ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : พร้อมกันไหม โดย นฤตย์ เสกธีระ
หนังสือจาก กกต. ที่แจ้งพรรคการเมืองให้เตรียมพร้อม หากมีการเลือกตั้งทั่วไปนั้นน่าคิด
เพราะกฎกติกาที่กำหนด เคยมีปัญหา
หากจำได้ หลายบทบัญญัติในกฎหมาย พรรคการเมืองร้องทุกข์ บอกว่า ทำไม่ได้
กระทั่งมีคำสั่งยกเว้น เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งที่แล้วเกิดขึ้น
แต่การเลือกตั้งครั้งที่จะถึง ไม่มีข้อยกเว้น
ดังนั้น ข้อความที่ กกต. ส่งให้พรรคการเมืองต้องพิจารณา
ขอยกตัวอย่าง
เรื่อง “การจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง”
“หากประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดในจังหวัดนั้น พรรคการเมืองต้องเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบจากจังหวัด เป็นเฉพาะเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น
“โดยต้องมีที่ตั้งสาขาพรรคการเมืองและคณะกรรมการสาขาพรรคการเมืองอยู่ในเขตเลือกตั้งนั้น
“และต้องมีสมาชิกพรรคการเมืองที่มีภูมิลำเนาในเขตเลือกตั้งตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป
“หากไม่ดำเนินการ พรรคการเมืองก็จะไม่สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น หรือจะไม่สามารถแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นได้
“สำหรับพรรคการเมืองที่ยังไม่ได้จัดตั้งสาขาพรรคการเมือง หากประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนแบบแบ่งเขต ก็ต้องจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง”
นี่แค่ข้อเดียว
อีกเรื่อง “การสรรหาผู้สมัคร”
“การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อมีกรณีที่ต้องสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมืองต้องจัดให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง
“ประกอบด้วย บุคคลและจำนวนตามที่กำหนดในข้อบังคับพรรค อย่างน้อยต้องประกอบด้วย กรรมการบริหารพรรค ไม่เกินกึ่งหนึ่งของคณะกรรมการสรรหา หัวหน้าสาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด
“ทั้งนี้ จำนวนหัวหน้าสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค แต่อย่างน้อยต้องมีหัวหน้าสาขาพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 4 สาขา ซึ่งมาจากต่างภาคกัน
“การได้มาซึ่งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต้องกระทำการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองโดยการลงคะแนน
“การสรรหาผู้สมัคร พรรคการเมืองต้องดำเนินการตาม มาตรา 50 และมาตรา 51 พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560”
ลองไปพลิกดูมาตรา 50 และมาตรา 51 พ.ร.ป.พรรคการเมือง
พบว่า มาตรา 50 ระบุขั้นตอนการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.แบบเขต มาตรา 51 ระบุขั้นตอนสรรหาผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
ยกตัวอย่างการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.แบบเขต ตามมาตรา 50
เริ่มจาก คณะกรรมการสรรหาของแต่ละพรรคกำหนดวันรับสมัครผู้ต้องการลงสมัคร ส.ส. ระบบเขต
จากนั้นเปิดรับสมัคร และตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร
ต่อมา ให้นำรายชื่อผู้สมัครส่งให้สาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดที่รับผิดชอบเขตพื้นที่นั้นดำเนินการต่อ
เมื่อสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดได้รับรายชื่อ ให้ประชุมสมาชิกพรรคเพื่อลงคะแนนเลือกผู้สมัคร
การประชุมของสาขาพรรคต้องมีสมาชิกมาร่วมไม่น้อยกว่า 100 คน
หรือถ้าเป็นการประชุมตัวแทนพรรคประจำจังหวัดต้องมีไม่น้อยกว่า 50 คน
ผู้เข้าร่วมประชุมลงคะแนนเลือกผู้สมัคร แล้วนำเอาคนที่ได้รับคะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกส่งกลับไปให้คณะกรรมการสรรหา
คณะกรรมการสรรหานำรายชื่อที่ส่งมาให้คณะกรรมการบริหารพรรคเลือก
ถ้าคณะกรรมการบริหารเลือกได้ก็จบ
แต่ถ้าไม่เลือกใครเลย ก็ต้องเริ่มต้นกระบวนการกันใหม่
ขั้นตอนละเอียดยิบเช่นนี้
ทุกพรรคพร้อมกันไหม?
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]