไทยแน่ ในทวิตเตอร์ มียอดสูงสุดเป็นอันดับ 1 ถึง 153.7 K หรือ 1.5 แสนแฮชแท็กในเพียงชั่วข้ามคืน
ด้าน นายณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษากฎหมาย ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับกระบวนการต่อไปของทีมกฎหมายจะดำเนินการยื่นต่อศาลตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 เป็นคู่ขนานกับการเสนอ พ.ร.บ.ต่อรัฐสภา เนื่องจากที่ผ่านมามีการต่อสู้คดีเพียงฝ่ายเดียว เพราะความไม่มั่นใจในความยุติธรรมที่อาจใช้อำนาจทางการเมืองเข้าครอบงำ ซึ่งในความเป็นจริงจะต้องมีการสู้คดีจากฝ่ายอดีตนายกทักษิณอย่างโปร่งใสตามวิถีของการต่อสู้ทางกฎหมาย และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน การนำอดีตนายกฯทักษิณกลับมาอย่างชอบธรรมจะเป็นบันไดสู่ความปรองดองสมานฉันท์ และจะเป็นบรรทัดฐานสำหรับนักการเมืองรุ่นหลังที่อาจทำคุณประโยชน์นานัปการให้กับประเทศชาติ ไม่ควรมาลี้ภัยทางการเมืองด้วยพิษทางการเมืองในอนาคต จนไม่ก่อให้เกิดความยุติธรรมซึ่งเราควรวางรูปแบบฉบับที่ทำให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก ตนไม่อยากให้เกิดการเกลียดชังกันระหว่างคนไทยด้วยกันด้วยขั้วทางการเมืองจนไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน มันควรจะหยุดอยู่ตรงนี้เพื่อช่วยกันพัฒนาประเทศชาติให้พัฒนาให้เป็นแนวหน้าของโลกในโลกหลังโควิดที่ต้องอาศัยคนทั้งชาติในการขับเคลื่อน
