‘ดอน’ ปลื้ม หลังหลายประเทศโซนยุโรปบริจาควัคซีนโควิดให้ไทย โยน ศบค.พิจารณาเพิ่มจำนวนประเทศเที่ยวไทย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการบริจาควัคซีนของหลายประเทศโซนยุโรปให้กับไทย ว่ามีหลายประเทศที่แสดงเจตนารมณ์ในการบริจาควัคซีนให้แก่ไทย ซึ่งต้องดูรายละเอียดจากกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกรณีที่ประเทศไทยจะเปิดให้อีกหลายประเทศเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยนั้น ต้องรอทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) พิจารณา ประเทศใดที่มีความเสี่ยงต่ำก็ถือว่าอยู่ในข่ายที่จะสามารถเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้ จะเข้ามาอีกกี่ประเทศ ศบค.จะเป็นผู้พิจารณา ส่วนมาตรการต่างๆ ถือว่ามีมาตรฐานอยู่แล้วในการที่จะดูแล โดยนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ไทยกำหนด โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนที่ต้องได้รับการฉีดตามเกณฑ์ที่กำหนด และเมื่อเข้ามาก็ต้องปฏิบัติตามกติกา
“วันนี้การเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่ที่ว่าเราสนใจจะให้ประเทศไหนเข้ามา ถ้าเราสนใจบ้านเราต้องนิ่ง ถ้านิ่งคนก็จะมามาก ความสงบถือเป็นพื้นฐานของคนที่จะเดินทางมาบ้านเรา ซึ่งบ้านเราเป็นเต็งหนึ่งของเสน่ห์ ประเทศต่างๆ มีความสนใจ อยู่ที่ประเด็นเดียวนี่เอง นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนอยู่ที่ประเด็นนี้ประเด็นเดียวเท่านี้เอง ในเรื่องความพร้อม ความสงบร่มเย็น” นายดอนกล่าว
เมื่อถามย้ำว่าความสงบนั้นหมายถึงปัญหาทางการเมืองในประเทศไทยหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า เกี่ยวโยงกันไปหมด เราลองคิดดู หากอยากไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งก็ต้องกลัวเรื่องเหล่านี้ว่าประเทศนั้นๆ มีปัญหาอะไรหรือไม่ ถ้าไปแล้วจะปลอดภัยหรือไม่ ขัดข้องยุ่งยากในเรื่องต่างๆ หรือไม่ มันเป็นเรื่องปกติของผู้ที่จะเดินทางย่อมต้องมีข้อมูลของประเทศที่จะไป ซึ่งต้องช่วยกันก็แค่นั้น
เมื่อถามว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาขณะนี้ประมาณ 80,000 ราย ถือเป็นตัวเลขที่รับได้ใช่หรือไม่ นายดอนกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเข้าใจว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของประเทศต่างๆ ด้วย ความพร้อมของคนที่จะมาก็อยู่ที่บ้านของเขาด้วย คนที่จะเข้ามาต้องผ่านกระบวนการตรวจสุขภาพ ถ้ามาในสภาวะแบบนั้นก็ไม่มีเหตุที่เราจะขัดข้องใจ ขณะเดียวกัน เขาเองก็ต้องตรวจสอบว่าบ้านเรามีผู้ติดเชื้อแต่ละวันตัวเลขอยู่ที่เท่าไหร่ อย่างยุโรปขณะนี้ผู้ติดเชื้ออยู่หลักหมื่น ปัญหาอยู่ที่ว่าคนเขาพร้อมที่จะเดินทางหรือไม่ ขณะเดียวกัน ก็มีปัญหาเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ไม่ใช่ว่าบ้านเขาติดเชื้อมากแล้วจะมาหาที่อุ่นๆ อยู่สบายๆ อะไรก็ตามต้องอยู่ที่ความพร้อมของทั้งสองฝ่าย
