คอลัมน์ People In Focus : สวี่ เจียยิ่น จากชนบทสู่มหาเศรษฐี ‘เอเวอร์แกรนด์’
สวี่ เจียอิ้น นักธุรกิจผู้ก่อตั้งบริษัทเอเวอร์แกรนด์ วัย 62 ปี ในเวลานี้กำลังถูกจับจ้องว่าจะพาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผ่านวิกฤตหนี้ที่อาจทำให้บริษัท “ล้มละลาย” ได้หรือไม่
สวี่ ผู้ได้เคยถูกจัดอันดับให้เป็นคนรวยที่สุดในประเทศจีน ในช่วงเวลาหนึ่ง เกิดในครอบครัวอันยากจนในย่านชนบท แม่เสียชีวิตลงตั้งแต่มีอายุได้ 1 ขวบ และต้องกินมันเทศและหมั่นโถวเป็นอาหารกลางวันตลอดปีการศึกษาเป็นเวลาหลายปี
สวี่ ระบุในการบรรยายครั้งหนึ่งเมื่อปี 2017 ว่าที่นอนผ้าห่มหรือแม้แต่เสื้อผ้าเต็มไปด้วยรอยปะชุนเต็มไปหมด
“ในเวลานั้นความฝันสูงสุดของผมคือออกไปจากจนบท หางานทำและต้องมีอาหารที่ดีกว่านี้กิน” สวี่ ระบุ
หลังจากต้องออกจากโรงเรียนในปี 1976 ในช่วงสิ้นสุดของการปฏิวัติวัฒนธรรมจีน สวี่ ก็ต้องดิ้นรนหางานทำ
อย่างไรก็ตามสวี่ สอบเข้าเรียนต่อวิทยาลัยได้ ในสาขาวิชา “โลหะการ” ก่อนจะได้ทำงานในโรงงานเหล็กของรัฐ
สวี่ ลาออกจากและเดินทางไปยังเมืองเสิ่นเจิ้น ศูนย์กลางการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนในปี 1992 ก่อนจะก่อตั้งเอเวอร์แกรนด์ขึ้น หรือในอดีตเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เหิงต้า กรุ๊ป ในปี 1996 ในนครกว่างโจว ทางตอนใต้ของจีน
เอเวอร์แกรนด์ เปิดโครงการแรกของบริษัทด้วยอพาร์ตเมนต์ 323 ห้อง และทำสถิติขายหมดภายในครึ่งวัน โกยเงินได้มากถึง 80 ล้านหยวน หรือราว 412 ล้านบาท ในเวลานั้น
จากนั้นเอเวอร์แกรนด์ มีโครงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ในหลายเมืองทั่วประเทศ และขยายธุรกิจออกไปอีกหลายบริษัท นั่นรวมไปถึงการซื้อทีมฟุตบอล กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ และทุ่มเงินซื้อนักเตะระดับโลกมาร่วมทีม
เอเวอร์แกรนด์ เข้าตลาดหุ้นฮ่องกงในปี 2009 ระดมทุนได้มากถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน และทำให้ สวี่ กลายเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ
สวี่ กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีชีวิตหรูหรา ใช้สินค้าแบรนด์เนม เคยตกเป็นข่าวใส่เข็มขัด “แอร์เมส” เข้าร่วมการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ รวมถึงเป็นเจ้าของเรือยอร์ชมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แม้สวี่ จะถูกมองว่าความสำเร็จนั้นเป็นผลมาจากสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อดีตนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า แต่ เจ้าตัวยกความสำเร็จให้กับ “การศึกษา” และ “พรรคคอมมิวนิสต์จีน”
“ไม่มีการปฏิรูปและการเปิดประเทศ เอเวอร์แกรนด์ก็ไม่ได้มาถึงวันนี้” สวี่ ระบุ
